Trip Highlight
  • เที่ยวเจาะลึกอิตาลี สัมผัสความงดงามของสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่และทรงคุณค่า 
  • อลังการวิวสวยงามสุดบรรยาย กับธรรมชาติแห่งขุนเขาและทะเลสาบ ณ อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ 
  • เก็บภาพประทับใจ โบสถ์ Santa Maddalena ที่หมู่บ้าน Val di Funes
  • ชมวิวทุ่งหญ้าเขียวขจี และภูเขารูปทรงแปลกตา เมืองออร์ติเซ่ 
  • ชมความยิ่งใหญ่ของโคลอสเซี่ยม และหอเอนปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 
  • ชมเมืองฟลอเรนซ์ ดินแดนอันน่าหลงใหล ต้นกำเนิดของศิลปะเรเนสซองส์ 
  • ล่องเรือชมเมืองเวนิส เมืองแห่งสายน้ำ ดื่มด่ำบรรยากาศอันงดงามสุดแสนโรแมนติก 
  • ท่องย่านเมืองเก่าเวโรน่า ตามรอยตำนานความรัก โรมิโอแอนด์จูเลียต 
  • ชมมหาวิหารดูโอโม่แห่งลาน ที่มีความงดงามและยิ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก 
  • หลงเสน่ห์แห่งประเทศเล็กๆ นครรัฐวาติกัน และความงดงามของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์
  • ช้อปปิ้งแบรนด์ดัง แกลลอเรีย วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล และ Fidenza Village Outlet
  • เดินทางสะดวกสบาย โดยสายการบิน Emirates Airlines กับบริการแบบฟูลเซอร์วิส
Details
ประเทศ: อิตาลี
ระยะเวลา: 8 วัน 5 คืน
รวมมื้ออาหาร: 14 มื้อ
สายการบิน: Emirates
ระดับโรงแรม: หรือเทียบเท่า
ขึ้นเครื่อง: สนามบินสุวรรณภูมิ
ช่วงเวลาเดินทาง: ตุลาคม 2567

BOOKING

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้านี้กรุณาติดต่อเราได้ที่ Call Center. 02-792-9292

สรุปการเดินทาง

Day Highlight Meal Hotel
*หรือเทียบเท่า
B L D
1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ -
2 ดูไบ - กรุงโรม - สนามกีฬาโคลอสเซี่ยม - น้ำพุเทรวี่ - บันไดสเปน
Marriott Rome Park Hotel
3 นครรัฐวาติกัน - มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ - เมืองฟลอเรนซ์
Hotel Charme
4 เมืองปิซ่า - หอเอนปิซ่า - เวนิส เมสเตร้ - เกาะเวนิส - จัตุรัสเซนต์มาร์ค -พระราชวังดอดจ์
Delfino Venice Mestre
5 เขตอุทยานแห่งชาติเทือกเขาโดโลไมท์ - ทะเลสาบมิซูลิน่า - ทะเลสาบเบรียส
Bedbank Hotel
6 VAL DI FUNES - โบสถ์ SANTA MADDALENA - เมืองออร์ติเซ่ - ALPE DI SUISI - เมืองเวโรน่า
Best Western Ctc Hotel Verona
7 มิลาน - มิลานดูโอโม่ - FIDENZA VILLAGE OUTLET - สนามบินมิลาน -
8 สนามบินดูไบ - กรุงเทพฯ -

อัตราค่าบริการ

Booking

Seat
Available

ช่วงเวลาเดินทาง ราคา
 (บาท/ท่าน)

6

10-17 ต.ค. 67

87,900

6

16-23 ต.ค. 67

87,900

*หมายเหตุ : กรุณาเช็คที่นั่งว่างกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง


แพลนการเดินทาง

วันแรก :: กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

สนามบินสุวรรณภูมิ

23.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบิน Emirates Airlines


วันที่สอง :: ดูไบ - กรุงโรม - สนามกีฬาโคลอสเซี่ยม - น้ำพุเทรวี่ - บันไดสเปน

ออกเดินทาง

  • 03.30 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบิน Emirates Airlines เที่ยวบินที่ EK371 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
  • 07.15 น. เดินทางถึง เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
  • 08.55 น. ออกเดินทางสู่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยสายการบิน Emirates Airlines เที่ยวบินที่ EK097 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
  • 12.40 น. เดินทางถึง กรุงโรง ประเทศอิตาลี

= กรุงโรม =
สนามกีฬาโคลอสเซี่ยม
(Colosseum)

