เที่ยวจีน ไปเมืองซัวเถา ถิ่นกำเนิดชาวแต้จิ๋วต้องไปเยือน
เมืองซัวเถา (Shantou) ตั้งอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน เป็นหนึ่งในเมืองสำคัญที่มีบทบาททั้งในด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศจีน นอกจากนี้ ซัวเถายังเป็นที่รู้จักในฐานะถิ่นกำเนิดของชาวแต้จิ๋ว (Teochew) ที่มีวัฒนธรรมและภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้รับการสืบทอดและรักษามาจนถึงปัจจุบัน
ชาวแต้จิ๋วมีการอพยพไปตั้งถิ่นฐานในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น ประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา ชุมชนแต้จิ๋วในต่างประเทศมีการรวมกลุ่มเพื่อรักษาวัฒนธรรมและประเพณีของพวกเขาอย่างเหนียวแน่น และหากมีโอกาส ก็อยากกลับไปบ้านเกิดเมืองนอนของบรรพบุรุษที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาสักครั้ง
เมืองซัวเถาในอดีตเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ซึ่งต่อมาในศตวรรษที่ 18 ถูกยกระดับฐานะขึ้นเป็นเมืองท่านานาชาติ ก่อนจะกลายมาเป็น 1 ใน 4 เมืองเขตเศรษฐกิจพิเศษของจีน อันประกอบไปด้วย เซินเจิ้น จูไห่ เซี่ยะเหมิน และซัวเถา ปัจจุบันมีสถานะเทียบเท่ากับเมืองเซินเจิ้น จูไห่และเซี่ยะเหมิน ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้าในแถบภูมิภาคของจีนแถบบน ดังนั้นแล้ว เมืองซัวเถาก็มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจไม่น้อย มาดูกันว่าไปเที่ยวจีนที่เมืองซัวเถา จะมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง
เฮี้ยงบู้ซัว ชมศาลเจ้าพ่อเสือ
เฮี้ยงบู้ซัว ตั้งอยู่ที่อำเภอลู่เฟิง สร้างในสมัยราชวงศ์ซ่ง มีการบูรณะซ่อมแซมมากมาย จนกลายเป็นศาลเจ้าของศาสนาเต๋าที่ใหญ่โต มีผู้คนศรัทธามาบูชาอยู่เสมอ ปัจจุบันเฮี้ยงบู้ซัวได้ผสมผสานกับศาสนาพุทธให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ให้ท่านได้นมัสการเจ้าพ่อเสือ ซึ่งถือเป็นองค์จริงที่ทางไทยได้จำลองมาสู่ศาลเจ้าพ่อเสือบริเวณเสาชิงช้า ชาวจีนแต้จิ๋วถือว่าในชีวิตหนึ่งสำหรับนักธุรกิจจีนแล้วจะต้องมานมัสการสักครั้งหนึ่ง ซึ่งคนส่วนใหญ่หลังจากนมัสการที่เฮี้ยงบู้ซัวนี้แล้ว กลับมาก็จะทำการค้าขึ้นประสบแต่ความสำเร็จในชีวิต ในทุกๆ ปีจะมีผู้ที่มาบนบานและแก้บน เดินทางมาจากภายในประเทศและต่างประเทศทุกสารทิศ ภายในวัดมีทั้งเทวรูปเจ้าแห่งภาคเหนือ ซึ่งเป็นเทวรูปที่รักษาดูแลเรื่องน้ำ ประดิษฐานปิดทองอยู่ในศาลเจ้าพร้อมกันนั้นก็ยังมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในวิหารหน้า เป็นสถานที่สักการะบูชาของคนซัวเถาอย่างกว้างขวาง และเป็นสถานที่ที่ชาวจีนโพ้นทะเล โดยเฉพาะชาวจีนในประเทศไทยจะนับถือกันมาก
ไฮตังม่า เจ้าแม่ทับทิม เกาะหม่าสือ
เกาะหม่าสือ เป็นเกาะที่มีทิวทัศน์สวยงามเป็นเกาะศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจีนทั้งในและต่างประเทศให้ความนับถือ เกาะหม่าสือเป็นเกาะขนาดเล็ก มีเนื่อที่ 0.90 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวซัวเถา ให้ท่านขอพรจาก ไฮตังม่า เจ้าแม่ทับทิม ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองชาวจีนแต้จิ๋วที่อยู่ติดทะเล และมีวิถีชีวิตอยู่กับทะเล ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองชาวจีนแต้จิ๋วที่อยู่ติดทะเลและมีวิถีชีวิตอยู่กับทะเล
