ค้นหาบทความ:

เริ่มแล้ว! สายการบินตะวันออกกลาง บินเข้าอเมริกา ห้ามนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขึ้นเครื่องบิน

เริ่มบังคับใช้แล้ว กฎความเข้มงวดใหม่ของสหรัฐอเมริกา ประกาศห้ามนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟน ติดตัวขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด (ต้องโหลดไปกับสัมภาระใต้เครื่องเท่านั้น) โดยมีผลกับเที่ยวบินตรงเข้าสู่สหรัฐฯ จาก 8 ประเทศตะวันออกกลาง โดยกระทบสายการบินหลักๆ อย่าง Emirates, Etihad, Qatar และ Turkish ด้วย

ห้ามอะไรบ้าง?

ห้ามนำ “อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดที่มีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟน” ขึ้นเครื่องบิน นั่นประกอบไปด้วย

  • เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
  • แท็บเล็ต, ไอแพด
  • เครื่องอ่าน eBook, Kindle
  • เครื่องเล่นเกมทุกชนิด
  • เครื่องเล่น CD, DVD
  • กล้องถ่ายรูป, เลนส์
  • อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟน

ห้ามนำติดตัวขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด อุปกรณ์เหล่านี้ต้องทำการโหลดไปกับสัมภาระใต้ท้องเครื่องบินเมื่อทำการเช็กอินเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีการห้ามนำสมาร์ทโฟนหรือห้ามนำอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องทางการแพทย์ที่จำเป็นขึ้นเครื่องแต่อย่างใด

สนามบินอะไรกระทบบ้าง?

เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (21 มีนาคม 2017) กระทรวงความมั่นคงฯ ของสหรัฐฯ และ TSA เริ่มบังคับใช้กฎการเดินทางใหม่ โดยระบุ 8 ประเทศตะวันออกกลาง ประกอบไปด้วยจอร์แดน, อียิปต์, ตุรกี, คูเวต, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, กาตาร์, โมร็อกโก และ ซาอุดิอาระเบีย ที่มีเที่ยวบินตรงสู่สหรัฐอเมริกา โดยจะกระทบเที่ยวบินใน 10 สนามบิน คือ

  • Queen Alia International Airport (AMM)
  • Cairo International Airport (CAI)
  • Ataturk International Airport (IST)
  • King Abdul-Aziz International Airport (JED)
  • King Khalid International Airport (RUH)
  • Kuwait International Airport (KWI)
  • Mohammed V Airport (CMN)
  • Hamad International Airport (DOH)
  • Dubai International Airport (DXB)
  • Abu Dhabi International Airport (AUH)

สายการบินอะไรกระทบบ้าง?

ซึ่งใน 10 สนามบินนี้ กระทบทั้งหมด 9 สายการบิน คือ

  • Royal Jordanian
  • Egypt Air
  • Turkish Airlines
  • Saudi Arabian Airlines
  • Kuwait Airways
  • Royal Air Maroc
  • Qatar Airways
  • Emirates
  • Etihad Airways

หมายรวมถึงเที่ยวบินที่มีการต่อเครื่องด้วยสายการบินดังกล่าว ผ่านสนามบินดังกล่าว ไม่ว่าจะเริ่มเดินทางจากจุดหมายใดในโลก หากจุดหมายปลายทางคือสหรัฐอเมริกา โดยมีลิสต์ของสายการบินข้างต้น กฎนี้จะถูกบังคับใช้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่มีเที่ยวบินตรงของสายการบินสัญชาติอเมริกันได้รับผลกระทบจากกฎการห้ามในครั้งนี้

เริ่มห้ามเมื่อไหร่?

กฎนี้เริ่มบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่เวลา 7:00 น. ตามเวลา GMT ของวันที่ 21 มีนาคม 2017 โดยเริ่มให้สายการบินทะยอยบังคับให้สมบูรณ์ภายใน 96 ชั่วโมง หรือภายในวันเสาร์ที่ 25 มีนาคม 2017 ในการดำเนินการ หลังจากนั้นจะไม่มีข้อยกเว้นใดๆ

ห้ามจนถึงเมื่อไหร่?

จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง นั่นหมายความว่า ตอนนี้คือห้ามแล้ว และ ยังไม่บอกว่าจะห้ามไปถึงเมื่อไหร่

ทำไมถึงต้องห้าม?

