เดินทางไปพม่า เที่ยวย่างกุ้ง พุกาม มัณฑะเลย์ ไปกับ นิ้วกลม
กับประสบการณ์การเดินทางไปพม่า 5 วัน ตรงลงย่างกุ้ง ไปต่อที่พุกาม และมัณฑะเลย์
ของนักเขียนชื่อดัง "นิ้วกลม"
ในหนึ่งชีวิต
เราอาจได้ชมอาทิตย์ลับฟ้าหลายครั้ง
กี่ครั้งที่อยู่ในความทรงจำ
บรรยากาศ คนข้างข้าง ความรู้สึกในใจ
ล้วนมีผลต่อการทำให้ช่วงเวลานั้น
พิเศษและสวยงาม
อีกครั้งที่จดจำอาทิตย์ตกดิน
ในเมืองที่ฟ้ากว้างสุดสายตา
ยอดเจดีย์นับพันแทงยอดขึ้นมาให้ยล
อวดความงามที่แทบไม่ต่างจาก
เมื่อหลายร้อยปีก่อน
อาทิตย์ลับฟ้า
อดีตยังคงตั้งตระหง่านอยู่ในปัจจุบัน
วินาทีที่แล้วกลายเป็นอดีต
วันนี้ยังอยู่ในความทรงจำ
ฟ้าสวย บรรยากาศน่าประทับใจ
คนที่เราอยากอยู่ด้วย
ในหนึ่งชีวิต
กี่ครั้งที่เราจะพบยามเย็นเช่นนี้
เมื่อสัมผัสแล้วย่อมผ่านไป
โชคดีแค่ไหนที่เรามีความทรงจำ
ความงามนี้จะผุดพรายขึ้นอีกครั้ง
เมื่อเราและคนข้างกาย
ทบทวนความทรงจำ
มีความทรงจำดีดีร่วมกัน
เพืี่อช่วยกันนำมันกลับมาอีกครั้ง
ผ่านการรำลึกถึง
ครั้งแล้วครั้งเล่า.
เมื่อเดินทางไปพม่า สิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในพม่าคือ ทั้งหนุ่มทั้งสาวชาวพม่ามักจะทาหน้าด้วย "ทานาคา" กันเสมอๆ แต่สาวคนนี้มีศิลปะในการทาจนอดไม่ได้ที่จะขอถ่ายรูป เห็นแล้วคิดว่าหากสาวไทยคนไหนลองทาแป้งด้วยวิธีนี้มาเดินสยามฯ ดูบ้าง หนุ่มๆ คงแอบเหล่แน่ๆ พระนอนด้านหลังคือ พระนอนชเวตาเลียง ที่เมืองหงสาวดี ซึ่งองค์ใหญ่มาก ความยาวถึง 55 เมตรเลยทีเดียวเชียว
สัมผัสกับบรรยากาศร้านกาแฟแบบ "ยองๆ ซด" ใน ตลาดสก๊อต ในกรุงย่างกุ้ง นั่งยองๆ ซดแบบสบายๆ ท่ามกลางบรรยากาศวุ่นวายคึกคัก เคยเจอร้านกาแฟทำนองเดียวกันนี้ที่เอธิโอเปียและอินเดีย แต่ที่นี่กาแฟถ้วยละ 500!!! เอ่อ...500 จั๊ต หรือประมาณ 15 บาทไทยเองครับ ง่ายๆ แต่อร่อย บางมุมของพม่าให้อารมณ์เหมือนนั่งไทม์แมชชีนย้อนไปเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนของไทย ขณะที่บางมุมก็ใกล้เคียงบ้านเราตอนนี้ ที่ชอบอีกอย่างคือ ผู้ชายบ้านเค้ายังนุ่งโสร่งกันตรึมเลย เป็นเอกลักษณ์ทีี่น่ารักดี
มุมน่ารักๆ ของชาวพม่า ชาวพม่าจะมาช่วยกันทำความสะอาดเจดีย์ชเวดากองทุกเย็น ถือว่าเป็นสิ่งที่ชาวพม่าทำกันมาตลอด เป็นการถูพื้นอาสา อาจทำเนื่องในโอกาสต่างๆ เช่น วันคล้ายวันเกิดของผู้ที่ถู
