ค้นหาบทความ:

รวมรูปแบบปลั๊กไฟทั่วโลก จะเที่ยวประเทศไหนต้องใช้ปลั๊กอะไรกันบ้าง ?

รวมรูปแบบปลั๊กไฟทั่วโลก จะเที่ยวประเทศไหนต้องใช้ปลั๊กอะไรกันบ้าง ?

ได้เวลาเดินทางแล้วสิ จะไปต่างประเทศอย่าลืมเช็คเรื่องปลั๊กเป็นอันขาด เพราะเดี๋ยวนี้อุปกรณ์ที่เราพกติดตัวล้วนแล้วแต่จะต้องใช้ปลั๊กกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ พาวเวอร์แบงค์ แท็บเล็ต โน๊ตบุ้ค รวมไปถึงของใช้อื่นๆ ที่เป็นสิ่งจำเป็น ไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ไปวันเดียวแน่ๆ เพราะฉะนั้น ถ้าโทรศัพท์แบตหมด ก็ปัญหาใหญ่เลยใช่มั้ยล่ะ เรามาเช็คกันดีกว่า ว่าปลั๊กแต่ละประเทศเค้ารองรับปลั๊กไฟรูปแบบไหน แล้วเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเราเอาไปเสียบได้หรือไม่ จะได้เตรียมตัวเอาไว้ก่อนเดินทาง

รูปแบบปลั๊กไฟ Type A - Type N

โดยรูปแบบปลั๊กตามมาตรฐานสากลของ IEC หรือ International Electrotechnical Commision นอกจาก Type O ที่เป็นของประเทศไทยแล้ว ยังมีมากถึง 14 แบบ โดยแบ่งเป็น Typ A-N

รวมรูปแบบปลั๊กไฟทั่วโลก จะเที่ยวประเทศไหนต้องใช้ปลั๊กอะไรกันบ้าง ?

ปลั๊กไฟ Type A

ใช้ใน: อเมริกาเหนือและอเมริกากลาง, ญี่ปุ่น

ปลั๊กไฟฟ้า Type A ปลั๊กเสียบแบบขาแบน ขนาดกันสองข้าง เป็นปลั๊กที่ไม่มีกราวด์ แม้ว่าปลั๊กของอเมริกาและญี่ปุ่นจะดูเหมือนเหมือนกัน แต่ปลั๊กแบบอเมริกันนั้นขาข้างหนึ่งจะกว้างกว่ากีกข้าง ในขณะที่ขาทั้งสองของปลั๊กญี่ปุ่นมีขนาดเท่ากัน ด้วยเหตุนี้ ปลั๊กญี่ปุ่นจึงสามารถใช้ได้ในสหรัฐอเมริกา แต่ปลั๊กอเมริกาเอามาเสียบกับปลั๊กญี่ปุ่นอาจจะเสียบไม่เข้า เนื่องจากรูทั้งสองข้างเล็กกว่า

นอกจากนี้ บริเวณขาของเครื่องใช้ไฟฟ้าปลั๊ก Type A หลายตัว จะมีรูเล็กๆ อยู่ด้วย ซึ่งจะใช้งานร่วมกับสลักภายในปลั๊ก ที่จะช่วยให้ปลั๊กเสียบได้แน่น ไม่หลุดออกจากรูง่ายๆ

*ปลั๊กในประเทศไทยสามารถใช้ได้



ปลั๊กไฟ Type B

ใช้ใน: อเมริกาเหนือและอเมริกากลาง ประเทศญี่ปุ่น

ปลั๊กไฟฟ้า Type B จะมีขาแบนสองข้างเหมือน Type A แต่จะเพิ่มขากราวด์ตรงกลางที่เป็นขากลม ซึ่งขากราวด์นี้จะมีความยาวมากกว่าอีกสองขา สำหรับปลั๊กในบ้านที่มีการต่อสายดิน จะทำให้มีสถานะเป็นกราวต์ก่อนจะจ่ายไฟผ่านปลั๊ก ซึ่งปลั๊ก Type B มีขนาด 15 แอมป์

*ปลั๊กในประเทศไทยสามารถใช้ได้


ปลั๊กไฟ Type C

ใช้ใน: ยุโรป ยกเว้นสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ ไซปรัส และมอลตา

