แนะนำ 9 ที่เที่ยวลี่เจียง ที่ต้องไปโดน

ใครไม่เจียง แต่ ลี่เจียง ชื่อนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน พาไปสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ของประเทศจีน เมืองลี่เจียง...ดินแดนภูเขาและธรรมชาติสุดอลังการ บางคนถึงขั้นหลงธรรมชาติที่ลี่เจียงจนอยากกลับไปอีกครั้ง ตามมาดูกันค่ะว่าคุณจะหลงรักเมืองลี่เจียงเหมือนอย่างเราไหม แต่รับรองว่าคุณจะถอนตัวไม่ขึ้นแน่นอน กับที่เที่ยวลี่เจียงที่ต้องไปโดน!

ลี่เจียง (Lijiang) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน เมืองนี้มีชื่อเสียงในด้านวัฒนธรรมดั้งเดิม ธรรมชาติที่งดงาม และสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ลี่เจียงยังเป็นที่ตั้งของเมืองเก่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก และในลี่เจียงมีอะไรน่าเที่ยวบ้างเราไปดูกันเลย

1. ที่เที่ยวลี่เจียง ภูเขาหิมะมังกรหยก

พูดถึงลี่เจียงทั้งที จะไม่พูดดึงภูเขาหิมะมังกรหยกได้ยังไง เพราะนี่คือไฮไลท์เด็ดของลี่เจียงเลยล่ะ ภูเขาหิมะมังกรหยกมีเทือกเขาทั้งหมด 13 ลูก โดยยอดเขาที่สูงที่สุดมีความสูงถึง 5,596 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เพราะฉะนั้นที่นี่จึงมีหิมะปกคลุมตลอดปี ใครจะมาเที่ยวช่วงไหน ยังไงก็ต้องได้เห็นหิมะแบบไม่เสียเที่ยวแน่นอน ที่เค้าเรียกว่าภูเขาหิมะมังกรหยก ก็เพราะว่าถ้ามองจากระยะไกลจะเห็นเป็นลักษณะคล้ายกับมังกรที่กำลังเลื้อย และหิมะที่ปกคลุมอยู่นั้นก็ดูคล้ายกับหยกขาว ยิ่งตัดกับสีน้ำเงินของท้องฟ้าจะยิ่งดูคล้ายกับมังกรขาวบนท้องฟ้าเลย

2. ทะเลสาบพระจันทร์สีน้ำเงิน

Blue Moon Valley หรือทะเลสาบพระจันทร์สีน้ำเงิน ที่เที่ยวลี่เจียงที่อยู่ใกล้กับภูเขาหิมะมังกรหยก ชื่ออันไพเราะเพราะพริ้งนี้ได้มาจากทะเลสาบที่มีน้ำสีเทอร์ควอยซ์ ทะเลสาบพระจันทร์สีน้ำเงินเกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งจากภูเขาหิมะมังกรหยก ทำให้น้ำในทะเลสาบมีความใสและสีฟ้าเข้ม เนื่องจากมีแร่ธาตุและแร่ธาตุต่างๆ ที่ละลายลงมา ทำให้น้ำมีสีที่เป็นเอกลักษณ์ และน้ำในทะเลสาบก็ใสปิ๊ง บวกกับแบล็คกราวด์ด้านหลังที่เป็นภูเขาหิมะสวยๆ ทำให้มีทัศนียภาพที่สวยงามและเงียบสงบ ยิ่งทำให้บรรยากาศของที่นี่งดงามมากขึ้นไปอีก ไฮไลท์ของที่นี่นั้นคือแม่น้ำที่ไหลลงมาจากภูเขาหิมะมังกรหยก ทำให้น้ำใสไหลเย็นตลอดทั้งปี บรรยากาศก็ดีมากๆ 

Cr. chillout-soulout-freakout.blogspot.com

3. น้ำตกไป่สุ่ยเหอ

ไป่สุ่ยเหอ(Baisuihe Waterfall) หรือ ธารน้ำขาว(White Water Terrace) จะอยู่ด้านหลังภูเขาหิมะมังกรหยกเหมือนกันกับ blue moon valley ซึ่งก็อยู่ในบริเวณเดียวกัน ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดของที่เที่ยวลี่เจียงอีกแห่งหนึ่งเลย แค่ระหว่างทางที่มาที่นี่ จะสามารถมองเห็นน้ำสีเทอร์ควอยซ์เด่นมาแต่ไกล โดยเฉพาะน้ำตกที่ลดหลั่นกันไปกลายเป็นธารน้ำขาว พอได้ไปเห็นใกล้ๆ บอกเลยว่าสวยมาก ยิ่งไปช่วงที่มีหมอกหลังฝนตก หรืออากาศหนาวนิดหน่อยจะได้ฟีลยุโรปสุดๆ

Cr. www.trover.com

4. สระน้ำมังกรดำ

สระน้ำมังกรดำ(Black Dragon Pool) หรือ สวนสาธารณะเหยหลงถาน(Heilongtan) ที่นี่คือจุดชมวิวภูเขาหิมะมังกรหยกที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองลี่เจียง ด้วยภาพของทะเลสาบที่มีน้ำในราวกระจก สะท้อนเงาสะพานข้ามทะเลสาบ และภูเขาหิมะได้อย่างชัดเจน และมีภูเขาหิมะมังกรหยกเป็นฉากหลัง ยิ่งถ้าฟ้าเปิดยิ่งเห็นชัดมาก

