คนจีนหรือชาวต่างชาติที่มี Visa Non-B แล้วอย่าลืมขอ Re-entry Permit เผื่อไว้ด้วยนะ!!
คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยด้วยวีซ่าชั่วคราวอย่างเช่น Non-Immigration Visa, Tourist Visa หากเดินทางออกไปนอกประเทศไทยแล้วถือว่าการได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยนั้นเป็นอันสิ้นสุดทันที เว้นเสียแต่จะได้รับอนุญาตจากกองบังคับการตรวจคนเข้าเมืองจึงจะเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยได้อีกโดยที่ไม่ต้องขอวีซ่าใหม่
Wonderful Package จึงขอแนะนำว่าก่อนเดินทางออกนอกประเทศไทย ควรยื่นขอ Re-entry Permit ทุกครั้ง จะได้กลับเข้ามาได้อีกโดยที่ไม่ต้องขอวีซ่าใหม่นะคะ
Re-entry Permit คืออะไร?
Re-entry Permit คือ การขออนุญาตเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยหลังจากที่ได้เดินทางออกนอกประเทศ โดยวีซ่าที่ถืออยู่ยังไม่หมดอายุ ซึ่งการยื่นขอ Re-entry Permit จะต้องทำก่อนเดินทางออกนอกประเทศ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถกลับเข้ามาได้อีก แถมยังต้องเสียเวลาไปทำ Visa ใหม่หากจะกลับเข้ามาในประเทศ
การขอ Re-entry Permit มีทั้งหมด 2 แบบ แตกต่างกันยังไงมาดูกันค่ะ
- Single Re–entry Permit เป็นการขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศได้ 1 ครั้ง เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยได้เดินทางออกนอกประเทศ หรือคนที่ถือวีซ่าระยะเวลาสั้นๆ
- Multiple Re–entry Permit เป็นการขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศได้หลายครั้ง ตลอดระยะเวลาของอายุวีซ่า โดยที่ยื่นขอเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น แบบนี้เหมาะกับคนที่ต้องเดินทางออกนอกประเทศบ่อยๆ หรือมีวีซ่าที่อายุ 1 ปี
โดยทั้ง 2 แบบนั้นมีความแตกต่างในเรื่องจำนวนครั้งที่สามารถกลับเข้ามาในประเทศไทย และค่าธรรมเนียม Wonderful Package ขอแนะนำว่าหากวีซ่าของท่านเหลือระยะเวลาเกิน 6 เดือน ก็น่าจะทำ Multiple Re-entry Permit ไปเลยดีกว่าค่ะ
ค่าธรรมเนียมในการยื่นขออนุญาต Re-entry Permit เท่าไหร่กัน? แล้วจะต้องไปขอที่ไหน?
- Single Re-entry Permit มีค่าธรรมเนียม 1,000 บาท สำหรับหนึ่งครั้ง ให้เดินทางกลับเข้าประเทศไทยได้แค่ครั้งเดียว
- Multiple Re-entry Permit มีค่าธรรมเนียม 3,800 บาท สำหรับเกินกว่าหนึ่งครั้ง ให้เดินทางกลับเข้าประเทศไทยได้หลายครั้งใน 1 ปี โดยไม่เกินอายุวีซ่าที่ถือ
โดยการขอนั้นจะต้องไปติดต่อที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ก่อนจะเดินทางออกนอกประเทศ
ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการขอต่อ Re-entry Permit
- แบบคำขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักร (ตม.8)
- รูปถ่าย ขนาด 4x6 ซม. จำนวน 1 รูป
- หนังสือเดินทาง (Passport) พร้อมสำเนาหน้าข้อมูลบุคคล หน้าวันหมดอายุหนังสือเดินทาง หน้าแก้ไขข้อมูลบุคคล (ถ้ามี) หน้าตราประทับอนุญาตเข้าราชอาณาจักรครั้งล่าสุด และหน้าตราประทับอนุญาตการขออยู่ต่อในราชอาณาจักร (ถ้ามี)
- บัตรขาออก (ตม.6) พร้อมสำเนา 1 ฉบับ
- เอกสารต้นฉบับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ในกรณีปรากฏเงื่อนไขห้ามคนต่างด้าวเดินทางออกนอกราชอาณาจักร)
- ค่าธรรมเนียม (ขึ้นอยู่กับเลือกแบบไหน)
ทั้งนี้ อย่าลืมตรวจสอบเอกสารว่าถูกต้องและครบถ้วนก่อนไปดำเนินการยื่นนะคะ จะได้ไม่ให้เสียเวลาไปหลายรอบค่ะ
ขั้นตอนการยื่นขอ Re-entry Permit นั้นไม่ยุ่งยากเลย มี 2 วิธีให้ยื่น
1. ยื่นแบบปกติ
- เตรียมเอกสารให้ครบถ้วนพร้อมค่าธรรมเนียม
- ดำเนินการยื่นที่ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง
2. ยื่นแบบจองคิวแบบ Online
- เข้าสู่เว็ปไซต์ https://division1.immigration.go.th/content/online_serivces โดยเลือกแบนเนอร์ Book Appointment to Apply for Re-entry Permit into the Kingdom
- กรอกข้อมูลในระบบให้ครบถ้วนและถูกต้อง
- กำหนดวันและเวลาที่จองคิวรับบริการ (ควรจองคิวล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วันทำการ)
- รับรหัสการจองคิว
- เตรียมเอกสารให้ครบถ้วนพร้อมค่าธรรมเนียม
- ติดต่อเจ้าหน้าที่ตามวันและเวลาที่นัดหมาย โดยดำเนินการยื่นที่ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1
การยื่นจองคิวแบบ Online นั้น ค่อนข้างสะดวกรวดเร็ว เป็นการให้บริการแบบ One Stop Service ใช้เวลาเพียง 5 นาที (หากเอกสารครบถ้วน) แต่จะมีเฉพาะที่ทำการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ เท่านั้น เหมาะสำหรับคนที่อยู่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจแล้วว่าผ่าน จะประทับตรา Re-entry Permit ในหนังสือเดินทางของคนต่างด้าวและในเอกสาร ตม.8 เพื่อเป็นหลักฐานคืนหนังสือเดินทาง และใบเสร็จรับเงินต้นฉบับแก่คนต่างด้าว
สำหรับผู้ที่มีวีซ่าแบบ Multiple Non-Immigrant Visa อยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องทำ Re-entry Permit ซ้ำนะคะ เพราะสามารถเดินทางเข้า-ออกนอกประเทศไทยโดยได้รับการอนุญาตให้เข้ามาใหม่ เป็นเวลา 90 วัน ค่ะ
หากต้องการคำแนะนำหรือคำปรึกษา ติดต่อ Wonderful Package ได้เลย ทางเรายินดีให้บริการค่ะ!!
ขอบคุณข้อมูลจาก
- กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1
Chinese or Foreigner who already have Visa Non-B, don’t forget to apply Re-Entry Permit!
已经拥有非移民类B签证的中国人或外国人,别忘了申请再入境许可证!
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้