กระทรวงความมั่นคงฯ ของสหรัฐฯ ให้เหตุผลว่า มีความเชื่อว่าผู้ก่อการร้ายในพื้นที่ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ ตั้งเป้าการก่อการร้ายไปยังอุตสาหกรรมการบิน โดยจะใช้วิธีการที่ทันสมัย รวมถึงการนำสารระเบิดแฝงไปกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รูปแบบต่างๆ

นอกจากนี้ กระทรวงความมั่นคงฯ ของสหรัฐฯ ยังให้ข้อมูลว่า การห้าม หรือ แบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้ กระทบเพียง 10 สนามบิน จากจำนวนมากกว่า 250 สนามบินที่มีเที่ยวบินตรงสู่สหรัฐฯ จัดว่าเป็นการห้ามเพียงส่วนน้อยมากๆ

อังกฤษ ประกาศแบนด้วย! (UPDATE)

หลังจากสหรัฐฯ ประกาศบังคับใช้ได้ไม่กี่ชั่วโมง ทางสหราชอาณาจักรก็ประกาศตามมาครับ ว่าจะใช้กฎข้อบังคับในลักษณะเดียวกันกับเที่ยวบินตรงสู่สหราชอาณาจักร (UK) ด้วย โดยมีผลใน 6 ประเทศ คือ ตุรกี, เลบานอน, จอร์แดน, อียิปต์, ตูนีเซีย และ ซาอุดิอาระเบีย ทำให้มีสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากการบินจากทั้ง 6 ประเทศนี้ ในเที่ยวบินที่บินตรงเข้าสู่สหราชอารณาจักร จำนวน 14 สายการบิน (แตกต่างจากลิสต์ของสหรัฐฯ) ดังนี้

  • British Airways
  • EasyJet
  • Jet2.com
  • Monarch
  • Thomas Cook
  • Thomson
  • Turkish Airlines
  • Pegasus Airways
  • Atlas-Global Airlines
  • Middle East Airlines
  • Egyptair
  • Royal Jordanian
  • Tunis Air
  • Saudia

โดยของทางสหราชอาณาจักร มีการกำหนดขนาดของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกสังห้ามอย่างชัดเจน ว่าห้ามอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดที่มีขนาดใหญ่กว่า 16 x 9.3 x 1.5 เซนติเมตร นำขึ้นติดตัวไปบนเครื่องบิน ต้องทำการโหลดไปกับสัมภาระใต้ท้องเครื่องเท่านั้น

กระทบคนไทยอย่างไร?

กฎนี้กระทบคนไทย ที่ต้องการเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา ด้วยสายการบินตะวันออกกลาง โดยเฉพาะ Emirates, Etihad, Qatar และ Turkish ที่ให้บริการเที่ยวบินไปยังสหรัฐฯ จำนวนมาก รวมถึงเที่ยวบินไปยังสหราชอาณาจักร ตามลิสต์ข้างต้น จำเป็นต้องโหลดเอาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปกับสัมภาระใต้ท้องเครื่อง โดยอนุญาตให้ติดตัวขึ้นเครื่องไปได้แค่สมาร์ทโฟนเท่านั้น เที่ยวบินของใครที่อยู่ในข่ายต้องห้ามนี้ ต้องเตรียมตัวในการแพ็กกระเป๋าเพิ่มเติมนะครับ

คงไม่มีใครอยากโหลดเอาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ราคาแพง และแตกหักเสียหายได้ง่าย ไปกับสัมภาระใต้ท้องเครื่องบินสักเท่าไหร่ แต่เมื่อกฎนี้เริ่มบังคับใช้ คงต้องปรับตัวและต้องเตรียมแผนการแพ็กให้รัดกุมมากขึ้นครับ นอกจากนี้ อาจจะต้องวางแผนด้วยว่า ในระหว่างที่พักเปลี่ยนเครื่อง เมื่อไม่มีคอมพิวเตอร์ติดตัวไว้ใช้ เราจะทำงานกันอย่างไร

ขอขอบคุณข้อมูลจาก spin9.me

เที่ยวยุโรป ไปกับเราอุ่นใจกว่า

แชร์ บทความนี้

พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้

เนื้อหา ที่เกี่ยวข้อง

นักกินห้ามพลาด กับสุดยอด 15 เมืองที่เดินไปทางไหนก็มี Street Food

เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เข้าเมืองไหนต้องลองชิมของอร่อยเมืองนั้น จะไปเที่ยวเมืองไหนดีที่มีแต่ของอร่อย สายกินต้องห้ามพลาด สุดยอดเมือง street food ไปที่ไหนก็มีแต่ของกิน

