ค้นหาบทความ:

ข้อควรรู้และการเตรียมตัวก่อนเดินทางไปอเมริกา

ข้อควรรู้และเตรียมตัวก่อนเดินทางไปอเมริกา

อเมริกาเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติที่สวยงาม สถานที่สำคัญต่างๆ ถนนสายช้อปปิ้งของแบรนด์เนม จึงไม่แปลกที่จะมีนักท่องเที่ยวหลากหลายประเทศทั่วโลกพากันไปเยี่ยมเยียนเที่ยวชม อีกทั้งยังเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ทำให้ใครหลายคนมีความคิดที่จะย้ายไปอยู่และทำงานที่อเมริกา Wonderful Package ขอแนะนำข้อมูลการเตรียมตัวและข้อควรรู้สำหรับผู้ที่สนใจจะไปเที่ยวอเมริกา มีอะไรบ้างมาดูกัน

การเตรียมตัวก่อนเดินทางไปอเมริกา

1. วางแผนการเดินทางและศึกษาเส้นทางให้ดี

  • เที่ยวที่ไหน ไปเมืองไหน
  • พักที่ไหน
  • ซื้อตั๋วไป-กลับจากสนามบินอะไร
  • เดินทางในประเทศอย่างไร
  • ที่สำคัญอย่าลืมคำนวณค่าใช้จ่ายเดินทางให้ดี

2. จัดเตรียมข้อมูลและเอกสารที่จำเป็น

  • หนังสือเดินทาง อายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน
  • วีซ่าท่องเที่ยว หรือวีซ่าประเภทอื่น (ขอให้เรียบร้อยก่อนการเดินทาง)
  • เอกสารการจองโรงแรมที่พัก ตั๋วเครื่องบิน รถเช่า บัตรผ่านสถานที่เที่ยวต่างๆ (ถ้ามี)
  • ประกันการเดินทาง *แนะนำให้ซื้อก่อนไป เผื่อเกิดเหตุต่างๆ
  • เอกสารทางการแพทย์ กรณีมีโรคประจำตัวและจำเป็นต้องพกยาไปด้วย
  • เบอร์โทรสถานทูตไทยประจำแต่ละรัฐในอเมริกา (รัฐที่จะไป)

ควรพกเอกสารติดตัวไว้ตลอดเวลา ไม่ควรใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทาง หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดหรือเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองขอตรวจจะได้แสดงให้ได้ทันที

3. เช็คสภาพอากาศ

อเมริกาเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ แต่ละภูมิภาคจึงมีอากาศที่ค่อนข้างแตกต่างอย่างชัดเจน อย่างเช่นสภาพอากาศทางตะวันออกของประเทศ ช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนจะแตกต่างกันมาก ทางชายฝั่งตะวันตกค่อนข้างจะมีฝนตกบ่อย หิมะตกพอสมควรและแสงแดดก็มีไม่มาก ทางตอนกลางของประเทศจะมีหิมะตกค่อนข้างเยอะถึงเยอะมาก แต่ก็มีแสงแดดมาก บางรัฐก็มีอากาศที่อบอุ่นสบายตลอดทั้งปี เช่น รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐฟลอริดา เป็นต้น

อเมริกา มี 4 ฤดูกาล

ฤดูกาล ช่วงเดือน สภาพอากาศ อุณหภูมิเฉลี่ย
1. ฤดูใบไม้ผลิ มีนาคม - พฤษภาคม 9 - 23 องศาเซลเซียส
2. ฤดูร้อน มิถุนายน - สิงหาคม 20 - 34 องศาเซลเซียส
3. ฤดูใบไม้ร่วง กันยายน - พฤศจิกายน 7 - 25 องศาเซลเซียส
4. ฤดูหนาว  ธันวาคม - กุมภาพันธ์ -12 ถึง -8 องศาเซลเซียส

4. ปรับเวลาตามโซนของอเมริกา

อเมริกามีเวลาท้องถิ่นที่เหลื่อมกันตามพื้นที่ โดยแบ่งเวลาตามเส้นแบ่งของโลก

Time Zone GMT เวลาจะช้ากว่าประเทศไทย
1. Eastern Standard Time -5 12 ชั่วโมง
2. Central Standard Time -6 13 ชั่วโมง
3. Mountain Standard Time -7 14 ชั่วโมง
4. Pacific Standard Time -8 15 ชั่วโมง
5. หมู่เกาะ Hawaii -10 17 ชั่วโมง