ไฮตังม่า หรือที่รู้จักในชื่อ เจ้าแม่ทับทิม เป็นเทพธิดาแห่งทะเลในวัฒนธรรมจีน ซึ่งชาวเรือและชาวประมงนับถือเป็นผู้คุ้มครองและปกป้องในการเดินทางทางทะเล ชื่อจริงของเธอคือ หลินโหมว (Lin Mo) หรือ หลินโมเนียง (Lin Mo Niang) เกิดในครอบครัวชาวประมงในมณฑลฝูเจี้ยน (Fujian) เมื่อสมัยราชวงศ์ซ่ง (Song Dynasty) ตามตำนานเล่าว่า หลินโหมวมีความสามารถในการทำนายสภาพอากาศและช่วยเหลือชาวเรือให้รอดพ้นจากอันตรายกลางทะเล
ชาวบ้านต่างนับถือเธอเป็นเทพธิดาและสร้างศาลเจ้าเพื่อบูชา เนื่องจากเธอได้ช่วยเหลือผู้คนมากมายจากภัยพิบัติทางทะเล ทำให้เธอได้รับการเคารพบูชาในฐานะ "เทพธิดาแห่งทะเล" หรือ "เจ้าแม่ทับทิม" ที่ผู้คนเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์และสามารถปกป้องคุ้มครองจากอันตรายทางทะเล
เที่ยวเมืองซัวเถา ชมเมืองโบราณแต้จิ๋ว (Chaozhou Ancient City)
เมืองแต้จิ๋ว เป็นเมืองโบราณ ที่เป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมจีนโพ้นทะเลสำคัญอีกแห่ง ที่ต้อนรับการกลับบ้านของชาวจีนทั่วโลกด้วยตึกรามบ้านช่องแบบโบราณ ที่บางแห่งมีประวัตินับพันปีอย่างไม่เปลี่ยนแปลง
เมืองแต้จิ๋ว ตั้งอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแต้จิ๋วที่สำคัญ เมืองนี้มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมโบราณ ศิลปะวัฒนธรรม และอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเมืองแต้จิ๋วมีประวัติศาสตร์ย้อนไปมากกว่าพันปี ก่อตั้งขึ้นในสมัยราชวงศ์ฮั่น (Han Dynasty) และเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในช่วงราชวงศ์ถัง (Tang Dynasty) และซ่ง (Song Dynasty) เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่สำคัญ ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนสินค้ากับหลายประเทศ
วัดไคหยวน
วัดไคหยวน เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของเมืองแต้จิ๋ว วัดสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถังราว ค.ศ.738 สมัยจักรพรรดิ์ถังสวนจง (หมิงตี้) บางส่วนเป็นศิลปะสมัยราชวงศ์ซ่งและหยวน แต่ก่อนเคยมีเนื้อที่ร้อยกว่าโหม่ว (โหม่ว เป็นภาษาจีนแต่จิ๋ว ภาษาจีนกลางเรียกว่า หมู่ เป็นมาตราวัด 1 หมู่มีเนื้อที่เท่ากับ 666.7 ตร.ม.) แต่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 20 โหม่ว ถูกรุกที่บ้าง เอาไปทำอย่างอื่นบ้าง ประตูใหญ่ที่คนเข้าออก (ซานเหมือน) มีท้าวโลกบาล (เทียนหวัง) อยู่ด้านซ้ายขวาข้างละ 2 องค์ ตรงกลางเป็นรูป พระศรีอาริยเมตไตร อาคารหลักเรียกว่า ต้าฉงอู่เตียน เป็นวิหารกลาง ปลูกบนยกพื้นหินแกรนิต ภายในมีพระปฏิมาประธาน 3 องค์ ตรงกลางเป็นพระศากยมุนี ข้างซ้ายเป็นพระไภษัชยคุรุ ด้านขวาเป็นพระอมิตาภะ ริมผนังสองด้านเป็นพระอรหันต์ข้างละ 9 องค์ รวมเป็น 18 ที่เรียกว่า จับโป้ยหล่อฮั่น ตรงกลางเป็นพระแม่กวนอิมเหยียบบนปลาหลีฮื้อ เรียกว่า กวนอิมทะเลใต้ ประติมากรรมทั้งหมดนี้สร้างขึ้นใหม่ แต่มีความงดงามมากเนื่องจากของเดิมถูกทำลายหมดในสมัยปฏิวัติวัฒนธรรม สร้างเพื่อรำลึกถึงเสนาบดีหันเหวินกงผู้ซื่อตรงและเต็มไปด้วยความสามารถในสมัยราชวงศ์ถัง แต่ถูกพวกกังฉินยุยงฮ่องเต้และโดนเนรเทศลงมาภาคใต้ ซึ่งเป็นเมืองแต้จิ๋ว ณ ปัจจุบัน โดยหันเหวินกงเป็นผู้ทำให้เมืองแต้จิ๋วมีความเจริญสูงสุด ทั้งด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ฯลฯ
สะพานเซียงจื่อ (Xiangzi Bridge)
สะพานเซียงจื่อ เป็นสะพานโบราณข้ามแม่น้ำหานเจียง มีชื่ออีกชื่อว่าสะพานกว่างจี้ ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของตัวเมืองแต้จิ๋ว เริ่มสร้างในสมัยราชวงศ์ซ้ง ตรงกับปี ค.ศ. 1170 โดยใช้เวลาสร้างยาวนานถึง 57 ปี มีความยาว 515 เมตร ช่วงกลางสะพานซึ่งเป็นช่วงที่กว้างที่สุด มีความกว้างประมาณ 100 เมตรเป็นสะพานแห่งแรกของเมืองจีนที่เปิดปิดได้