ปลั๊กไฟฟ้า Type C หรือ Europlug เป็นปลั๊กที่ใช้กันแพร่หลายในประเทศแถบยุโรป เป็นปลั๊กแบบขากลมสองขา ใช้ได้กับซ็อกเก็ตที่รับหน้าสัมผัสกลม 4.0 – 4.8 มม. บนศูนย์กลาง 19 มม. ซึ่งปลั๊ก Type C นี้กำลังถูกแทนที่ด้วยซ็อกเก็ต E, F, J, K หรือ N ซึ่งทำงานได้ดีกับปลั๊ก Type C ซึ่งปลั๊ก Type C โดยทั่วไปจะจำกัดไว้สำหรับใช้ในเครื่องใช้ที่ต้องการไฟไม่เกิน 2.5 แอมป์

*ปลั๊กในประเทศไทยสามารถใช้ได้



ปลั๊กไฟ Type D

ใช้ใน: อินเดีย ศรีลังกา เนปาล นามิเบีย

ปลั๊กไฟฟ้า Type D จะป็นขากลม 3 ขา เรียงตัวกันในรูปแบบสามเหลี่ยม โดยขากลางจะเป็นขากลมขนาดใหญี่กว่าอีกสองขา มักใช้ได้กับปลั๊ก Type M สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ และด้วยเหตุนี้ ซ็อกเก็ตบางตัวจึงใช้งานได้กับทั้งปลั๊ก Type D และ Type M โดยปลั๊ก Type D มีขนาด 5 แอมป์

*ปลั๊กในประเทศไทยใช้ไม่ได้ ต้องมีตัวแปลงปลั๊ก



ปลั๊กไฟ Type E

ใช้ใน: ฝรั่งเศส เบลเยียม สโลวาเกีย และตูนิเซีย และอื่นๆ

ปลั๊กไฟฟ้า Type E มีขากลม 4.8 มม. สองขาโดยเว้นระยะห่าง 19 มม. และมีรูสำหรับขาสายดินของซ็อกเก็ต ปลั๊ก Type E มีรูปร่างโค้งมน และซ็อกเก็ต Type E มีช่องกลม ปลั๊ก Type E มีขนาด 16 แอมป์

*ปลั๊กในประเทศไทยใช้ไม่ได้ ต้องมีตัวแปลงปลั๊ก


ปลั๊กไฟ Type F

ใช้ใน: เยอรมนี ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ และสเปน

ปลั๊กไฟฟ้า Type F (หรือที่เรียกว่าปลั๊ก Schuko) มีขากลม 4.8 มม. สองขาโดยเว้นระยะห่างกัน 19 มม. คล้ายกับปลั๊ก Type E แต่ที่ต่างกันคือ มีคลิปหนีบสายดินสองอันที่ด้านข้างแทนที่จะเป็นขั้วต่อสายดินตัวเมีย ปลั๊ก Type F มีขนาด 16 แอมป์

*ปลั๊กในประเทศไทยสามารถใช้ได้



ปลั๊กไฟ Type G


ใช้ใน: สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ ไซปรัส มอลตา มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง

ปลั๊กไฟฟ้า Type G จะเป็นขาสี่เหลี่ยมแบนๆ สามขา เรียงตัวกันในแนวสามเหลี่ยม และมีฟิวส์ในตัว (โดยปกติฟิวส์ 3 แอมป์สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กเช่นคอมพิวเตอร์และ 13 แอมป์ สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าหนัก เช่น เครื่องทำความร้อน) 

*ปลั๊กในประเทศไทยใช้ไม่ได้ ต้องมีตัวแปลงปลั๊ก



ปลั๊กไฟ Type H

ใช้ใน: อิสราเอล

ปลั๊ก Type H มีลักษณะเฉพาะสำหรับอิสราเอล มีขาแบนสองตัวในรูปตัว V และขาต่อสายดิน อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังถูกเลิกใช้ รูในซ็อกเก็ต Type H นั้นมีความกว้างตรงกลางเพื่อรองรับปลั๊ก Type H แบบกลมและปลั๊ก Type C