หมายเหตุ : 

  • GMT (Greenwich Mean Time) คือ เวลา ณ เมือง Greenwich ในประเทศอังกฤษ ซึ่งตั้งอยู่ที่ Prime Meridian (Zero Longitude)
  • ฤดูใบไม้ผลิ เวลาจะถอยหลัง 1 ชั่วโมง โดยจะหมุนในวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน เช่น เดิมช้ากว่า 12 ชม. ก็จะเป็น 11 ชม. แทน
  • ฤดูใบไม้ร่วง เวลาจะเดินหน้าเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง โดยจะหมุนในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม เช่น เดิมช้ากว่า 12 ชม. ก็จะเป็น 13 ชม. แทน
  • เมื่อเดินทางไปถึง อย่าลืมที่จะปรับเวลานาฬิกาให้ตรงกับเวลาในท้องถิ่น โดยเทียบเวลาได้จากนาฬิกาของสนามบิน ป้องกันการขึ้นเครื่องบินผิดเวลานะคะ

5. แลกเงินสำหรับใช้จ่าย

  • สกุลเงินอเมริกา คือ เงินดอลลาร์สหรัฐ
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ เงินไทยประมาณ 36 บาท เช็คอัตราแลกเปลี่ยนเงินได้ทุกธนาคาร
  • แลกเปลี่ยนเงินตราได้ตามสนามบินหรือธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ในเมือง หรือบูธแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
  • พกเงินไปพอประมาณ ติดตัวไม่เกิน $10,000 หากนำไปเกินจะต้องกรอกแบบฟอร์มแจ้งว่านำมาเท่าไหร่ตอนผ่านเข้าประเทศ หากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสงสัย จะมีคำถามอีกเยอะเช่น เงินมาจากไหน ทำไมพกเงินเยอะ ไม่มีบัตรใช้เหรอ ดีไม่ดีคุณอาจโดนยึดเงินไว้ก่อน กว่าจะได้คืนก็ต้องใช้เวลา
  • แลกเป็นแบงค์ย่อยและเศษเหรียญติดตัวไว้ อย่าพกแต่แบงค์ใหญ่เพราะบางร้านค้าเขาไม่มีเงินทอน
  • ที่นี่มีตู้ ATM อยู่ทุกเมือง โดยเฉพาะในแหล่งช้อปปิ้ง ร้านสะดวกซื้อหรือซูเปอร์มาร์เก็ต ค่าธรรมเนียมในการกดครั้งละประมาณ $2-3 และธนาคารไทย 100 บาท
  • ที่นี่รับทั้งบัตรเดบิตและบัตรเครดิต ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กร้านใหญ่รับหมด ถือว่าสะดวกมาก

6. การแต่งกายและกระเป๋าเดินทาง

  • เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับแต่ละฤดูกาล
  • เลือกใส่รองเท้าที่เดินสบาย เพื่อการเดินท่องเที่ยวได้อย่างคล่องตัว
  • เตรียมหมวก ผ้าคลุมหรือผ้าพันคอ แว่นกันแดด ผ้าปิดปาก กระดาษทิชชู่ ผ้าเปียก
  • ผู้ที่มีปัญหาทางสายตาควรเตรียมแว่นตาสำรองไว้ 2 อัน หรือคอนแทคเลนหลายๆ ชุด เพราะการตัดแว่นใช้เวลาค่อนข้างนานและราคาก็แพงมาก
  • ควรติดป้ายห้อยกระเป๋าไว้กับกระเป๋าเดินทาง ระบุชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ไว้ด้วย
  • เก็บสิ่งของกระจุกกระจิกเล็กๆ ใส่ในถุงพลาสติกใสที่สามารถมองเห็นได้ง่าย เพราะหากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองต้องการตรวจสอบจะทำได้รวดเร็วขึ้นและสิ่งของจะได้ไม่กระจาย
  • เช็คน้ำหนักกระเป๋า สายการบินส่วนใหญ่กำหนดโหลดกระเป๋าฟรีได้ 1-2 ใบ น้ำหนักรวม 20 กิโล หากเกินมีคิดค่าโหลดเพิ่ม

