มาทัวร์ปักกิ่งทั้งที ห้ามพลาด 9 ไฮไลท์สถานที่สุดอลังการตระการตา!
มาเที่ยวจีนทั้งทีต้องเก็บให้ครบทุกแลนด์มาร์กสุดอลังการ! ทุกสถานที่ล้วนเป็นสถานที่ที่มีสถาปัตยกรรมสุดล้ำค่า และมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ใครที่เดินทางมาเยือนปักกิ่งห้ามพลาดเด็ดขาด งั้นจะเหมือนมาไม่ถึง! ฟิตร่างกายให้พร้อม สะพายกล้องให้ดี แล้วเตรียมบินไป 9 สถานที่สุดอลังการนั้นได้เลย
1. พิชิตกำแพงเมืองจีนครบทุกด่าน
กำแพงเมืองจีน เป็นกำแพงที่มีความยาวถึง 20,000 กิโลเมตร สมแล้วที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก สร้างขึ้นด้วยแรงคนนับหมื่นคน และมีอายุยาวนานกว่าสองพันปี จุดประสงค์ของการสร้างกำแพงนี้คือราชวงศ์ฉินต้องการป้องกันการรุกรานจากชาวฮั่น และชนเผ่าอื่น ๆ เริ่มสร้างมาตั้งแต่สมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ ว่ากันว่าต้นแบบของกำแพงเมื่อจีนนั้นคือ “มังกร” สัตว์เทพในตำนานที่เป็นตัวแทนขององค์จักรพรรดินั้นเอง
พอสร้างเสร็จแล้วมีอาณาเขตปกคลุมถึง 9 มณฑล คือมณฑลเหลียวหนิง (Liaoning), มณฑลเทียนจิน (Tianjin), มณฑลเหอเป่ย์ (Hebei), ปักกิ่ง (Beijing), เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน (Inner Mongolia), มณฑลซานซี (Shanxi), มณฑลส่านซี (Shaanxi), เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย (Ningxia) และ มณฑลกานซู (Gansu) มีด่านกำแพงเมืองจีนทั้งหมด 5 ด่าน คือ ด่านปาต้าหลิ่ง, ด่านซือหม่าไถ่, ด่านจินซานหลิ่ง, ด่านหวงฮวาเฉิง และด่านเจียยวี่ที่ท้าทายให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ลองไปพิชิตดูสักครั้ง แต่ไม่ได้ใครจะไปก็ไปได้นะ การไปเยี่ยมกำแพงเมืองจีนต้องทำการจองล่วงหน้า 7 วัน จองเวลาไหนต้องไปตามเวลา ไม่งั้นเข้าไม่ได้ไม่รู้ด้วยนะ
2. พระราชวังฤดูร้อนแห่งไห่เตี้ยน
พระราชวังฤดูร้อน หรือชื่อจีน"อี้เหอหยวน" มีพื้นที่ 1,813 ไร่ ส่วนใหญ่เป้นทะเลสาบอันสวยงาม ตั้งอยู่ในเขตไห่เตี้ยน ห่างจากตัวเมืองปักกิ่งไป 15 กิโลเมตร เป็นสถานที่ตากอากาศของราชวงศ์ ที่ได้รับการต่อเติม บูรณะมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่พระเข้ากุบไลข่าน มาจนถึงราชวงศ์ชิง พอเข้าฤดูร้อน ราชวงศ์ชิงจะใช้ที่นี่เป็นสถานที่หลบความร้อน
พระราชวังฤดูร้อนถูกทำลายถึง 2 ครั้งโดยกองกำลังทหารชาติตะวันตก ต่อมาพระนางซูสีไทเฮาได้บูรณะซ่อมแซมใหม่และใช้เป็นสถานตากอากาศในยุคของพระองค์ พระนางทรงโปรดปรานมาก ประทับอยู่ที่พระราชวังต้องห้ามนี้นานกว่าพระราชวังที่กรุงปักกิ่งเสียอีก