เรื่องน่ารู้! ขั้นตอนวิธีการยื่นวีซ่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปดูไบ หรือประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) จำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าก่อนเดินทางเพื่อให้สามารถเดินทางเข้าไปประเทศได้ โดยมีขั้นตอนและวิธีการในการยื่นวีซ่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดังนี้

WORLD EXPO 2020 DUBAI งานเอ็กซ์โป ระดับโลกที่ ดูไบ

World Expo เป็นงานนานาชาติขนาดใหญ่ ที่รวมการแสดงผลงานของแต่ละประเทศทั่วทุกมุมโลกมารวมไว้ในงานเดียว ซึ่งโดยปกติจะมีระยะเวลาการจัดงาน 3 เดือน ถึง 6 เดือน และในปีนี้ได้มีการจัดงาน WORLD EXPO 2020 DUBAI UAE ขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคม 2021 - 31 มีนาคม 2022 ที่ดูไบ

รู้เอาไว้! ก่อนเตรียมตัวเดินทางไปดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมืองแห่งความศิวิไลซ์ เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างยิ่งใหญ่แข่งประชันความหรูหราอลังการ และความเป็นที่สุด สำหรับนักเดินทางอย่างเรา การมีโอกาสได้ไปดูไบก็คงเป็นประสบการณ์การเดินทางที่ดีไม่น้อย อย่าลืมเตรียมตัวเดินทางไปดูไบกันก่อน

UPDATE! 2022 อัพเดทล่าสุด ประเทศที่คนไทยเดินทางได้ไม่ต้องขอวีซ่า

หากคนไทยจะเดินทางไปต่างประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า จะเดินทางไปประเทศไหนได้บ้าง? มาอัพเดทข้อมูลล่าสุด ที่ประกาศเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 มีทั้งหมด 32 ประเทศ ส่วนจะมีที่ไหน และประเทศนั้นๆ สามารถพำนักได้สูงสุดกี่วัน มาดูคำตอบกันเลย

เช็คลิสต์ 38 ประเทศ เข้าไทยได้ไม่ต้องกักตัว

ได้มีประกาศรายชื่อประเทศที่ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว 38 ประเทศ โดยใช้หลักเกณฑ์เรื่องมูลค่าทางเศรษฐกิจและความครอบคลุมการฉีดวัคซีน เป็นตัวตัดสิน ซึ่งจากรายชื่อส่วนใหญ่เป็นประเทศในโซนยุโรป มีเอเชียและภูมิภาคอื่นบางประเทศ

25 จุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดในปี 2021 จาก Tripadvisor

Tripadvisor หนึ่งในเว็บไซต์ข้อมูลดีๆ ที่รวบรวมความคิดเห็นจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ได้สรุปออกมาแล้วว่า 25 จุดหมายปลายทางที่ดีที่สุด ที่ควรค่าแก่การเดินทางไปเที่ยวมากที่สุดในปี 2021 นั้น คือที่ใดบ้างมาดูกันเลย

10 ประเทศที่ใครๆ ก็อยากไป ถึงต้องขอวีซ่าก็ไม่หวั่น

แต่ถ้าหากครั้งหนึ่งในชีวิตเราจะเดินทางไปต่างประเทศสักครั้ง ก็น่าจะเป็นประเทศในฝัน หรือประเทศที่ติดอันดับจุดหมายปลายทางของโลกที่ใครๆ ก็อยากไป ซึ่งถึงแม้เราอาจต้องยื่นขอวีซ่าก่อนการเดินทาง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะจุดหมายปลายทางที่เราเลือก ย่อมคุ้มค่ากับการเดินทางอยู่แล้ว

The World's Best Airports of 2022 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก จาก SKYTRAX

แพลนเดินทางกันล่วงหน้า เช็ครายชื่อสนามบินกันก่อน เป็นการจัดลำดับเป็นประจำทุกปีจาก SKYTRAX ที่จะมาบอกว่าสนามบินใดเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลก โดยได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งในปี 2022 นี้จะมีอันดับปรับเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง มาดูกัน

ที่เที่ยวยอดนิยม 10 อันดับจุดหมายปลายทางของโลก

ที่เที่ยวยอดนิยม 10 อันดับจุดหมายปลายทางของโลก อิสตันบูล, ตุรกี โรม, อิตาลี ลอนดอน, สหราชอาณาจักร ปักกิ่ง, จีน ปราก, สาธารณรัฐเช็ก มาร์ราคิช, โมร็อกโก

บทความที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ลงทะเบียนรับข่าวสาร WonderfulPackage วันนี้!

รับสิทธิพิเศษและส่วนลดมากมาย เหนือกว่าใคร!