7. พกยาติดตัว

  • ยาแก้หวัด แก้ไข้ แก้ปวด สามารถซื้อที่ร้านขายยาของอเมริกาได้
  • หากมีโรคประจำตัว ควรนำยาติดตัวด้วย เพราะการหาหมอที่อเมริการาคาแพงมาก
  • ยาทุกชนิดที่นำไปจะต้องมีฉลากกำกับยาเป็นภาษาอังกฤษ รวมทั้งใบสั่งยาจากหมอ เพื่อป้องกันเอาไว้ในกรณีที่ถูกตรวจค้น

8. อุปกรณ์ที่จำเป็น

  • โทรศัพท์และซิมการ์ด
  • กล้องถ่ายรูป ไปเที่ยวทั้งทีไม่ควรพลาดถ่ายรูปสวยๆ
  • สายชาร์ต แบตเตอรี่สำรอง เมมโมรี่การ์ด
  • Adapter แปลงกระแสไฟ อเมริกากระแสไฟอยู่ที่ 110V ประเทศไทยอยู่ที่ 220V
  • ปลั๊กไฟ 3 รู เหมือนประเทศไทย (ขาเสียบหัวแบน 2 ขา กลม 1 ขา)

9. การใช้โทรศัพท์และอินเตอร์เนต

  • แนะนำว่าให้โทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ต แทน Roaming เพราะประหยัดกว่า
  • ตามร้านอาหารหรือร้านกาแฟ มีบริการ Wi-Fi ให้ใช้ฟรี
  • เปิดบริการ Roaming จากเครือข่ายมือถือ และใช้ในยามจำเป็นจะได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายเยอะเกินไป
  • สามารถซื้อ SIM Card ที่อเมริกาใส่ได้ แต่ต้องเติมเงินต่างหาก
  • วิธีโทรศัพท์กลับประเทศไทย : 011 + 66 + รหัสจังหวัด (ไม่ต้องใส่เลข 0) + เบอร์โทรศัพท์
  • วิธีโทรศัพท์จากประเทศไทย : 001 หรือ 006 หรือ 007 หรือ 008 หรือ 009 + 1 + รหัสเมือง (ไม่ต้องใส่เลข 0) + เบอร์โทรศัพท์


ข้อควรรู้เมื่อไปเที่ยวอเมริกา

1. วัฒนธรรม

  • การทักทายของคนอเมริกันเป็นแบบสบายๆ ไม่มีพิธีรีตรองมากนัก แค่ยิ้มทักทายและบอกชื่อในการพบเจอกันครั้งแรก
  • การจับมือและพูดทักทายง่ายๆ ด้วยคำว่า Hello มักถูกใช้บ่อยครั้งในการเริ่มต้นบทสนทนา
  • คนอเมริกันส่วนใหญ่จะพูดจาตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม ซึ่งไม่ถือว่าหยาบคายหรือเสียมารยาท แค่พูดให้ตรงจุด เข้าใจ ชัดเจนในครั้งเดียว ไม่ต้องเสียเวลาอธิบาย
  • ประเทศอเมริกามีชื่อเสียงในเรื่องกีฬา ดนตรี และศิลปะ กีฬาอย่างอเมริกันฟุตบอล บาสเก็ตบอล เบสบอล และไอซ์ฮอกกี้ ซึ่งเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอเมริกา และยังเป็นตลาดเพลงที่ใหญ่อันดับสองของโลก

2. แหล่งท่องเที่ยว

อเมริกามีแลนด์มาร์คหลายแห่ง แหล่งท่องเที่ยวมากมาย สถานที่สำคัญตามเมืองต่างๆ ที่ไม่ควรพลาดเที่ยวชมและถ่ายรูป

