โอเคเบตง 10 ความเป็นเบตงที่ห้ามพลาด
โอเคเบตง อำเภอใหญ่ของจังหวัดยะลาอันโด่งดัง โดยเฉพาะในสมัยก่อนถือเป็นจุดศูนย์กลางการท่องเที่ยวหลักๆ ในภาคใต้เลยก็ว่าได้ และที่เบตงยังมีอะไรที่น่าสนใจมากมาย ทั้งสถานที่ที่รวมความเป็นที่สุด ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ อาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่จะทำให้การท่องเที่ยวเบตง ยะลา กลับมามีชีวิตชีวาเหมือนเดิมอีกครั้ง และหากใครกำลังมองหาที่เที่ยวเบตงอยู่ล่ะก็ นี่คือ 10 ความเป็นเบตงที่ไม่ควรพลาด
อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์
ความเป็นที่สุดของเบตงแห่งแรกที่เราจะพูดถึงก็คือ อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ ที่นี่คืออุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ ณ บริเวณถนนอมรฤทธิ์ ตัดกับถนนภักดีดำรง เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นหลักใหญ่ๆ ของเบตง โดยอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์นั้นได้ขุดลอดภูเขาให้รถยนต์สามารถวิ่งไปมาได้สะดวก สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความยาวตลอดอุโมงค์ ประมาณ 273 เมตร กว้าง 9 เมตร สูง 7 เมตร เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2544 และนอกจากนี้ในยามค่ำคืนเราจะเห็นการประดับประดาด้วยแสงไฟและโคมไฟสวยงาม
หอนาฬิกาคู่บ้านคู่เมืองเบตง
หอนาฬิกาเบตง เป็นหอนาฬิกาเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองเบตงมานานจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเบตงไปแล้ว ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์กลางของเมือง จุดตัดของถนนสุขยางค์กับถนนรัตนกิจ ซึ่งถ้าเป็นช่วงเเดือนกันยายน - มีนาคม ในยามเย็นเราจะเห็นฝูงนกนางแอ่นที่หนี่หนาวมาจากไซบีเรีย พากันมาเกาะสายไฟรอบๆ หอนาฬิกาเต็มไปหมด ซึ่งจะเป็นแบบนี้เป็นภาพคุ้นชินของคนเบตงไปแล้ว แต่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา จะเป็นภาพที่แปลกตาและน่าดูมาก
ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเบตง
ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเบตง ไม่เพียงแต่ใหญ่ที่สุดในเบตงเท่านั้น ยังใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ซึ่งเดิมนั้น ตู้ไปรษณีย์จะตั้งอยู่ที่มุมถนนสุขยางค์ บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาใจกลางเมืองเบตง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 ตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง โดยนายสงวน จิระจินดา นายกเทศมนตรีอำเภอเบตง ที่เป็นนายไปรษณีย์อำเภอเบตงในขณะนั้น ปัจจุบันได้มีการสร้างตู้ไปรษณีย์ขึ้นใหม่ใหญ่กว่าเดิมที่บริเวณศาลาประชาคม ถนนสุขยางค์ มีความสูงประมาณ 9 เมตร เป็นจุดให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
สตรีทอาร์ตเบตง
ไปเที่ยวเบตงทั้งทีก็ต้องไปเดินชม สตรีทอาร์ตเบตง ที่เราจะเห็นภาพจิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้ ผ่านฝีมือของศิลปินมากมาย ที่เนรมิตให้ทุกมุมเมืองของเบตงกลายเป็นเมืองแห่งภาพศิลปะสวยๆ กระจายไปตามจุดต่างๆ ของเมือง ซึ่งเราสามารถตระเวนเที่ยวชมความอาร์ตเหล่าหนี้ พร้อมจัดไอเดียถ่ายภาพแบบชิคๆ เอาไว้ได้ทั่วทั้งเมือง ซึ่งล่าสุดก็ยังมีศิลปินแนวสตรีทอาร์ทกว่า 30 ท่านมาร่วมวาดภาพเพิ่มเติมมาใหม่ในจุดต่างๆ ขึ้นมาอีก ยิ่งเพิ่มสีสันให้กับเมืองเบตงมากขึ้น รับรองว่าสายอาร์ต และสายชอบถ่ายรูปต้องชอบแน่นอน