เมืองหลวงของประเทศอิตาลี ที่มีศิลปะ สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี กรุงโรม เคยเป็นเมืองที่มีบทบาทมากที่สุดของอารยธรรมตะวันตกและในอดีตได้เป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก 

ถ่ายรูปด้านหน้าของ สนามกีฬาโคลอสเซี่ยม (Colosseum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ในอดีตนั้นเป็นสนามประลองการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของชาวโรมันที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 50,000 คน 

น้ำพุเทรวี่
(Trevi Fountain)

ชมงานประติมากรรมของเทพนิยายกรีกและโยนเหรียญอธิษฐานบริเวณ น้ำพุเทรวี่ สัญลักษณ์ของกรุงโรมอันโด่งดัง 

บันไดสเปน
(The Spanish Step)

เพลิดเพลินเดินเล่นเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นและของที่ระลึกในบริเวณย่าน บันไดสเปน ซึ่งเป็นแหล่งแฟชั่นชั้นนำสุดหรูและยังเป็นแหล่งนัดพบของชาวอิตาเลี่ยน

รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

พักที่ Marriott Rome Park Hotel
หรือในระดับเทียบเท่า


วันที่สาม :: นครรัฐวาติกัน - มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ - เมืองฟลอเรนซ์

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

=นครรัฐวาติกัน=

มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์
(St.Peter’s Basilica)

นครรัฐวาติกัน (Vatican)  ประเทศที่เล็กที่สุดในโลกตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีกำแพงล้อมรอบเมืองเอาไว้ได้ทั้งหมด ยกเว้นด้านหน้าทางเข้า และเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก โดยมีพระสันตะปาปา มีอำนาจปกครองสูงสุด 

นำท่านชมมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St.Peter’s Basilica)

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

=เมืองฟลอเรนซ์ (Florence)=

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ไปยัง เมืองฟลอเรนซ์ เมืองสวยอันดับ 1 ของอิตาลี ที่ได้ขึ้นชื่อว่าหากมาอิตาลีแล้วไม่ได้มาเยือนฟลอเรนซ์ก็เหมือนว่ายังมาไม่ถึงอิตาลีอย่างแท้จริง เป็นเมืองที่ยังคงความสวยงามและมีการอนุรักษ์ไว้ได้อย่างดี เต็มไปด้วยศิลปะ โดยเฉพาะศิลปะยุคเรเนสซองส์เป็นยุคที่ศิลปะเฟื่องฟูที่สุด 

เดินขึ้นไปยัง เนินเขา Piazzale Michelangelo ชมวิวของเมือง Florence ในมุมสูง มองเห็นอาคารหลังคาสีแดงสุดคลาสสิคที่เรียงรายกันเป็นแนวสวยงาม

รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

พักที่ Hotel Charme
หรือในระดับเทียบเท่า


วันที่สี่ :: เมืองปิซ่า - หอเอนปิซ่า - เวนิส เมสเตร้ - เกาะเวนิส - จัตุรัสเซนต์มาร์ค - พระราชวังดอดจ์

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

= เมืองปิซ่า(Pisa)=

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงไปยัง เมืองปิซ่า (Pisa)  เมืองแห่งศิลปะที่สำคัญของอิตาลี เดินทางเข้าสู่ บริเวณ จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า หรือ จัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี (Compo Dei Miracoli) ที่ประกอบด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ โดยเริ่มจาก หอพิธีเจิมน้ำมนต์ (Baptistry of St. John) ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ชม มหาวิหารดูโอโม (Duomo) ที่งดงามและหอเอนแห่งเมืองปิซ่าอันเลื่องชื่อ ถ่ายภาพคู่กับ หอเอนปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) สัญลักษณ์แห่งเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง

รับประทานกลางวัน ณ ภัตตาคาร

=เมืองเวนิส=

เมสเตร้ (Mestre) - ล่องเรือเกาะเวนิส

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง ุถึงเมืองเวนิส เมสเตร้(Mestre) แคว้นเวเนเซีย (Venezia) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะและมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง

ขึ้นฝั่งที่บริเวณซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส ท่านออกเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ เพื่อเตรียมตัวนั่งเรือข้ามสู่เกาะเวนิส นำทุกท่านนั่งเรือต่อเพื่อไปยัง ท่าเรือซานมาร์โค (San Marco Pier) บนเกาะเวนิส 

พระราชวังดอดจ์
(Doge’s Palace)

แวะให้ถ่ายรูปสวยๆ เก็บเป็นที่ระลึกกันที่ พระราชวังดอดจ์ (Doge’s Palace) พระราชวังริมน้ำแสนอลังการที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ในสไตล์เวเนเชียนโกธิค ที่เคยเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแต่เก่าก่อนของเวนิส 