  • แลนด์มาร์คเด่นๆ อย่างเช่น เทพีเสรีภาพ สะพานบรูคลิน สวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์ค ในรัฐนิวยอร์ก สะพานโกลเด้นเกต ในรัฐซานฟรานซิสโก
  • ธรรมชาติสวยๆ อย่างเช่น น้ำตกไนแองการา ในรัฐนิวยอร์ก ทะเลสาบ Crater Lake ในรัฐออริกอน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ในรัฐไวโอมิง รัฐมอนแทนา และรัฐไอดาโฮ
  • สถานที่แปลกตา อย่างเช่น แอนเทอโลป แคนยอน รัฐแอริโซนา ไบรซ์ แคนยอน รัฐยูทาห์
  • แหล่งช้อปปิ้ง ขาช้อบทั้งหลายไม่ควรพลาดกับการช้อบปิ้งย่านโซโหและย่านฟิฟธ์อเวนิว ในรัฐนิวยอร์ก ที่นี่มีทั้งร้านค้าแบรนด์เนมและร้านของดีไซน์เนอร์ชื่อดัง

หากใครได้ไปเยือนอเมริกาทั้งที ก็ไม่ควรพลาดกับสถานที่แนะนำเหล่านี้ ไม่งั้นจะเรียกว่าไปไม่ถึงกันเลยทีเดียว

3. อาหาร

  • อาหารส่วนใหญ่จะเป็นฟาสต์ฟู้ด อยางเช่น McDonalds, Burger King, Pizza Hut ซึ่งมีให้บริการอยู่ทั่วประเทศ
  • อาหารจานเด็ดของแต่ละรัฐนั้นแตกต่างกัน บางรัฐติดทะเลก็จะมีอาหารทะเลเป็นหลัก เช่น กุ้งล็อบสเตอร์ ที่ไม่ควรพลาด อย่างรัฐตอนใต้จะเน้นอาหารทอด ย่างหมูหรือไก่บนเตาบาร์บีคิว ราดซอสรสชาติเข้มข้น ส่วนรัฐเท็กซัสและแม็กซิกัน อาหารจะออกแนวอินเดียตะวันตกและแคริบเบียน ที่มีรสชาติเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศและพริกไทย
  • หากเบื่ออาหารอเมริกัน ที่นี่ก็มีร้านอาหารไทยหลายร้าน รสชาติอาหารไม่ต่างจากประเทศไทยมากนัก
  • หากเข้าร้านอาหารที่มีพนักงานบริการ อย่าให้ทิปพนักงานเพิ่มด้วย (เป็นธรรมเนียม)

4. ค่าธรรมเนียมการให้ทิป

การให้ทิปในอเมริกาเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ส่วนใหญ่จะจ่ายเป็นอัตรา 10–20% ของค่าบริการ บางครั้งก็จ่ายตามจำนวนชิ้นหรือครั้ง ได้แก่ 

  • บริการในร้านอาหารหรือภัตตาคาร ให้ทิป ร้อยละ 15–20 ของค่าอาหาร (ยกเว้นในร้านอาหาร Fast Food หรือ ร้าน Self-Service) 
  • บริการตัดผมหรือเสริมสวย ให้ทิป 10–15% ของค่าบริการ
  • พนักงานขับรถแท๊กซี่ ให้ทิป 10–15% ของค่าโดยสาร (ไม่จำเป็นต้องให้ทิปสำหรับพนักงานขับรถเมล์)
  • บริการหิ้วประเป๋าที่สนามบิน หรือโรงแรม ให้ทิป $1.00 ต่อกระเป๋า 1 ใบ
  • บริการจอดรถ ให้ทิป $1.00-2.00

5. การเดินทางเที่ยวในประเทศ

  • สามารถเดินเที่ยวได้ เพราะแหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณใกล้กัน
  • หากต้องการขับรถเที่ยว การเช่ารถค่อนข้างสะดวก (อเมริกาขับรถพวงมาลัยด้านซ้าย)
  • หากต้องการข้ามเมือง มีบริการทั้งรถไฟฟ้าบนดิน-ใต้ดิน รถบัส รถแท็กซี่ เครื่องบิน

ข้อควรระวัง :