*ปลั๊กในประเทศไทยใช้ไม่ได้ ต้องมีตัวแปลงปลั๊ก



ปลั๊กไฟ Type I

ใช้ใน: ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี อาร์เจนตินา

ปลั๊ก Type I มีขาแบนสองตัวในรูปตัว V และขาต่อสายดิน มีปลั๊กรุ่นหนึ่งซึ่งมีขาแบนเพียงสองตัวเท่านั้น ปลั๊กของออสเตรเลียยังใช้งานได้กับซ็อกเก็ตในประเทศจีน ระบบปลั๊ก/ซ็อกเก็ตมาตรฐานของออสเตรเลียมีพิกัด 10 แอมป์ แต่มีการกำหนดค่าปลั๊ก/ซ็อกเก็ตที่พิกัด 15 แอมป์ด้วย แม้ว่าพินกราวด์จะกว้างกว่า ปลั๊กมาตรฐาน 10 แอมป์จะพอดีกับซ็อกเก็ต 15 แอมป์ 

*ปลั๊กในประเทศไทยใช้ไม่ได้ ต้องมีตัวแปลงปลั๊ก



ปลั๊กไฟ Type J

ใช้ใน: ประเทศสวิตเซอร์แลนด์และลิกเตนสไตน์

ปลั๊ก Type J มีขากลมสองตัวและขากราวด์ แม้ว่าปลั๊ก Type J จะดูคล้ายกับปลั๊ก Type N ของบราซิล แต่ก็ใช้ไม่ได้กับซ็อกเก็ต Type N เนื่องจากขาดินอยู่ห่างจากเส้นกึ่งกลางมากกว่าใน Type N อย่างไรก็ตาม ปลั๊ก Type C นั้นเข้ากันได้ดีกับซ็อกเก็ต Type J ปลั๊ก Type J มีขนาด 10 แอมป์

*ปลั๊กในประเทศไทยใช้ไม่ได้ ต้องมีตัวแปลงปลั๊ก



ปลั๊กไฟ Type K

ใช้ใน: เดนมาร์กและกรีนแลนด์

ปลั๊ก Type K มีขากลมสองขาและขากราวด์ คล้ายกับ Type F ความแตกต่างคือ Type F มีคลิปกราวด์แทนที่จะเป็นพินกราวด์ ปลั๊ก Type C เข้ากันได้ดีกับซ็อกเก็ต Type F ปลั๊กและซ็อกเก็ต Type E ยังใช้ในประเทศเดนมาร์ก

*ปลั๊กในประเทศไทยใช้ไม่ได้ ต้องมีตัวแปลงปลั๊ก



ปลั๊กไฟ Type L

ใช้ใน: อิตาลี

ปลั๊ก Type L มีให้เลือก 2 แบบ รูปแบบหนึ่งสำหรับ 10 แอมป์ และอีกรุ่นหนึ่งที่ 16 แอมป์ รุ่น 10 แอมป์มีขากลมสองขาที่มีความหนา 4 มม. และเว้นระยะห่าง 5.5 มม. โดยมีหมุดกราวด์อยู่ตรงกลาง รุ่น 16 แอมป์มีขากลมสองขาที่มีความหนา 5 มม. เว้นระยะห่าง 8 มม. รวมทั้งขาสำหรับกราวด์ อิตาลีมีซ็อกเก็ต "สากล" ชนิดหนึ่งที่ประกอบด้วยซ็อกเก็ต "schuko" สำหรับปลั๊ก C, E, F และ L และซ็อกเก็ต "bipasso" สำหรับปลั๊ก L และ C

*ปลั๊กในประเทศไทยใช้ไม่ได้ ต้องมีตัวแปลงปลั๊ก


ปลั๊กไฟ Type M

ใช้ใน: แอฟริกาใต้ สวาซิแลนด์ เลโซโท

ปลั๊ก Type M มีขากลมสามขาในรูปแบบสามเหลี่ยมและมีลักษณะคล้ายกับปลั๊ก Indian Type D แต่ขาของปลั๊กนั้นใหญ่กว่ามาก ปลั๊ก Type M บางครั้งใช้สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ในประเทศที่ใช้ปลั๊ก Type D เช่นเดียวกับในอิสราเอล (Type H) ดังนั้น ซ็อกเก็ตในประเทศเหล่านี้จึงใช้งานได้กับปลั๊ก Type M ในบางครั้ง