จัตุรัสเซนต์มาร์ค
(St. Mark’s Square)

เดินเที่ยวชมแลนด์มาร์คสำคัญต่างๆ ในเมือง และเก็บภาพสถานที่ต่างของเมืองแห่งคลองไม่ว่าจะเป็น จัตุรัสเซนต์มาร์ค (St. Mark’s Square) จัตุรัสหลักของเมืองเวนิสและยังเป็นศูนย์กลางเมืองตั้งแต่โบราณ รายล้อมไปด้วยอาคารสวยๆ สไตล์โกธิค 

และจุดเด่นของจัตุรัสเซนต์มาร์คแห่งนี้ก็คือ มหาวิหารเซนต์มาร์ค (St. Mark’s Basilica) ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของจัตุรัสเซนต์มาร์ค มหาวิหารใหญ่ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก อลังการด้วยการตกแต่งด้วยโดมใหญ่ รูปปั้นมากมายที่ทั้งละเอียดและประณีต

และที่อยู่ติดกันและโดดเด่นด้วยความสูงถึง 50 เมตรก็คือ หอระฆัง ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองที่เห็นได้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของเมืองก็ตาม และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ สะพานถอนหายใจ สะพานอันโด่งดังแห่งนี้ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำที่คั่นกลางระหว่างคุกเก่ากับพระราชวังดอดจ์ ทำจากหินปูนที่แกะสลักและออกแบบอย่างงดงามเช่นเดียวกับพระราชวังดอดจ์และอาคารโดยรอบ ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางโดยเรือกลับสู่ เวนิส เมสเตร้

รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

พักที่ Delfino Venice Mestr
หรือในระดับเทียบเท่า


วันที่ห้า :: เขตอุทยานแห่งชาติเทือกเขาโดโลไมท์ - ทะเลสาบมิซูลิน่า - ทะเลสาบเบรียส

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

เขตอุทยานแห่งชาติเทือกเขาโดโลไมท์
(Dolomites)

หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศอิตาลี ด้วยบรรยากาศที่สวยงามของทะเลสาบหลายแห่งและเทือกเขาหินปูนมี่สวยงามแปลกตาสูงตระหง่าน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง 

ทะเลสาบมิซูริน่า
(Misurina Lake)

นำท่านเดินทางสู่ที่ ทะเลสาบมิซูริน่า ทะเลสาบที่สวยงามที่หลบซ่อนตัวในหุบเขา ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งในโดโลไมท์ หนึ่งในแลนด์มาร์คที่ต้องมาเยือนสักครั้ง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ทะเลสาบเบรียส
(Lake Braies)

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ถึงทะเลสาบเบรียส ทะเลสาบที่ได้ขึ้นชื่อว่าไข่มุกแห่งโดโลไมต์ ตั้งอยู่ในหุบเขาโดโลไมต์และยังได้เป็นส่วนหนึ่งในมรดกโลก (Unseco) อีกด้วย 

=เมืองโบลซาโน(Bolzano)=

เดินทางสู่ เมืองโบลซาโน (Bolzano) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง เมืองที่ถือว่าเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ โบลซาโน่เป็นเมืองหลวงของภูมิภาคทีโรลใต้ ซึ่งล้อมรอบด้วยแม่น้ำ ที่นี่แม่น้ำ Talvera จะไหลลงไปในแม่น้ำ Israco และมารวมกันเป็นแม่น้ำ Adige (เมืองโบลซาโน เป็นเมืองที่ใช้ในการพักค้างคืนเท่านั้น อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้หากไม่มีที่พักว่างในช่วงวันเดินทางนั้นๆ โดยทางบริษัทจะเปลี่ยนไปยังเมืองอื่นแทนโดยยังคงซึ่งความสะดวกสบายในการเดินทาง)

รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

พักที่ Bedbank Hotel 
หรือในระดับเทียบเท่า


วันที่หก :: VAL DI FUNES - โบสถ์ SANTA MADDALENA - เมืองออร์ติเซ่ - ALPE DI SUISI - เมืองเวโรน่า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

= Val di Funes =
โบสถ์ Santa Maddalena

เดินทางสู่ ชุมชน Val di Funes หรือ Villnöß ชุมชนเล็กๆ ทางภาคตะวันตกของอุทยานโดโลไมต์ ประกอบไปด้วยหมู่บ้านเล็กๆ 6 หมู่บ้าน มีวิวทิวทัศน์ที่สวยที่ในเขต South Tyrol เก็บภาพความประทับใจ ณ โบสถ์ Santa Maddalena โบสถ์ที่ถือเป็นสถานที่ไฮไลต์ทที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในอุทยานโดโลไมต์ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมีฉาหหลังเป็นเทือกเขา Odles (การเดินขึ้นไปเก็บภาพความประทับใจนี้ ท่านจะต้องเดินขึ้นลงเนินไปและกลับประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อไปเก็บภาพ) 