พระราชวังแห่งนี้มีระเบียงทางเดินริมทะเลสาบที่ยาวที่สุดในโลก ชื่อว่า “ฉางหลาง” มีเรือหินอ่อนอันสวยงามที่สร้างขึ้นสมัยพระนางซูสีไทเฮาเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีสวนดอกไม้ อาคารที่วิจิตรงดงามอีกกว่า 300 แห่ง ไฮไลท์ในหน้าหนาวคือทะเลสาบคุณหมิงจะจับตัวแข็งเป็นน้ำแข็งทำให้สามารถเดินลงไปเล่นได้เลยทีเดียว ถ้าใครมาเยี่ยมชมช่วงฤดูหนาว รับรองว่าต้องถูกใจบรรยากาศที่นี่มากแน่ ๆ
3. พระราชวังกู้กง พระราชวังต้องห้ามที่เข้าถึงได้
ไฮไลท์ตัวท็อปของปักกิ่งที่พลาดไม่ได้คือ “พระราชวังกู้กง” หรือที่รู้จักกันดีว่า “พระราชวังต้องห้าม” ที่ได้ชื่อนี้มาเพราะเป็นอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ที่แต่ก่อนนั้น ชาวบ้านจะไม่สามารถล่วงก้าวเข้าไปได้ พื้นที่ของราชวังนี้กว้างขวางถึง 720,000 ตารางเมตร (เรียกได้ว่าใครที่อยากเดินชมให้ทั่วต้องฟิตร่างกายมาดี ๆ เลย) มีอายุยาวนานหลายร้อยปี มีปรากฏในประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงการปกครองของจีนในยุคราชวงศ์หมิงมาจนถึงราชวงศ์ชิง ปัจจุบันพระราชวังต้องห้ามถูกเปลี่ยนจากที่ประทับของราชพรรดิมาเป็นพิพิธภัณฑ์กู้กงแห่งชาติ
พระราชวังต้องห้ามนี้นอกจากจะมีพระราชฐานชั้นนอกและชั้นในที่สวยงามอลังการแล้ว ยังมีพระราชวังน้อยใหญ่ที่รวมเอาความสวยงามของสถาปัตยกรรมจีนโบราณสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงเอาไว้มากมาย พระราชวังแห่งนี้แสดงออกถึงความยิ่งใหญ่อลังการของวัฒนธรรมจีนยุครุ่งเรืองได้เป็นอย่างดี รวมเอาความสวยงามจะสถาปัตยกรรมน่าชมไว้มากมาย ทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอีกหนึ่ง “มรดกโลก” ที่ควรค่าแก่การเก็บรักษา
4. จัตุรัสเทียนอันเหมินอันโด่งดัง
เทียนอันเหมิน ที่มีความหมายว่า "ประตูของสันติภาพอย่างสวรรค์" ตั้งอยู่ในกลางกรุงปักกิ่ง ได้รับการยกย่องให้เป็นจัตุรัสใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่ถึง 440,000 ตารางเมตร สามารถบรรจุคนได้ถึง 2 ล้านคน สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง มีชื่อเก่าว่า “เฉิงเทียนเหมิน”
จัตุรัสเทียนอันเหมินเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีน เป็นส่วนหนึ่งของตราแผ่นดิน มีเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญต่าง ๆ มากมายเกิดขึ้น เช่น การเคลื่อนไหวของเหล่านักศึกษาในวันที่ 4 พฤษภาคม 1919 การปฏิรูปสาธารณรัฐประชาชนจีน 1 ตุลาคม 1949 และการเดินขบวนเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยจนเกิดการปะทะจนนองเลือดระหว่างทหารและนักศึกษา ในปี 1989 ซึ่งเป็นเหตุการณ์อันโด่งดัง และเป็นอีกหน้าหนึ่งของความด่างพอยของจีนมาถึงทุกวันนี้
5. หอฟ้าเทียนถานความอลังการของการบูชาฟ้าดิน