*ปลั๊กในประเทศไทยใช้ไม่ได้ ต้องมีตัวแปลงปลั๊ก



ปลั๊กไฟ Type N

ใช้ใน: บราซิล

ปลั๊ก Type N มีให้เลือก 2 แบบ รูปแบบหนึ่งสำหรับ 10 แอมป์ และอีกรุ่นหนึ่งสำหรับ 20 แอมป์ รุ่น 10 แอมป์มีขากลมสองขาที่มีความหนา 4 มม. และขากราวด์ ส่วนแบบ 20 แอมป์ ใช้สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หนักกว่า มีอขากลมสองขาที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4.8 มม. และขาสำหรับกราวด์ ซ็อกเก็ต Type N ได้รับการออกแบบให้ทำงานร่วมกับปลั๊ก Type C ได้เช่นกัน

บราซิลเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ใช้แรงดันไฟฟ้าสองประเภท ในขณะที่สถานะส่วนใหญ่ใช้ 127 V แต่บางรัฐใช้ 220 V ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทราบแรงดันไฟฟ้าในพื้นที่ก่อนที่จะเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณ (หมายเหตุ: แรงดันไฟฟ้าที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้อุปกรณ์ของคุณเสียหายได้) เครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมากที่จำหน่ายในบราซิลมีแรงดันไฟฟ้าแบบคู่

*ปลั๊กในประเทศไทยใช้ไม่ได้ ต้องมีตัวแปลงปลั๊ก


ปลั๊กไฟ Type O

ใช้ใน: ไทย

แถมให้สำหรับปลั๊กไฟ Type O ซึ่งมีใช้ในประเทศไทย จะเป็นปลั๊กที่เป็นมาตรฐานอย่างเป็นทางการของประเทศไทย ระบบปลั๊กได้รับการออกแบบในปี 2549 แต่การใช้งานยังไม่แพร่หลาย ขณะนี้กำลังค่อยๆ ทยอยเข้ามา Type O ประกอบด้วยขาไฟฟ้าสองขาและขาดินซึ่งเป็นทรงกลมและมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4.8 มม. ปลั๊กไฟมีความยาว 19 มม. มีปลอกหุ้มฉนวนยาว 10 มม. และตรงกลางมีระยะห่าง 19 มม.

ที่มา: IEC

บริการยื่นวีซ่า ทั่วโลก ฟรี! ประกันเดินทาง


10 ประเทศที่ใครๆ ก็อยากไป ถึงต้องขอวีซ่าก็ไม่หวั่น

แชร์ บทความนี้

พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้

RELATED PRODUCTS

เนื้อหา ที่เกี่ยวข้อง

EUROPEAN SAFEST DESTINATIONS 2022 สถานที่เที่ยวยุโรปที่ปลอดภัยที่สุดหลังยุคโควิด

European Safest Destinations ได้คัดเลือกจุดหมายที่ปลอดภัย โดยเลือกจากข้อมูลต่างๆ ดังนี้ จุดหมายปลายทางที่โรงพยาบาลไม่เคยแออัด จุดหมายปลายทางที่ประสบกรณีของ covid-19 น้อยลง จุดหมายปลายทางที่ไม่ได้กำหนดให้มีการกักกัน เป็นต้น

เสน่ห์แห่งเมืองมรดกโลก เชสกี้ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) แห่งสาธารณรัฐเช็ก

ทุกประเทศล้วนมีเรื่องราวน่าค้นหา โดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรป มักจะมีเมืองมรดกโลกที่สวยงามอยู่มากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือ เมืองมรดกโลก เชสกี้ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) เมืองเล็กๆ ของประเทศสาธารณรัฐเช็ก ที่ใครๆ ไปแล้วต้องตกหลุมรัก

ITALY ที่ไม่ใช่ Landmark เปลี่ยนความจำเจเดิมๆ เที่ยวอิตาลีมุมมองใหม่

เบื่อไหม? กับอิตาลีในมุมเดิมๆ แลนด์มาร์กดังๆ ที่เป็นกันจนชินตา โคลอสเซียม หอเอนปิซ่า หลายคนคงไปเที่ยวกันมาแล้ว อยากไปเที่ยวอิตาลิในมุมมองใหม่บ้างมีที่ไหนบ้างนะ เราจัดให้ เมืองอื่นๆ ในอิตาลีที่ทั้งสวยงามและมีความเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเมืองไหนก็น่าเที่ยวเป็นที่สุด