=เมืองออร์ติเซ่ (Ortisei)=
Alpe di Siusi

เมืองแห่งศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในแถบอุทยานโดโลไมท์ เป็นเมืองรีสอร์ทเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขา Dolomites Val Gardena โดยมีเทือกเขาต่างๆ นำท่านขึ้น กระเช้า Ortisei / St.Ulrich – Seiser Alm / Alpe di Suisi ขึ้นไปที่ระดับความสูง 1,684 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สู่บนเนินเขา Alpe di Siusi ชมวิวทิวทัศน์บนทุ่งหญ้าราบเลียบบนภูเขา Seiser Alm ที่ได้ขึ้นชื่อว่ากว้างใหญ่ที่สุดในยุโรปและยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก Unesco สัมผัสความงดงามอันประหลาดมหัศจรรย์ของดินแดนเทือกเขาโดโลไมท์ จากมุมสูงรอบด้าน ชมทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ของหุบเขา โตรกผา โดยมีเทือกเขา Sassolungo mountain range ที่มีรูปทรงประหลาดยอดเขาแหลมชันเป็นจุดเด่น

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

=เมืองเวโรน่า (Verona)=

ย่านเมืองเก่าเวโรน่า

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง หนึ่งในหัวเมืองใหญ่ของแคว้น และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ทางภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลี เที่ยวชมย่านเมืองเก่าที่ยังคงเสน่ห์ของความเป็นเมืองยุคกลางไว้ได้อย่างครบถ้วน

บ้านโรมิโอ&จูเลียต
(Casa di Giulietta)

เมืองเวโรน่านี้ยังมีชื่อเสียงด้วยการเป็นเมืองโลเกชั่นของวรรณกรรมชื่อดังอย่าง โรมิโอแอนด์จูเลียต ถ่ายรูปเช็คอินกับต้นกำเนิดตำนานความรัก บ้านโรมิโอ&จูเลียต (Casa di Giulietta) บ้านปูนสีขาวที่มีจุดเด่นคือระเบียงสถานที่ที่โรมิโอและจูเลียตได้พบรักกัน

รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

พักที่ Best Western Ctc Hotel Verona
หรือในระดับเทียบเท่า


วันที่เจ็ด :: FIDENZA VILLAGE OUTLET - มิลาน - มิลานดูโอโม่ - สนามบินมิลาน

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

Fidenza Village Outlet

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเอาท์เลทที่อยู่ในเครือของ The Bicester Collection มีสินค้ามากมายไม่ว่าเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และอื่นๆ ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าตามร้านทั่วไปมีแบรนด์ต่างๆ มากมาย อาทิ Armani Coach Dolce&Gabbana Furla Hugo Lacoste Nike Adidas Prada Samsonite Tommy Hilfiger เป็นต้น

อิสระรับประทานอาหารกลางวัน

=เมืองมิลาน (Milan)=

มหาวิหารมิลาน (Milan Duomo)

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม 

ถ่ายรูปกับ มหาวิหารมิลาน (Milan Duomo) โบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลี โดดเด่นด้วยศิลปะแบบโกธิค ใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น 579 ปี ตั้งอยู่ในระดับความสูง 108.5 เมตรจากพื้นดินราย ล้อมด้วยยอดแหลมอีก135 ยอด พร้อมด้วยรูปแกะสลักจากหินอ่อนที่ประดับอยู่โดยรอบอย่างวิจิตรบรรจงด้วย

Galleria Vittorio Emanuele II

ช้อปปิ้งที่ Galleria Vittorio Emanuele II ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของมหาวิหารมิลาน เป็นห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในอิตาลี โดยสร้างขึ้นในปี 1877 เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมายในอาคารขนาด 4 ชั้น สองข้างทางเดินกว้างที่โดดเด่นมากก็คือหลังคาทรงโดมเป็นกระจกใส ทำให้สามารถช้อปปิ้งได้ในทุกสภาพอากาศ

ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่สนามบิน

อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย

ออกเดินทาง

21.35 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบิน Emirates Airlines เที่ยวบินที่ EK092 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)


วันที่แปด :: สนามบินดูไบ - กรุงเทพฯ

เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

 