ใครที่คิดว่าพระราชวังต้องห้ามยิ่งใหญ่อลังการแล้ว บอกเลยว่าที่ หอบูชาฟ้าดิน หรือ "เทียนถาน" นั้นมีความอลังการมากกว่าพระราชวังต้องห้ามถึง 4 เท่า มีพื้นที่ประมาณ 1,679 ไร่ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิวตั้งแต่ ค.ศ. 1420 ตั้งอยู่บนลานหินอ่อนซ้อนกัน 3 ชั้น ซึ่งมีความหมายแสดงถึงโลกของมนุษย์ สวรรค์ และโลกอมตะ มีจุดที่ทำพิธีกรรมที่เชื่อกันว่าเป็นศูนย์กลางของจักรวาลซูโจว
เทียนถานมีชื่อเรียกในปัจจุบันคือ “สวนสาธารณะเทียนถาน” เป็นสถานที่สำคัญในพิธีบวงสรวงเทพยาดาตามความเชื่อของจีนโบราณ ประกอบด้วยพื้นที่ที่แบ่งเป็น 3 ส่วนคือ ตำหนักฉีเหนียนเตี้ยน เป็นตำหนักสักการะที่อยู่ทางทิศเหนือใช้สำหรับประกอบพิธี, ตำหนักหวงฉุงหยรว์ หรือตำหนักเทพสถิต อยู่ตรงกลาง ในเพื่อประดิษฐานแผ่นป้ายบูชาของเทพเจ้าต่าง ๆ และหยวนซิวถาน อยู่ทางใต้เป็นแท่นบวงสรวงบนเนินรูปวงกลม ตั้งอยู่ตรงกลาง เปรียบเสมือนตัวแทนของหัวใจแห่งฟ้า
เทียนถานมีความสวยงามอลังการจนได้รับการขนานนามว่าเป็นสถานที่เพื่อการประกอบพิธีบวงสรวงที่ใหญ่ที่สุดในโลก และได้รับการยกย่องจากองค์การ UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในฐานะของสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมการวางผัง และด้านวัฒนธรรม ที่อยู่คู่ประเทศจีนมากกว่า 2,000 ปี
6. วัดลามะ ความสวยงามของ 4 ชาติพันธุ์
เดินทางมายังตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่งจะเจอกับ “วัดลามะ หรือ "ยงเหอกง" โบราณสถานหนึ่งเดียวในจีนที่ผสมผสานเอกลักษณ์แห่ง 4 ชนชาติ ฮั่น แมนจู มองโกล ทิเบต รวมไว้ได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าเป็นวัดที่สวยที่สุดของกรุงปักกิ่งเลยก็ว่าได้ เคยเป็นวังของจักรพรรดิหย่งเจิ้งก่อนขึ้นครองราชย์ วัดจริงมีสีทองเป็นสีที่ปรากฏอยู่ทั่ววัด พอพระองค์สวรรคตก็ได้พระราชทานบริเวณนี้ให้เป็นวัดจนถึงปัจจุบัน
ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้คือ รูปแกะสลักของพระศรีอริยเมตไตรย ที่สูงถึง 26 เมตร พระพุทธรูปแบบธิเบต ปางยืน ที่ถูกแกะสลักจากไม้จันทน์หอมสีขาว ได้รับการบันทึกจากกินเนสบุ๊คว่าเป็นพระไม้แกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อเข้ามาภายในวัดแล้วจะได้ยินเสียงระฆังจากหอระฆังที่ตั้งอยู่หลังประตูทางเข้า ระฆังเหล่านั้นถูกตีโดยนักท่องเที่ยวและผู้ศรัทธาแนวแน่ว่าการตีระฆังคือการสร้างความหวัง และสิ่งที่หวังไว้ก็จะสำเร็จ หากตีครบ 3 ครั้ง
7. ช้อปปิ้งหวังฝูจิ่ง ชิมอาหารเลิศรสครบทุกรสชาติ
