ค้นหาบทความ:

วรรณกรรมเกาหลี

เกาหลี

ช่วง ค.ศ. 1900-1910 วรรณกรรมเกาหลีจะเน้นนวนิยายประวัติศาสตร์ รักชาติ

ช่วง 1910 วรรณกรรมอยู่ตัว เป็นรากฐานของเกาหลี เป็นสมัยที่คนเกาหลีไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นกันมาก และได้รับรูปแบบและเนื้อหามาจากญี่ปุ่น

ช่วง 1920 ก่อนปี ค.ศ. 1920 มีเหตุการณ์รณรงค์เรียกร้องเอกราชจากญี่ปุ่น ในปี ค.ศ. 1919 ประชาชนต่อสู้กับอำนาจของญี่ปุ่น ในวันที่ 1 มีนาคม มีคนตายมากมาย และเหตุการณ์นี้ทำให้ญี่ปุ่นต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายการปกครองเกาหลี

ช่วง 1920 วรรณกรรมแสดงความรักชาติมากขึ้น กล่าวถึงประวัติศาสตร์ และบุคคลในทุนนิยม แนวทางการเขียนแบบตะวันตกแพร่เข้ามามากขึ้น ทำให้เกิดพันธมิตรทางวรรณกรรมของซูซอน กลุ่ม Politalia นักเขียนเรียกร้องเอกราชผ่านวรรณกรรม และก็มีกลุ่มวรรณกรรมบริสุทธิ์ที่ปฏิเสธจะเข้าร่วมกับพันธมิตร เป็นยุคที่วรรณกรรมเริ่มปฏิเสธตะวันตก

ช่วง 1930 ญี่ปุ่นกลับปกครองเกาหลีอย่างเข้มงวดขึ้น เคร่งครัดกว่าเดิม ทั้งเข้าไปปกครองแมนจูเลีย ทำให้ Politalia สลายตัว ตอนนั้นญี่ปุ่นเป็นฟาสซิสต์สมบูรณ์แบบ และบังคับให้นักเขียนเกาหลีเขียนสรรเสริญอำนาจของญี่ปุ่น ซึ่งนักเขียนหลายปฏิเสธ และต้องลี้ภัยทางการเมืองไปต่างประเทศ

ช่วง 1950-1960 คนที่ปฏิเสธรัฐบาลต้องหลบซ่อนใต้ดิน เป็นช่วงวรรณกรรมไม่ค่อยพัฒนา

ปี ค.ศ. 1960 เกิดเหตุการณ์ 19 เมษายน นักศึกษาเรียกร้องประชาธิปไตย ทว่าเพียง 1 ปี ใน ค.ศ. 1961 ประเทศก็กลับไปอยู่ใต้การปกครองของทหารต่อไป (เหมือนเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 ของไทย) รัฐบาลห้ามนักเขียนเขียนเรื่องที่ต่อต้านรัฐบาล เป็นช่วงที่นักเขียนไม่มีที่ยืนในสังคม

หลัง ค.ศ. 1979 หลังเหตุการณ์ณ์ประธานาธิบดีถูกสังหาร เกิดงานที่ต่อต้านรัฐบาลมาก วรรณกรรมปฏิเสธการเมืองทุนนิยม และให้ความสำคัญกับเรื่องชนชั้นให้ความสำคัญกับชนชั้นกรรมกร เกิดนักเขียนกรรมกร หรือนักเขียนเพื่อสังคม หลังจากรัสเซียล่มสลาย เกาหลีก็เริ่มสูญเสียความคิดที่เคยมี นักเขียนรุ่นใหม่ ใช้คำสละสลวย แต่ทว่าความหมายทางการเมืองและประวัติศาสตร์หายไป

นักวิจัยเกาหลี ผู้ร่วมบุกเบิกพัฒนาเกาหลีด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในช่วง 40 ปีก่อน เผยแดนกิมจิก้าวหน้าได้ด้วยกลุ่มวิศวกร 20 คน ชี้กระบวนการพัฒนาไม่ได้ใช้คนนับพัน แต่ใชแค่ไม่กี่คนที่มีความมุ่งมั่น และผู้นำต้องมีวิสัยทัศน์ ต้องมีนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรที่ทำงานอย่างตั้งใจ

ดร.ยง-อ๊ก อัน (Dr.Young-Ok Ahn) ที่ปรึกษาและนักวิจัยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนาโน (Institute of Nano Science and Technology) มหาวิทยาลัยฮันยาง (Hanyang University) กรุงโซล เกาหลีใต้ หนึ่งใน 20 วิศวกรเกาหลีที่ร่วมพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีของเกาหลี ได้เดินทางมาปาฐกถาพิเศษเรื่อง “สร้างประเทศเกาหลีด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม” ภายในการประชุมสมัชชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนา ครั้งที่ 8 ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เมื่อวันที่ 24 ก.ค.52 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค

