สรุปการเดินทาง
Day
|
Highlight
|
Meal
|
Hotel
*หรือเทียบเท่า
|
B |
L |
D |
1 |
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ |
|
|
|
-
|
2 |
ดูไบ - เมืองเจนีวา - น้ำพุเจดโด - เมืองโลซานน์ - ศาลาไทย |
|
|
|
Movenpick Lausanne Hotel
|
3 |
เมืองแทสช์ - เมืองเซอร์แมท - ยอดเขากอร์เนอร์กรัท - แมทเทอร์ฮอร์น |
|
|
|
Hotel Alex Zermatt
|
4 |
อันเดอร์แมท - รถไฟกลาเซียเอ็กซ์เพลส - อินเตอร์ลาเก้น |
|
|
|
Metropole Hotel
|
5 |
ยอดเขาจุงฟราว TOP OF EUROPE - เมืองลาเทอบรุนเน่น - กรุงเบิร์น |
|
|
|
Hotel Ambassador
|
6 |
กรุงเบิร์น - ย่านเมืองเก่า - เมืองลูเซิร์น - สะพานไม้ชาเปล |
|
|
|
Radisson Blu Lucerne Hotel
|
7 |
ยอดเขาสแตนเซอร์ฮอร์น - เมืองซูริค - ช้อปปิ้งบาห์นโฮฟซตราสเซอ - สนามบินเมืองซูริค |
|
|
|
-
|
8 |
สนามบินดูไบ - กรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) |
|
|
|
-
|
อัตราค่าบริการ
Booking |
Seat Available
|
ช่วงเวลาเดินทาง |
ราคา (บาท/ท่าน) |
|
6
|
8-15 ต.ค. 67
|
129,900
|
|
6
|
16-23 ต.ค. 67
|
129,900
|
*หมายเหตุ : กรุณาเช็คที่นั่งว่างกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
แพลนการเดินทาง
วันแรก :: กรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ)
|
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
|
|
|
23.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบิน Emirates Airlines
วันที่สอง :: ดูไบ - เมืองเจนีวา - น้ำพุเจดโด - เมืองโลซานน์ - ศาลาไทย
|
ออกเดินทาง
|
|
|
- 02.00 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบิน Emirates Airlines เที่ยวบินที่ EK377 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
- 06.00 น. เดินทางถึง เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
- 08.30 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสายการบิน Emirates Airlines เที่ยวบินที่ EK089 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
- 13.15 น. เดินทางถึง เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
|
= เมืองเจนีวา = น้ำพุเจดโด (Jet d'Eau)
|
|
|
น้ำพุกลางทะเลสาบเลคเลมังค์ เป็นน้ำพุที่สูงและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สามารถพุ่งได้สูงสุดประมาณ 140 เมตร (459 ฟุต) สามารถมองเห็นได้จากทุกจุดในเมือง น้ำพุเจดโดจึงถือว่าเป็น "สัญลักษณ์ของกรุงเจนีวา"
แวะชมและถ่ายภาพกับ นาฬิกาดอกไม้ที่ สวนอังกฤษ (Jardin Anglais) ริมทะเลสาบเจนีวา ซึ่งบ่งบอกถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกา
|
= เมืองโลซานน์ =
ศาลาไทย (Thailand pavillon)
|
|
|
ถ่ายภาพ อาคารสำนักงานโอลิมปิกสากล ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทะเลสาบเลคเลมังค์ เยี่ยมชม ศาลาไทย ที่รัฐบาลไทยได้ร่วมกันก่อสร้างให้เมืองโลซานน์ ในวโรกาสเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี และเชื่อมความสัมพันธ์ไทย-สวิตเซอร์แลนด์ ครบ 75 ปี
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
|
|
พักที่ Movenpick Lausanne Hotel หรือในระดับเทียบเท่า
|
|
|
วันที่สาม :: เมืองแทสช์ - เมืองเซอร์แมท - ยอดเขากอร์เนอร์กรัท - แมทเทอร์ฮอร์น
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
= เมืองแทสช์ (Tasch) = ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง
|
|
|
|
= เมืองเซอร์แมท (Zermatt) = เดินทางโดยรถไฟ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที
|
|
|
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
ยอดเขากอร์เนอร์กรัท (Gornergrat)
|
|
|
เดินทางสู่ ยอดเขากอร์เนอร์กรัท (Gornergrat) โดยรถไฟ เส้นทางจะผ่านธรรมชาติทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่สวยงามทั้งสองข้างทางสู่ ยอดเขากอร์เนอร์กรัท ที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 3,286 เมตร ที่นี่ท่านจะได้พบจุดที่สวยที่สุดของการชมยอดเขาต่างๆ
|
ยอดเขาแมทเธอร์ฮอร์น (Matterhorn)
|
|
|
จากยอดเขากอร์เนอร์กรัท เป็นจุดชม ยอดเขาแมทเธอร์ฮอร์น อีกแห่งหนึ่งที่สวยงาม อิสระให้ท่านถ่ายรูปบรรยากาศที่สวยงามและสนุกสนานกับกิจกรรมบนยอดเขา ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองเซอร์แมทอีกครั้งโดยรถไฟ
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