เปลี่ยนบรรยากาศมาช้อปปิ้งกันบ้าง ณ ย่านถนนคนเดินชื่อดังของปักกิ่ง “หวังฝูจิ่ง” ตลาดนัดแห่งนี้เป็นถนนคนเดินที่ใหญ่ที่สุดของกรุงปักกิ่ง จุดเด่นที่ต้องไปสัมผัสให้ได้คือ อาหารการกินของถนนเส้นนี้มีมากมาย ใครที่อยากลองกินของแปลกมาได้เลย ไม่ต้องกลัวรถจะวิ่งสวนทางมาเพราะถนนเส้นนี้ปิดไม่ให้รถวิ่งเข้าออก มาทีนี่ที่เดียวได้ครบจบปิ๊ง ทั้งร้านขายของฝาก เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย
ใครที่ชอบตลาดนัดถนนคนเดินต้องฟิตร่างกายเดินช้อปให้ดี เพราะได้ของกลับมาเยอะแน่ ๆ สามารถเดินทางไปเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งวัน มีร้านรวงสลับกันเปิดปิดเพื่อให้บริการคนที่ได้เยี่ยมชมตั้งแต่หัวค่ำไปจนดึกดื่น แต่ก็อยากเตือนใครที่ตั้งใจจะไปลองกินของแปลก ๆ ที่นี่ต้องแน่ใจก่อนนะว่าไม่แพ้อาหารชนิดนั้น ๆ ไม่งั้นได้วิ่งวุ่นไปโรงพยาบาลจนหมดสนุกไม่รู้ด้วยนะ
8. ตลาดรัสเซีย
"ซิ่วสุ่ยเจีย" หรือที่คนไทยเรามักเรียกกันว่า ตลาดรัสเซีย แหล่งช้อปปิ้งสินค้าเหมือนแบรนด์เนม มีสินค้าให้เลือกมากมาย ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ที่คนไทยนิยมมากันมาก มีแค่คนไทยเท่านั้นแหละที่จะเรียกที่นี่ว่า ตลาดรัสเซีย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเรียกแบบนี้ แต่ที่จริงแล้วตลาดรีวเซียในจีนจริง ๆ นั้นอยู่ที่ถนนหยาเป่า แหล่งที่อยู่อาศัยของคนรัสเซียต่างหาก ตลาดแห่งนี้เคยเป็นตลาดเปิดโล่ง แต่ตอนนี้อยู่ในอาคารสะดวกสบาย คล้ายแพทตินั่มบ้านเราเลย ใครที่มาช้อปที่นี่ต้องพกสกิลการต่อราคาติดตัวไว้รับรองว่าจะได้ของกลับไปราคาถูกอย่างคาดไม่ถึง
9. กายกรรมปักกิ่ง
การชมกายกรรมปักกิ่งต้นฉบับนั้นสามารถชมได่ที่โรงละครต่าง ๆ เช่น โรงละครเฉาหยาง มาที่ปักกิ่งทั้งทีจะพลาดกายกรรมชื่อก้องโลกแบบต้นตำรับได้ยังไง ผสมผสานศิลปะอันอ่อนช้อยงดงามทั้งการต่อตัว การโหน การกระโดด ดัดตัวที่ทำให้เราได้อึ้ง ทึ่ง เสียว ไปตลอดทั้งโชว์ทำได้ว่ามักจะมีการแสดงที่ไทยเป็นช่วง ๆ แต่ไปปักกิ่งแล้วจะพลาดได้อย่างไรล่ะ!
และนี่คือ 8 สถานที่ และ 1 กิจกรรมที่คนไปปักกิ่งห้ามพลาด แต่ละที่ที่ไปสามารถเรียนรู้วัฒนธรรมจีน ชมสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ยาวนานได้แบบใกล้ชิด เดินทางทั้งทีก็ต้องไปเก็บให้ครบ สำหรับใครที่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นการทัวร์ปักกิ่งยังไง Wonderfulpackage มีบริการจัดทริปเที่ยวส่วนตัวเก็บแลนด์มาร์กประเทศจีนเพื่อคุณและคนที่คุณรักได้แบบ Exculsive หรือใครสนใจเที่ยวปักกิ่งดูรายละเอียดแพ็กเกจทัวร์ได้ที่ ทัวร์ครอบครัวส่วนตัว เที่ยวไฮไลท์ปักกิ่ง ได้เลย!
ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก :
https://shorturl.asia/joFpI
https://shorturl.asia/pBqJh
https://shorturl.asia/6kVOo
https://shorturl.asia/ACMxy
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้