นักวิจัยอาวุโสจากเกาหลีกล่าวปาฐกถาว่า เกาหลีมีแผนพัฒนาประเทศเป็นแผน 5 ปี ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2505 ด้วยความพยายามอย่างยิ่งในการริเริ่มของ ปาร์ก ชุงฮี (Park Chunghee) อดีตประธานาธิบดีเกาหลี ซึ่งแผนพัฒนาฯ หลายฉบับร่างขึ้นโดย มร.โอ วอนชุล (O Wonchul) ผู้ช่วยพิเศษของประธานาธิบดี และมี มร.คิม กวางโม (Kim Kwangmo) ซึ่งเป็นวิศวกรเคมีและเพื่อนร่วมชั้นกับ ดร.อันด้วยนั้น เป็นทีมงานสำคัญของอดีตประธานาธิบดี

ในช่วงของแผนพัฒนาฉบับที่ 1 นั้น ขนาดเศรษฐกิจของเกาหลียังไม่สำคัญระดับโลก และการวางแผนเน้นไปที่การทดแทนนำเข้า และส่งเสริมการส่งออกโดยอาศัยนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล ช่วงนั้นเกาหลีเริ่มผลิตยางยนต์และส่งออกไม้อัด พร้อมตั้งโรงงานปุ๋ยยูเรีย โรงกลั่นน้ำมัน โรงงานซีเมนส์และโรงงานแก้ว มาถึงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 2 ระหว่างปี 2510-2514 ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีการก่อตั้ง สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งเกาหลี (Korea Institute of Science and Technology: KIST) ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเกาหลี

การก่อตั้งสถาบัน KIST นี้ได้ ดร.ชอย ฮยุนซุป (Dr.Choi Hyunsup) มารับตำแหน่งประธานคนแรก ซึ่ง ดร.ฮยุนซุปได้เชิญผู้เชี่ยวชาญชาวเกาหลีที่จบการศึกษาสูงและมีประสบการณ์ทำงานอย่างน้อย 5 ปี อยู่ต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวิศวกรและนักเคมีประยุกต์ ให้กลับไปทำงานที่เกาหลี โดยหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญจำนวนนั้นมี ดร.ชุง วอน (Dr.Chung Won) ที่จบปริญญาเอกทางด้านฟิสิกส์ ได้กลับไปบุกเบิกการสร้างผลึกซิลิกอนเดี่ยวในเกาหลี ส่วน ดร.ฮยุนซุปต่อมาได้กลายเป็นรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเกาหลีคนที่ 2 อีกทั้งยังเคยมาช่วยปฏิบัติงานที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทย เป็นเวลา 6 เดือนด้วย

 

ทัวร์เกาหลี คลิก


ผู้หล่อ บอกต่อด้วย ตลาดเมียงดง เกาหลี สวรรค์แห่งนักช้อป นักชิม

แชร์ บทความนี้

พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้

RELATED PRODUCTS

เนื้อหา ที่เกี่ยวข้อง

UNESCO World Heritage in KOREA ย้อนยุคสู่อดีต เยือนที่สุดเมืองมรดกโลก เกาหลีใต้

พาย้อนเวลาสู่ยุครุ่งเรืองในอดีตของเกาหลีใต้ กับแหล่งมรดกโลกเกาหลีใต้สวยงามยิ่งใหญ่อลังการ พร้อมด้วยอีกหลายแห่งที่เป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์อันน่าค้นหา และสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ โดยมีหลายแห่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ควรค่าแก่การเยือน

Beautiful Korea Park สวนสวย สุดโรแมนติก ในเกาหลี

ได้เวลาของความโรแมนติกแห่งเกาหลีกันแล้ว สำหรับใครที่กำลังรอคอยเพื่อจะไปเที่ยวชมบรรยากาศสวยๆ สุดโรแมนติก ตามรอยซีรีย์ดังในหลายๆ เรื่อง บอกเลยว่าที่เกาหลีมีสวนสาธารณะสวยๆ ให้เราเที่ยวชมเยอะมาก คัดมาแล้วเน้นๆ สวนสวยในเกาหลีที่สายโรแมนติกไม่ควรพลาด!