สะพานเซียงจื่อ หรือที่รู้จักในชื่อ สะพานกวงจี (Guangji Bridge) เป็นสะพานโบราณที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม สะพานนี้มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมและเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ล้ำสมัยในยุคนั้น และถือเป็นหนึ่งในสะพานโบราณที่มีความสำคัญที่สุดในประเทศจีน โดยมีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางข้ามแม่น้ำหาน (Han River) ซึ่งเป็นแม่น้ำสำคัญของเมืองแต้จิ๋วและมีส่วนประกอบสำคัญคือ สะพานหินและสะพานไม้ที่สามารถเปิดปิดได้เพื่อให้เรือสามารถผ่านได้ ความโดดเด่นของสะพานเซียงจื่อก็คือ สถาปัตยกรรมและโครงสร้างที่มีการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร ประกอบด้วยส่วนที่เป็นสะพานหินคงที่และสะพานไม้ที่สามารถเลื่อนเปิดปิดได้ ลักษณะพิเศษของสะพานนี้คือการรวมเทคนิคการก่อสร้างสะพานแบบถาวรและแบบชั่วคราวเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีเสาทั้งหมด 24 ต้นที่สร้างขึ้นจากหินเพื่อรองรับโครงสร้างหลัก เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเมืองซัวเถาที่สวยงามและถือว่าล้ำยุคในสมัยนั้น
ศาลเจ้าไต่ฮงกง
ศาลเจ้าไต่ฮงกง ซึ่งอยู่ทางด้านเหนือของเมืองเฉาหยางแต่เดิมเป็นสุสาน ของซ่งไต่ฮงกงโจวซื่อ และได้มีการปฏิสังขรณ์ให้มีอาณาบริเวณกว้างขึ้นกว่าเดิม สิ่งที่ดึงดูดใจผู้คนมากที่สุดคือ ศาลาไต่ฮงกง ซึ่งมีความยาว 22 เมตร สูง 14 เมตร โดยใช้เสาหินขนาดยักษ์ 16 ตันค้ำไว้ ภายในศาลามีรูปแกะสลักของท่านไต่ฮงกงประดิษฐานอยู่ โดยใช้หยกขาวที่นำเข้ามาจากประเทศพม่ามาแกะสลัก มีความสูงประมาณ 2.8 เมตร น้ำหนักประมาณ 3.5 ตัน เป็นที่นับถือของชาวจีนในพื้นที่และชาวจีนโพ้นทะเล และชาวจีนในประเทศไทยได้รวบรวมกันบริจาคเงินในการซ่อมแซม บูรณะสุสานแห่งนี้จนใหญ่โต สวยงามดังที่ได้เห็นในปัจจุบัน ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของปอเต็กตึ้งในประเทศไทยด้วย ซึ่งปัจจุบันสุสานแห่งนี้ได้รับการบูรณะซ่อมแซมจากการร่วมบริจาคของชาวจีน จนมีความใหญ่โตและสวยงาม สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เกิดจากหลวงพ่อต้าเฟิงจู่ซือ สมัยราชวงศ์ซ่ง ตามจดบันทึกของโบราณคดี ต้าเฟิงจู่ซือเป็นคนสมัยราชวงศ์ซ่ง เกิดที่อำเภอเวินโจว มณฑลเจ๋อเจียง สอบได้จิ่นสื้อ เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่แต่เห็นการปกครองและข้าราชการไม่ดี จึงออกบวชเป็นพระธุดงค์มาถึงหมู่บ้านเหอผิงหลี่ มณฑลกวางตุ้ง ได้สร้างวัด สร้างโรงเรียน สร้างสะพาน และช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้แก่ชาวบ้านตลอดมา หลังมรณภาพชาวบ้านได้ฝังศพ ณ ที่เหอผิงหลี่ และสร้างศาลเจ้าไว้เพื่อเป็นการรำลึกถึงบุญคุณและความดีขององค์ ไต่ฮงกงผู้นี้
วัดแปะฮวยเจียม หรือ วัดดอกไม้ขาว
วัดแปะฮวยเจียม มีการสร้างศาลเจ้าใหญ่โตตามความเชื่อของศาสนาเต๋ามาตั้งแต่ดั้งเดิมนานหลายร้อยปี และมีการขยายบูรณะใหม่เมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา ภายในตั้งองค์เทวรูปต่างๆ ตามแบบศาสนาเต๋า เช่น อี้หวางฮ่องเต้ กษัตริย์สูงสุดบนสวรรค์ (พระเจ้าหยก) และเทวรูปต่างๆ มีขุนนางขุนศึก มหาอุปราชดังกับกรมต่างๆ ของจีนโบราณ พร้อมทั้งกิ้วเทียนเนี้ยงเนี้ยง เจ้าแม่สวรรค์ชั้นเก้า ซึ่งเป็นมารดาของพระเจ้าหยก และแต่ละชั้นของสวรรค์ก็ยังมีเจ้าแม่แต่ละองค์ดูแลศาลเจ้าแห่งนี้ มีผู้คนศรัทธามากราบไหว้มาก
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้