Cr. www.fliggy.com

5. ยีสุ่ยจ๋าย หรือ อุทยานน้ำหยก

อุทยานน้ำหยก ที่เที่ยวลี่เจียงล่าสุด ถือ เป็นหัวใจทางด้านวัฒนธรรมของชนเผ่าน่าซี หรือก็คือชาวลี่เจียงในปัจจุบันนี่เอง อุทยานแห่งนี้ประกอบไปด้วยจุดน่าสนใจต่างๆ ทั้งประตูสวรรค์ รูปปั้นไม้แกะสลักที่ข้างขวาเป็นพ่อ ข้างซ้ายเป็นแม่ ในพื้นที่จะมีน้ำตกมังกรซึ่งเขื่อว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ แบ่งออกเป็น 3 ชั้น ซึ่งมีชื่อเรียกตามชั้นต่างๆ คือ มังกรออกถ้ำ มังกรเล่นน้ำ และมังกรโบยบิน และยังมีต้นไม้เทวดา อายุเก่าแก่ให้หลายร้อยปี เป็นที่สักการะบูชาของคนที่นั่น

Cr. Places And Foods

6. เมืองโบราณลี่เจียง

เมืองโบราณลี่เจียง หรือ เมืองโบราณต้าเอี้ยนเจิ้น เมืองเก่าแก่อายุกว่า 800 ปีที่สร้างด้วยไม้ ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ ภายในเมืองยังคงบรรยากาศของบ้านเมืองแบบเก่า ทั้งสถาปัตยกรรม บ้านเรือนสไตล์จีนเก่าแก่ที่หาชมได้ยาก สองข้างทางเดิน จะเป็นร้านค้า มีของฝาก ของกินต่างๆ ให้เราได้เดินเล่นกันเพลินๆ ในบรรยากาศแบบเก่าๆ มีทั้งของกินพื้นเมืองและแบบสมัยใหม่ให้เดินไปกินไป อารมณ์คล้ายๆ ตลาดกลางคืนบ้านเรา และยังมีจุดที่ให้เขียนขอพรได้ด้วยนะ อย่าลืมขึ้นไปจุดชมวิวด้านบน จะเห็นหลังคาเมืองโบราณเรียงรายยังกับหนังจีนกำลังภายใน

7. พระราชวังมู่

พระราชวังมู่(Mu Palace) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมืองลี่เจียง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ซึ่งมีลักษณะคล้ายพระราชวังโบราณที่ปักกิ่งแต่ย่อส่วนลงมา เรือนพักอยู่ในแนวตรง ตรงกลางเป็นเรือนของผู้ปกครอง ส่วนปีกซ้ายและขวาเป็นเรือนคนในตระกูลและบริวาร สร้างขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 800 ปีก่อน ซึ่งถือเป็นวังที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของจีน

พระราชวังนี้เป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สำคัญของชาวหน่าซี (Naxi) และเป็นตัวแทนของสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณที่มีความงดงามและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยมีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างสไตล์จีนโบราณและสไตล์ทิเบต มีการใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในการก่อสร้างและตกแต่ง ทำให้มีความงดงามและแข็งแรง อาคารต่างๆ ในพระราชวังถูกจัดเรียงตามแนวแกนหลักและมีโครงสร้างที่ซับซ้อน ประกอบด้วยห้องต่างๆ เช่น ห้องโถงใหญ่ ห้องประชุม และศาลา มีสวนที่งดงามและลานประดับที่ตกแต่งด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและพักผ่อน

Cr. www.yunnanadventure.com

8. วัดอวี้เฟิง

วัดอวี้เฟิง(Yufeng Temple) เป็นวัดลามะทิเบตที่เก่าแก่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1756 วัดนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และเป็นที่รู้จักในเรื่องสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างสไตล์ทิเบต จีน และหน่าซี วัดประกอบด้วยอาคารหลักหลายหลัง เช่น วิหารหลัก ศาลาพระพุทธรูป และหอพระไตรปิฎก ภายในวัดมีภาพวาดฝาผนังที่สวยงามและประติมากรรมที่มีความละเอียดลออ ส่วนใหญ่แสดงถึงเรื่องราวทางศาสนาและตำนานท้องถิ่น

หนึ่งในสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุดคือ ต้นกุหลาบพันปี (Thousand-Year-Old Camellia Tree) ซึ่งเชื่อว่ามีอายุมากกว่าพันปีและยังคงเบ่งบานดอกไม้สวยงามทุกปี ซึ่งต้นกุหลาบพันปีก็คื ต้นฉาฮวา หรือคามิเลียขนาดยักษ์ ที่เวลาออกดอกจะสวยงามคล้ายดอกกุหลาบ บางต้นมีอายุเก่าแก่กว่า 600 ปี และเมื่อถึงเวลาที่ดอกไม้บาน สามารถออกดอกได้มากถึงครั้งละเป็นหมื่นๆ ดอก

Cr. trip.com

9. Impression Lijiang

แถมท้ายให้อีกนิด ไปลี่เจียงไม่ควรพลาด Impression Lijiang โชว์ยิ่งใหญ่สุดอลังการ ถึงคนไม่ชอบชมโชว์ก็ยังบอกเลยว่าดีมาก ผลงานของผู้กำกับชื่อดัง จางอวี้โหมว เป็นการแสดงกลางแจ้งบนความสูงกว่า 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล กับโรงละครกลางแจ้งที่ได้ฟีลโคลอสเซี่ยมยังไงยังงั้น มีภูเขาหิมะมังกรหยกเป็นฉากหลัง พร้อมด้วยแสง สี เสียงสุดอลังการ 

แนะนำกันมาครบทั้ง 9 ที่เที่ยวลี่เจียง แต่ลีเจียงยังมีอะไรน่าเที่ยวอีกเยอะแยะมากมาย รอให้คุณได้ไปเปิดประสบการณ์การเดินทางด้วยตัวเอง....

แชร์ บทความนี้

พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้