|
|
พักที่ Hotel Alex Zermatt หรือในระดับเทียบเท่า
|
|
|
แนะนำให้ท่านเตรียมกระเป๋าเดินทางใบเล็ก เพื่อความสะดวกในการเดินทางและเข้าพักที่เมืองเซอร์แมท โดยจัดเสื้อผ้าและของจำเป็นที่ต้องใช้สำหรับการเข้าพัก 1 คืน
วันที่สี่ :: อันเดอร์แมท - รถไฟกลาเซียเอ็กซ์เพลส - อินเตอร์ลาเก้น
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
|
|
= เมืองอันเดอร์แมท (Andermatt) = ใช้เวลาเดินทางแบบชมทัศนียภาพประมาณ 3 ชั่วโมง
|
|
|
เดินทางสู่ เมืองอันเดอร์แมท (Andermatt) ในระหว่างการเดินทางท่านจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันงดงามของธรรมชาติทั้งทะเลสาบและเทือกเขาแอลป์ของสวิตเซอร์แลนด์ตอนกลาง โดยรถไฟสายสำคัญ กลาเซียเอ็กซ์เพลส (Glacier Express) ใช้เวลาเดินทางแบบชมทัศนียภาพประมาณ 3 ชั่วโมง เป็นรถไฟด่วนที่ช้าที่สุดเพื่อให้ผู้โดยสารได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพของธรรมชาติสองข้างทางที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามความสูงต่ำของภูมิประเทศผ่านทิวทัศน์อันตระการตาของหุบเขา ป่าไม้ น้ำตก ลำธาร ทุ่งหญ้า หมู่บ้านชนบท เมืองตากอากาศและหิมะอันขาวโพลน
|
รับประทานกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
= เมืองอินเตอร์ลาเก้น = ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
|
|
|
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Tune lake) และ ทะเลสาบเบรียนซ์ (Brienz lake) เพลิดเพลินเที่ยวชมเมืองสัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ และอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อนาฬิกายี่ห้อดังหลากหลายที่ผลิตในสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ว่าจะเป็น ROLEX, OMEGA, CHOPARD, TAG HEUER, PATEK PHILIPPE, LONGINES และอื่นๆ อีกมากมาย
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
|
|
พักที่ Metropole Hotel หรือในระดับเทียบเท่า
|
|
|
วันที่ห้า :: ยอดเขาจุงฟราว TOP OF EUROPE - เมืองลาเทอบรุนเน่น - กรุงเบิร์น
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
= เดินทางสู่ เมืองกรินเดลวาลด์ = ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
|
|
ยอดเขาจุงฟราว (Jungfrau)
|
|
|
ขึ้นสู่ ยอดเขาจุงฟราว Top of Europe โดยกระช้าไฟฟ้า Eiger Express ซึ่งเป็นกระเช้าใหม่ล่าสุดที่จะพาทุกท่านขึ้นสู่ยอดเขาในเวลาเพียง 15 นาที (จากสถานี Grindelwald Terminal ไปยัง Eiger Glacier Terminal) ซึ่งยอดเขาจุงฟราวได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกของสวิตเซอร์แลนด์ ที่อยู่บนความสูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 4,158 เมตร ที่มี่หิมะปกคลุมตลอดทั้งปี
นำท่านชม กลาเซียร์ หรือธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ จากนั้นสนุกสนานกับการเล่นหิมะในลานกว้าง(Plateau) หรือเลือกเดินไปยัง SPHINX ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรป สามารถมองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร ชม ถ้ำน้ำแข็ง ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Alestsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ยาวถึง 22 ก.ม. และหนา 700 เมตร และไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา
|
|
= เมืองลาเทอบรุนเน่น (Lauterbrunnen) =
|
|
|
เดินเล่นแวะถ่ายรูปกับหมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขาที่แยกเป็นสองแพร่ง เงียบสงบและไม่วุ่นวาย โดยมีฉากหลังของหมู่บ้านคือน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดชื่อว่า ชเตาบ์บาค (Staubbach) น้ำตกที่มีความสูง 300 เมตร และเป็นหนึ่งในน้ำตกที่ตกลงมาแบบม้วนเดียวจบที่สูงที่สุดในยุโรป
|
= กรุงเบิร์น = เดินทางโดยรถโค้ช ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
|
|
|
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
|
|
พักที่ Hotel Ambassador หรือในระดับเทียบเท่า
|
|
|
วันที่หก :: กรุงเบิร์น - ย่านเมืองเก่า - เมืองลูเซิร์น - สะพานไม้ชาเปล
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
|
|
ย่านเมืองเก่า กรุงเบิร์น
|
|
|