บุฟเฟ่ต์พม่า: ใครมาพม่าน่าลอง หัวละ 3,500 จั๊ต ประมาณ 100 กว่าบาท รับรองว่าได้ซาบซึ้งกับอาหารพม่านานาชนิด เสิร์ฟทั้งหมด 17 อย่าง วางล้นโต๊ะ กินเป็นบ้างไม่เป็นบ้างก็ยังอิ่ม ข้าวเติมไม่อั้น กินไปได้สักพักขณะที่กำลังบ่นว่า "โคตรเยอะเลย" พนักงานยังเดินมาถามอีกว่า "เติมกับอีกมั้ยคะ" โอว...นี่มันอะไรกัน เรียกว่ากินมื้อเดียวได้รู้จักอาหารพม่ากันเต็มอิ่มเลย ไม่เฉพาะกับข้าว ยังมีขนม และผลไม้เสิร์ฟด้วย ใครเปิดบุฟเฟ่ต์อาหารไทยแบบนี้ช่วยบอกนะครับ จะตามไปกิน! ร้านที่วันนี้ไปลองชื่อ Golden Myanmar ในเมืองพุกามครับ รสชาติใช้ได้เลยทีเดียว แต่บางอย่างก็กินไม่ค่อยเป็นเช่นกัน
ตลาดในเมืองพุกาม เดินเพลินมากครับ บรรยากาศสบายๆ ข้าวของไม่แพง ทั้งของกินของใช้ มีร้านของเก่าและของประดับตกแต่งบ้าน รวมถึงจานชามเครื่องเขินให้ซื้อหากันสนุกสนาน ราคาน่าจะถูกกว่าซื้อตามร้าน เท่าที่ลองต่อราคาดู พ่อค้าแม่ขายจะบอกราคามาเผืี่อต่อ ต่อไดัประมาณ 2-3 เท่าตัว แม่ค้าพ่อค้าที่นี่น่ารักดี ยิ้มแย้มเป็นกันเอง ช่างคุย อาจมีบางร้านช่างตื้อเกินไปบ้าง แต่ก็เป็นไปอย่างนุ่มนวล ถือเป็นเสน่ห์ของตลาดที่แตกต่างจากห้างสรรพสินค้า
เช้าวันใหม่ วันนี้เริ่มต้นวันด้วยกาแฟและชาในร้านพื้นถิ่น บรรยากาศง่ายๆ สบายๆ แดดยังไม่ออก จึงไม่ร้อนเกินกว่าจะจิบกาแฟ กินแกล้มปาท่องโก๋และโรตี อร่อยดีและไม่แพง ที่เห็นทั้งหมดนี้เพียง 40 บาทเท่านั้น แถมน้ำดื่มฟรีอีกต่างหาก ชาวพม่าในพุกามตื่นพร้อมพระอาทิตย์ หกโมงกว่าก็นั่งกันเต็มร้านแล้ว ส่วนใหญ่เป็นหนุ่มๆ ส่วนสาวๆ ดูเหมือนจะไปเดินจับจ่ายกันอยู่ในตลาด
ป.ล. ที่เห็นกาแฟกระฉอกเป็นความเมามันของการชง ลูกค้าเยอะจัด เลยรีบ
ความน่ารักของพม่า บ้านเรือน วัด โรงแรมต่างๆ ยังคงตั้งน้ำไว้ด้านนอกรั้วให้ผู้คนที่ผ่านมาผ่านไปได้ดื่มกัน คล้ายๆ บ้านเราแต่ก่อน ไม่รู้เหมือนกันว่าภาษาพม่าเรียกว่าอะไร ภาษาไทยคงเรียก "น้ำใจ" มั้ง
เที่ยวพุกาม ถ้ามากับทัวร์คงได้ดูเจดีย์แบบจุใจ แต่ถ้ามาเองจะได้อีกอารมณ์ที่เอื่อยเฉื่อยแบบรื่นรมย์ ภาษาวัยรุ่นว่ากันว่า "ชิลล์" พุกามเป็นเมืองโบราณที่ยังมีเจดีย์ให้ชมนับพันองค์ หากยกเอารถราสมัยใหม่ออกไปก็ไม่ต่างอะไรกับได้เดินทางย้อนยุค ทางเลือกที่น่ารักสำหรับคนมีเวลา หากอยู่ที่นี่ได้สัก 2-3 วัน ลองใช้เวลาสักหนึ่งวันปั่นจักรยาน หรือขี่จักรยานไฟฟ้าค่อยๆ เคลื่อนที่และแวะชมเจดีย์ที่น่าสนใจก็จะได้รสชาติเที่ยวแบบช้าๆ ชิลล์ๆ หรืออาจลองนั่งรถม้าชมเมืองก็เป็นทางเลือกที่เหมาะกับสถานที่ดีเหมือนกัน พุกามรถไม่เยอะ ยิ่งถ้ามาช่วงโลว์ซีซั่นคนยิ่งน้อย พอคนน้อย เสียงไม่จอแจ ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนเดินทางเข้าไปในภาพถ่าย ค่อยๆ เคลื่อนตัวช้าๆ ไม่รีบร้อน เพราะอากาศก็ร้อนพออยู่แล้ว
ตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่พุกาม ตอนเย็นล่องเรือรอพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ สะพานไม้อูเบ็ง ทะเลสาบตองตะมาน เมืองอมรปุระ ใกล้มัณฑะเลย์ อากาศคล่องรูจมูก บรรยากาศเพลินตา น้ำไหลเอื่อยๆ เรือค่อยๆ ล่องไป แสงค่อยๆ ระบายสีท้องฟัา สะพานไม้อายุยืนทอดยาวสุดสายตา หากสองฟากฝั่งเชื่อมกันด้วยสะพาน สองฝั่งของแสงสว่างสีทองคงเชื่อมต่อกันด้วยความมืดดำของค่ำคืน เช่นกันกับที่ความทุกข์อาจเป็นสะพานไปสู่ความสุขอีกฟากฝั่งหนึ่ง
วัดชเวนันดอร์ เคยอยู่ในเขตพระราชวังแต่ถูกย้ายออกมาก่อนที่พระราชวังจะถูกทำลายจากสงคราม นับเป็นสถาปัตยกรรมที่ประทับใจที่สุดในทริปนี้ วังหลายแห่งถูกทำลาย และสร้างขึ้นใหม่ แต่วังสร้างใหม่ทั้งหลายนั้นฝีมือยังห่างชั้นกับของเก่ามาก วัดแห่งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความวิจิตรอลังการของนครที่เคยรุ่งเรือง รวมทั้งความศรัทธาในพุทธศาสนาในยุคนั้น เดินเข้าไปในวัดเหมือนได้ย้อนกลับไปในสมัยนั้น ราวกับหลุดเข้าไปในฉากหนังย้อนยุค งานแกะสลักไม้ที่ละเอียดวิจิตรบรรจงก็ทำให้เดินดูไม่รู้เบื่อเลยทีเดียว
มัณฑะเลย์ เป็นราชธานีสุดท้ายของพม่า พระราชวังที่นี่ขึ้นชืี่อว่าสวยติดอันดับต้นๆ ของเอเชีย แต่ก็ถูกทำลายลงย่อยยับในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง พระราชวังที่เห็นทุกวันนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่ ซึ่งความสวยงามคงเทียบกับของดั้งเดิมไม่ได้ แต่ถ้าได้เดินชมคงพอจินตนาการถึงความอลังการในยุคนั้นออก และคงอดเสียดายไม่ได้ หอคอยนี้คือหอคอยที่พระนางศุภยลัต มเหสีของพระเจ้าธีบอขึ้นไปเห็นกองทัพอังกฤษที่ยกทัพมาประชิด แต่ก็ช้าเกินกว่าจะแก้ไขอะไรได้ สุดท้ายพม่าก็เสียเมืองให้กับอังกฤษในที่สุด
และท้ายสุดนี้ขอขอบคุณการแบ่งปันเรื่องราวดีๆ จากคุณนิ้วกลม
https://www.facebook.com/Roundfinger.BOOK
สนใจโปรแกรมทัวร์พม่าเพิ่มเติม คลิกเลย
สนใจจองตั๋วเครื่องบินไปพม่าในราคาที่ถูกกว่าใครได้ที่นี่
แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบเดินทางร่วมกันกับผู้อื่นเราขอแนะนำประสบการณ์ในการเดินทางแบบใหม่เรียกว่าการเดินทางแบบเที่ยวส่วนตัวหรือว่า "Group and Go" นั่นเองค่ะ
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้