  • การเดินทางออกนอกอเมริกาโดยเครื่องบิน ควรไป Check-in ที่สนามบินล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
  • การเดินทางภายในอเมริกาโดยเครื่องบิน ควรไป Check-in ที่สนามบินล่วงหน้าอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
  • ในระหว่างรอขึ้นเครื่องที่สนามบิน ไม่ควรละสายตาจากกระเป๋าเดินทาง เพราะอาจถูกขโมยได้ หรืออาจมีผู้นำวัตถุผิดกฎหมายหรือของต้องห้ามมาใส่ไว้ในกระเป๋า ซึ่งจะทำให้เดือดร้อนในภายหลังได้
  • อย่านำของต้องห้ามเข้าอเมริกา เพราะอาจถูกจำคุก ถูกกักตัว ส่งตัวกลับ หรือถูกปรับ แล้วแต่กรณี เคยมีนักท่องเที่ยวนำอาหารต้องห้ามนำเข้าและถูกปรับ แต่ไม่มีเงินจ่าย ต้องถูกกักตัว ทำให้พลาดเปลี่ยนต่อโดยสารเครื่องบิน
  • ห้ามนำผัก ผลไม้สด และอาหารที่เป็นผลิตผลจากสัตว์เข้าสหรัฐฯ
  • ควรระวังสำคัญ อย่ารับขนของต่าง ๆ โดยเฉพาะผ่านการว่าจ้างโดยคนแปลกหน้า เพราะท่านอาจขนสิ่งขอที่ผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัว เช่น ชิ้นส่วนอาวุธ สิ่งเสพติด หรือสารต้องห้าม
  • การเดินทางเข้า-ออกนอกอเมริกา โดยเครื่องบิน เจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้นำของเหลวปริมาณเกิน 3 ออนซ์ หรือ 85 กรัม ขึ้นเครื่องบิน
  • สัมภาระหรือกระเป๋าเดินทางที่ต้องการจัดเก็บใต้ท้องเครื่องบิน ไม่ควรล็อกกุญแจ เจ้าหน้าที่อาจเปิดสัมภาระเพื่อตรวจสิ่งของ
  • หากจำเป็นต้องนำยาหรืออาหารควบคุมติดตัวไปด้วย ต้องยื่นเอกสารชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ TSA (Transportation Security Administration)

อย่าลืมนะคะ เตรียมตัวให้พร้อมทุกอย่างก่อนออกเดินทาง จะได้ไปเที่ยวอเมริกาได้อย่างสบายใจไร้กังวล
หากสงสัยหรือต้องการคำแนะนำ ติดต่อ Wonderful Package สิคะ ทางเรามีทีมงานพร้อมให้คำแนะนำและบริการตลอดเวลาค่ะ


บทความเกี่ยวข้อง :

บริการแนะนำจาก Wonderful :

ขอบคุณข้อมูลจาก :

แชร์ บทความนี้

พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้

เนื้อหา ที่เกี่ยวข้อง

10 ประเทศที่ใครๆ ก็อยากไป ถึงต้องขอวีซ่าก็ไม่หวั่น

แต่ถ้าหากครั้งหนึ่งในชีวิตเราจะเดินทางไปต่างประเทศสักครั้ง ก็น่าจะเป็นประเทศในฝัน หรือประเทศที่ติดอันดับจุดหมายปลายทางของโลกที่ใครๆ ก็อยากไป ซึ่งถึงแม้เราอาจต้องยื่นขอวีซ่าก่อนการเดินทาง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะจุดหมายปลายทางที่เราเลือก ย่อมคุ้มค่ากับการเดินทางอยู่แล้ว

มารู้จัก ภงด.90 และ ภงด.91 กันดีกว่า

ผู้ที่ต้องชำระภาษี จะต้องมีการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อเป็นการแสดงหลักฐานการเสียภาษีตามกฎหมาย สำหรับแบบยื่นภาษีนั้น เราจะเรียกว่า "ภ.ง.ด." ย่อมาจาก ภาษีเงินได้ ซึ่งการยื่นแบบภาษีแต่ละชนิด จะมีรูปแบบที่แตกต่างกัน

จะขอ Visa Non-B และ Work Permit ต้องใช้แบบฟอร์มอะไรบ้าง?