The World's Best Airports of 2022 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก จาก SKYTRAX

แพลนเดินทางกันล่วงหน้า เช็ครายชื่อสนามบินกันก่อน เป็นการจัดลำดับเป็นประจำทุกปีจาก SKYTRAX ที่จะมาบอกว่าสนามบินใดเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลก โดยได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งในปี 2022 นี้จะมีอันดับปรับเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง มาดูกัน

รวมคำถามยอดฮิต สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา ตอบยังไงถึงได้วีซ่า 10 ปี

วีซ่าอเมริกาผ่านยากจริงหรือ? บางทีผ่านแต่ก็ให้วันมาแค่นิดเดียว ใครกำลังวางแผนเดินทางไปอเมริกา สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเดินทางก็คือการขอวีซ่าอเมริกา ดังนั้นใครกำลังขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกายังไงถึงผ่าน มีโอกาสได้วีซ่าถึง 10 ปี

เที่ยวปราก (Praque) แห่งสาธารณรัฐเช็ก เมืองที่ไม่หมุนตามเวลา

ชวนไปเที่ยวปราก เมืองหลวงแห่งสาธารณรัฐเช็ก มหานครที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก กรุงปราก เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม ที่เต็มไปด้วยปราสาทเก่าแก่ มีเสน่ห์ชวนหลงใหลเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังเป็นหัวใจแห่งยุโรปอีกด้วย

10 ประเทศที่ใครๆ ก็อยากไป ถึงต้องขอวีซ่าก็ไม่หวั่น

แต่ถ้าหากครั้งหนึ่งในชีวิตเราจะเดินทางไปต่างประเทศสักครั้ง ก็น่าจะเป็นประเทศในฝัน หรือประเทศที่ติดอันดับจุดหมายปลายทางของโลกที่ใครๆ ก็อยากไป ซึ่งถึงแม้เราอาจต้องยื่นขอวีซ่าก่อนการเดินทาง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะจุดหมายปลายทางที่เราเลือก ย่อมคุ้มค่ากับการเดินทางอยู่แล้ว

ต่างชาติ เที่ยวออสเตรเลีย ไม่ต้องโชว์สถานะวัคซีน เริ่ม 6 ก.ค. 65 นี้

นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าออสเตรเลียไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูล Digital Passenger Declaration (DPD) ซึ่งเป็นข้อมูลด้านสุขภาพและการแสดงสถานะการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่ประชาชนทุกคนที่เดินทางเข้าออสเตรเลีย ยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาของเที่ยวบิน

THE BEST THINGS TO SEE IN SALZBURG เยือนบ้านเกิดโมสาร์ท และที่สุดแห่ง ซาลซ์บูร์ก

อีกหนึ่งมุมโรแมนติกที่ซ่อนตัวอยู่ในออสเตรีย ต้องยกให้ ซาลซ์บูร์ก (Salzburg) ออสเตรีย เมืองที่รู้จักกันในนามบ้านเกิดของโมสาร์ท ศิลปินชื่อดังระดับโลก นอกจากเสียงเพลงและบทกวี ที่นี่ยังอบอวลไปด้วยความน่ารักและความสวยงามรอบๆ ตัว เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่คุณต้องจดไว้ในลิสต์

รู้เอาไว้! ก่อนเตรียมตัวเดินทางไปสวีเดน

หากใครมองหาความเป็นธรรมชาติ สวีเดนเป็นประเทศที่มีภูเขาและป่าไม้จำนวนมาก และอากาศก็ไม่ได้หนาวเหมือนประเทศอื่นๆ ในยุโรป มีแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการรองรองโดยยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกถึง 15 แห่ง แต่ก่อนอื่น เรามาเตรียมตัวเดินทางไปสวีเดนกันก่อน

บทความที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ลงทะเบียนรับข่าวสาร WonderfulPackage วันนี้!

รับสิทธิพิเศษและส่วนลดมากมาย เหนือกว่าใคร!