ตามรอยซีรีย์ดัง สุดโรแมนติก เกาะนามิ เกาหลี

เกาะนามิ เป็นเกาะสวยสุดโรแมนติกแห่งหนึ่งของเกาหลี ด้วยความโด่งดังจากซีรีย์เกาหลีที่มีเกาะนามิเป็นฉากหลัง และเรื่องราวความรักสุดโรแมนติก ยิ่งทำให้เกาะเล็กๆ แห่งนี้มีเสน่ห์เย้ายวนชวนให้ใครต่อใครอยากมาเที่ยวตามรอยสักครั้ง

Laveniche March Avenue (라베니체 마치에비뉴) เวนิสแห่งเกาหลี

ไปเกาหลีครั้งนี้ ต้องไม่พลาด แลนด์มาร์กใหม่ของเกาหลีที่คยองกิโด Laveniche March Avenue เป็นเวนิสแห่งเกาหลี ที่ตั้งอยู่ในเมืองกิมโป แหล่งช้อปปิ้งกลางแจ้งที่ไม่ธรรมดา เพราะได้เนรมิตสถานที่แห่งนี้ให้ได้บรรยากาศคล้ายกับคลองเวนิส ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากคลองเวนิสที่ประเทศอิตาลีนั่นเอง

ไปร่ายเวทมนตร์เสกคาถา Harry Potter 943 King's Cross Cafe @Korea

สาวก Harry Potter ห้ามพลาด! 943 King's Cross Cafe คาเฟ่ในเกาหลีที่มาในธีมพ่อมดน้อยแฮร์รี่พอตเตอร์ ไปพักผ่อนจิบเครื่องดื่มและขนมเก๋ๆ พร้อมหลุดเข้ามาในโลกแฟนตาซี ตามไปร่ายเวทมนตร์เสกคาถาพร้อมๆ กันเลย

ไปใส่ฮันบก เที่ยวเกาหลีแบบย้อนยุค หมู่บ้านบุกชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village)

อยากใส่ชุดฮันบกสวยๆ แล้วไปถ่ายรูปให้ได้ฟีลซีรีย์เกาหลีกันไหม แนะนำไปเดินเล่นแบบย้อนยุคพร้อมเช็คอินเก๋ๆ ที่หมู่บ้านบุกชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village) ได้ฟีลเกาหลีในยุคโบราณ แถมพอได้ใส่ชุดฮันบกมาถ่ายรูปด้วยแล้ว ยิ่งเข้ากันเป็นที่สุด

เข้าเกาหลีง่ายนิดเดียวด้วย K-ETA ระบบอนุมัติการเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้

สิ้นสุดการรอคอย สำหรับใครที่กำลังรอที่จะเดินทางท่องเที่ยวเกาหลี ตอนนี้เกาหลีเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้ว สำหรับประเทศที่สามารถเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า นั่นหมายความว่าเราสามารถเดินทางเข้าเกาหลีได้แล้ว เพียงแค่กรอกข้อมูลในระบบ K-ETA

ถนนสายโรแมนติกถ็อกซูกุง (Deoksugung Stone-wall Road)

เกาหลีใต้ ประเทศที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกที่หลายๆ คู่อยากจะชวนกันไปเดินจูงมือสักครั้ง ซึ่งถนนสายโรแมนติกก็มีอยู่หลายจุดด้วยกัน และหนึ่งจุดที่น่าพากันไปเดินเล่นก็คือ ถนนสายโรแมนติกถ็อกซูกุง (Deoksugung Stone-wall Road)

เตรียมเปิดแล้ว เกาะเจจู คนไทยเข้าได้ ไม่ใช้วีซ่า ไม่ต้องขอ K-ETA เริ่ม 1 มิถุนายน 2565 นี้

เกาหลีใต้ จะอนุญาตให้เดินทางโดยไม่มีวีซ่าไปยังเกาะเจจู และ สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มไปยังหยางหยาง สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสำหรับนักโต้คลื่น เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน เนื่องจากประเทศกลับมาเป็นปกติในชีวิตประจำวันและข้ามพรมแดน

Garosu-gil (신사동 가로수길) กาโรซูกิล ถนนสายแฟชั่นสุดฮิปในเกาหลี

สายฮิป สายแฟชั่น ต้องไม่พลาดไปช้อปปิ้งในถนนสุดฮิต กาโรซูกิล (Garosu-gil) ซึ่งอยู่ในกรุงโซล เกาหลีใต้ ที่ที่เต็มไปด้วยตึกดีไซน์เก๋ๆ คาเฟ่ ร้านอาหารน่านั่ง ของช้อปปิ้งแฟชั่นสวยๆ กับบรรยากาศที่มีต้นไม้เรียงเป็นแนวตลอดสองข้างทาง ไปเที่ยวเกาหลีแนะนำให้ไปเดินเล่นถนนเส้นนี้กันดูค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ลงทะเบียนรับข่าวสาร WonderfulPackage วันนี้!

รับสิทธิพิเศษและส่วนลดมากมาย เหนือกว่าใคร!