เคยไหม.. อยากได้ Visa Non-B และ Work Permit แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี หากูเกิ้ลก็แล้ว พันทิปก็แล้ว มีหลายแบบฟอร์มให้เลือกกรอกเยอะแยะมากมาย..ดูจนตาลาย ไม่รู้จะใช้แบบฟอร์มถูกไหม เชิญทางนี้ค่ะ Wonderful Package ได้รวบรวมข้อมูลและสรุปเป็นตารางมาให้ทุกท่านเลือกใช้

Q&A ถาม-ตอบ เกี่ยวกับใบอนุญาตทำงาน (Work permit)

สำหรับใครที่กำลังสงสัยเกี่ยวกับใบอนุญาตทำงาน (Work permit) ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรของการยื่นขอใบอนุญาตทำงาน ต่ออายุวีซ่าทำงาน เปลี่ยนประเภทวีซ่าทำงาน ในประเทศไทยสำหรับคนต่างชาติ

The World's Best Airports of 2022 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก จาก SKYTRAX

แพลนเดินทางกันล่วงหน้า เช็ครายชื่อสนามบินกันก่อน เป็นการจัดลำดับเป็นประจำทุกปีจาก SKYTRAX ที่จะมาบอกว่าสนามบินใดเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลก โดยได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งในปี 2022 นี้จะมีอันดับปรับเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง มาดูกัน

วิธีขอพรไอ้ไข่วัดเจดีย์ นครศรีธรรมราช

นาทีนี้ไม่ต้องพูดถึงเสียงร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์และความแม่นในการให้โชคลาภของไอ้ไข่วัดเจดีย์ ทั้งเรื่องขอหวย หรือขอให้ค้าขายร่ำรวย รวมไปถึงการเช่าไปบูชาไปอีก วันนี้เราเลยจะมาแนะวิธีขอพรไอ้ไข่วัดเจดีย์ นครศรีธรรมราช ว่าเขาทำกันอย่างไร จะได้ทำได้อย่างถูกต้อง

ชาวต่างชาติมีเฮ! ใบอนุญาตทำงาน ที่ไทย และ วีซ่าธุรกิจ มีคนช่วยทำแล้ว

ชาวต่างชาติมีเฮ! ใบอนุญาตทำงาน ที่ไทย และ วีซ่าธุรกิจ มีคนช่วยทำแล้ว ทำ Work Permit & Visa Non-B ของประเทศไทยยากไหม? Wonderful Package มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำและมีบริการ บริษัทรับทำ Work Permit & Visa Non-B ให้กับทุกท่าน

ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ใบขออนุญาตทำงานใกล้หมดอายุแล้ว แต่ผู้ขอยื่นยังอยู่ต่างประเทศต้องทำอย่างไร

จากเหตุการณ์ปิดประเทศทั่วโลกเพราะโควิด-19 ระบาด รวมถึงประเทศไทยด้วย ชาวต่างชาติที่ต้องการต่ออายุ Work Permit และ Non-B Visa เพราะใกล้หมดอายุ แต่ตอนนี้ยังอยู่ต่างประเทศไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้จะทำอย่างไรดี?

รวมคำถามยอดฮิต สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา ตอบยังไงถึงได้วีซ่า 10 ปี

วีซ่าอเมริกาผ่านยากจริงหรือ? บางทีผ่านแต่ก็ให้วันมาแค่นิดเดียว ใครกำลังวางแผนเดินทางไปอเมริกา สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเดินทางก็คือการขอวีซ่าอเมริกา ดังนั้นใครกำลังขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกายังไงถึงผ่าน มีโอกาสได้วีซ่าถึง 10 ปี

ชมวิวทะเล อิงแอบธรรมชาติ Soneva Kiri เกาะกูด

ความหรูหรามีระดับกับการพักผ่อนแนบชิดธรรมชาติแบบขั้นสุด บินสู่ที่พักด้วยเครื่องบินส่วนตัว ที่ Soneva Kiri รีสอร์ทหรูสุด Luxury ที่เกาะกูด จังหวัดตราด รีสอร์ทที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์ สูดอากาศสดชื่นให้เต็มปอดในทั่วทุกอณูที่อยู่ที่นี่

บทความที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ลงทะเบียนรับข่าวสาร WonderfulPackage วันนี้!

รับสิทธิพิเศษและส่วนลดมากมาย เหนือกว่าใคร!