สนามบินสุวรรณภูมิ

  • 06.50 น. เดินทางถึง เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
  • 09.30 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Emirates Airlines เที่ยวบินที่ EK372 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
  • 18.40 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

เงื่อนไขสินค้า

อัตรานี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป–กลับ ชั้นประหยัด (เดินทางไปกลับพร้อมกรุ๊ปเท่านั้น) เส้นทางและสายการบินตามระบุในรายการ
  • ค่าภาษีสนามบิน และค่าภาษีน้ำมันตามรายการทัวร์
  • ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามระบุไว้ในรายการ พร้อมคนขับรถ (กฎหมายไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ช.ม. / วัน)
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายการ
  • โรงแรมตามระบุ หรือเทียบเท่า (ห้องละ 2-3 ท่าน) พร้อมอาหารเช้า
  • ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ ให้ท่านได้ลิ้มลองอาหารพื้นเมืองของแต่ละประเทศ
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศในกลุ่มเชงเก้น Schengen Visa (ยื่นที่สถานทูตอิตาลี)
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระที่โหลดลงใต้ท้องเครื่อง สายการบินอนุญาตท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 30 กก.
  • ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางตามกฎหมายกำหนด (ตามเงื่อนไขแห่งกรมธรรม์ประกันภัย)
  • หัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยว คอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง (ไม่รวมค่าทิป)

อัตรานี้ไม่รวม

  • ค่าดำเนินการทำหนังสือเดินทาง หรือค่าธรรมเนียมในการยื่นใบอนุญาตเข้า-ออกเมืองสำหรับคนต่างด้าว
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าเครื่องดื่มและอาหารนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ
  • ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษในร้านอาหาร นอกเหนือจากที่บริษัทฯ จัดให้ ยกเว้นจะตกลงกันเป็นกรณีพิเศษ
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระที่เกินกว่าสายการบินกำหนด
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋าในโรงแรม
  • ค่าทิปคนขับรถท้องถิ่น (2 ยูโร x 6 วัน = 12 ยูโร)
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย (วันละ 100 x 8 วัน = 800 บาท)
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

RELATED ARTICLES

10 ประเทศที่ใครๆ ก็อยากไป ถึงต้องขอวีซ่าก็ไม่หวั่น

แต่ถ้าหากครั้งหนึ่งในชีวิตเราจะเดินทางไปต่างประเทศสักครั้ง ก็น่าจะเป็นประเทศในฝัน หรือประเทศที่ติดอันดับจุดหมายปลายทางของโลกที่ใครๆ ก็อยากไป ซึ่งถึงแม้เราอาจต้องยื่นขอวีซ่าก่อนการเดินทาง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะจุดหมายปลายทางที่เราเลือก ย่อมคุ้มค่ากับการเดินทางอยู่แล้ว

ที่เที่ยวยอดนิยม 10 อันดับจุดหมายปลายทางของโลก

ที่เที่ยวยอดนิยม 10 อันดับจุดหมายปลายทางของโลก อิสตันบูล, ตุรกี โรม, อิตาลี ลอนดอน, สหราชอาณาจักร ปักกิ่ง, จีน ปราก, สาธารณรัฐเช็ก มาร์ราคิช, โมร็อกโก

รู้จักกับ 27 มรดกโลกแห่งใหม่จาก UNESCO

บนโลกใบนี้มีอีกหลายสถานที่ที่เรายังไม่เคยสัมผัส โดยเฉพาะมรดกโลกที่ควรค่าแก่การรักษา ซึ่งในปีนี้ทางยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศรายชื่อมรดกโลกแห่งใหม่จำนวน 27 แห่ง เป็นที่ใดบ้างไปดูกัน

ITALY ที่ไม่ใช่ Landmark เปลี่ยนความจำเจเดิมๆ เที่ยวอิตาลีมุมมองใหม่

เบื่อไหม? กับอิตาลีในมุมเดิมๆ แลนด์มาร์กดังๆ ที่เป็นกันจนชินตา โคลอสเซียม หอเอนปิซ่า หลายคนคงไปเที่ยวกันมาแล้ว อยากไปเที่ยวอิตาลิในมุมมองใหม่บ้างมีที่ไหนบ้างนะ เราจัดให้ เมืองอื่นๆ ในอิตาลีที่ทั้งสวยงามและมีความเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเมืองไหนก็น่าเที่ยวเป็นที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

แชร์ สินค้านี้

ลงทะเบียนรับข่าวสาร WonderfulPackage วันนี้!

รับสิทธิพิเศษและส่วนลดมากมาย เหนือกว่าใคร!