เที่ยวชมสถานที่สำคัญต่างๆในกรุงเบิร์น ชม บ่อหมีสีน้ำตาล สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น มาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่าปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติคเป็นย่านที่ปลอดรถยนต์จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200-300 ลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชม นาฬิกาไซ้ท์คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปีที่มีโชว์ให้ดูทุกๆ ชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง หอนาฬิกานี้ในช่วงปีค.ศ. 1191-1256 ใช้เป็นประตูเมืองแห่งแรกภายหลังได้ดัดแปลงไซ้ท์คล็อคเค่นทรัมให้กลายมาเป็นหอนาฬิกาพร้อมติดตั้งนาฬิกาดาราศาสตร์เข้าไป จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่นและเก็บภาพตามอัธยาศัย หรือจะเลือกช้อปปิ้งซื้อสินค้าแบรนด์เนมและซื้อของที่ระลึก
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
= เมืองลูเซิร์น = ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
|
|
|
|
สะพานไม้ชาเปล (Chapel bridge)
|
|
|
เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสะพานไม้นี้ถูกไฟไหม้เสียหายไปมาก ต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่เกือบหมด
|
รูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน (Lion of Lucerne)
|
|
|
เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิตเซอร์แลนด์ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
|
|
พักที่ Radisson Blu Lucerne Hotel หรือในระดับเทียบเท่า
|
|
|
วันที่เจ็ด :: ยอดเขาสแตนเซอร์ฮอร์น - เมืองซูริค - ช้อปปิ้งบาห์นโฮฟซตราสเซอ - สนามบินเมืองซูริค
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
|
|
ยอดเขาสแตนเซอร์ฮอร์น (Mt.Stanserhorn)
|
|
|
เดินทางสู่สถานีกระเช้าเพื่อเตรียมตัวเดินทางขึ้นสู่ ยอดเขาสแตนเซอร์ฮอร์น (Mt.Stanserhorn) มีความสูงที่ 1,898 เมตร (6,227 ฟุต) ระหว่างทางคุณจะได้ชมวิวแบบพาโนราม่าและให้ท่านได้สัมผัสการเดินทางโดยขึ้นกระเช้า “Cabrio” กระเช้าลอยฟ้าเปิดประทุนที่มี 2 ชั้นแห่งแรกของโลก และสามารถจุผู้โดยสารได้เกือบ 60 ท่าน โดยชั้นดาดฟ้าจะสามารถจุได้ 30 ท่าน ระยะเกือบ 2 กิโลเมตร ระหว่างทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะสามารถมองเห็นวิวแบบ 360 องศา ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติและทัศนียภาพที่งดงาม
|
อิสระรับประทานอาหารกลางวัน
|
|
= เมืองซูริค = ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
|
|
|
เที่ยวชม จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) จัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางของการค้าสัตว์ที่สำคัญของเมืองซูริค ปัจจุบันจัตุรัสนี้ได้กลายเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แวะถ่ายรูปกับ โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster Abbey) จากบนสะพานมุนสเตอร์บรูค เป็นโบสถ์ที่มีชื่อเสียงของเมืองซูริค สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ ใช้เป็นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงจากทางตอนใต้ของเยอรมันอาศัยอยู่
|
ถนนบาห์นโฮฟซตราสเซอ (Bahnhofstrasse)
|
|
|
เป็นถนนอันลือชื่อที่มีความยาวประมาณ 1.4 กิโลเมตร เป็นถนนที่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติว่าเป็นถนนช้อปปิ้งที่มีสินค้าราคาแพงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตลอดสองข้างทางล้วนแล้วแต่เป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า ร้านค้าอัญมณี ร้านเครื่องประดับ ร้านนาฬิกาและโรงแรมระดับหรู อิสระให้ท่านเดินเล่นและเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
|
ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่สนามบิน
|
|
ออกเดินทาง
|
|
|
21.15 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบิน Emirates Airlines เที่ยวบินที่ EK086 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
วันที่แปด :: สนามบินดูไบ - กรุงเทพฯ
|
เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
|
|
|
- 06.25 น. เดินทางถึง เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
- 09.40 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Emirates Airlines เที่ยวบินที่ EK370 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
- 19.15 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