อุโมงค์ปิยะมิตร
อุโมงค์ปิยะมิตร เป็นอุโมงค์ประวัติศาสตร์ของยะลา โดยอุโมงค์แห่งนี้มีเรื่องราวการรบของคอมมิวนิสต์แหลมมาลายา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2519 สร้างขึ้นเป็นฐานของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา เขต 2 เพื่อใช้หลบการโจมตีทางอากาศและสะสมเสบียง โดยการขุดเข้าไปในภูเขา เราจะเห็นอุโมงค์ที่มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งเดิมมีทางออกอยู่ 9 ทาง ตอนนี้เราจะเห็นอยู่ 6 ทาง
ต้นไม้พันปี ณ อุโมงค์ปิยะมิตร
ณ อุโมงค์ปิยะมิตรแห่งนี้ ยังมีอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจก็คือ ต้นไม้พันปี ซึ่งมีลักษณะเป็นต้นไทรหลายต้นมารวมกัน มีอายุหลายร้อยปี อยู่ในบริเวณใกล้กับปากทางเข้าอุโมงค์ปิยะมิตร ซึ่งหากเราออกจากอุโมงค์แถวๆ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ เดินไปตามทางเดินอีกนิด ก็จะไปถึงต้นไม้พันปีอันสูงใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในนี้
สะพานแขวนแตปูซู
สะพานแขวนแตปูซู เป็นสะพานที่มีที่มาน่าสนใจ เพราะเกิดจากสมัยอดีตกำนันตำบลอัยเยอร์เวง นายมูเซ็ง แตปูซู ช่วยระดมพลังและเงินสมทบจากชาวบ้านร่วมกับราชการ ในการสร้างสะพานแห่งนี้ เนื่องจากงบประมาณในการสร้างไม่เพียงพอ ต้องสั่งสายสลิงสำหรับยึดโยงตัวสะพานจากญี่ปุ่นซึ่งสมัยนั้นเป็นเรื่องใหญ่มาก จึงช่วยกันทุกภาคส่วนทั้งร่วมแรงร่วมเงินสร้างสะพานแห่งนี้ขึ้นมาให้ชาวบ้านได้ข้ามผ่านแม่น้ำปัตตานี้แห่งนี้ได้สะดวก เป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ทั้งสองฟากฝั่งแม่น้ำ สะพานแห่งนี้ จึงเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการต่อสู้ของชาว กม.32 ในการเอาชนะธรรมชาติและความรักสามัคคีของคนในชุมชน
Sky walk จุดชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง
จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง หรือที่เคยรู้จักกันในชื่อจุดชมวิวไมโครเวฟ เป็นแหล่งชมทะเลหมอกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเบตง อีกทั้งยังล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์อยู่มาก แต่เดิมมีจุดชมวิวที่เป็นที่รู้จักกันอยู่แล้ว แต่ในตอนนี้เราสามารถชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวงได้ในอีกจุดหนึ่งที่สร้างขึ้นมาใหม่คือ Sky walk จุดชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง เป็นทางเดินที่ยื่นยาวเข้าไป ทำให้เราสามารถเดินเข้าไปชมทะเลหมอกได้อย่างใกล้ๆ อีกทั้งตรงปลายของสกายวอล์คแห่งนี้ยังมีพื้นกระจกใส ทำให้มองเห็นพื้นด้านล่าง และที่สำคัญ sky walk แห่งนี้ยังเป็นทางเดินระเบียงกระจกยาวที่สุดในโลกอีกด้วย
วุ้นดำ กม.4
ความเป็นเบตง ไม่ได้มีเพียงแค่สถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น วุ้นดำ กม.4 ก็เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของกินของเบตงไปแล้ว ซึ่งใครไปเที่ยวเบตงก็ไม่พลาดที่จะมานั่งกินวุ้นดำกันที่นี่ ซึ่งก็คือ เฉาก๊วย นั่นเอง เป็นเฉาก๊วยแท้ๆ ที่ได้มาจากใบเฉาก๊วยจริงๆ ผ่านกระบวนการทำดั้งเดิมที่สืบทอดมารุ่นสู่รุ่น กว่าจะได้มาเป็นเฉาก๊วยอย่างที่เห็นก็ใช้เวลาทำหลายชั่วโมง ทำให้ได้เฉาก๊วยเนื้อหนุบนุ่มหนับ กินกับของหวานและน้ำแข็งไส อร่อยเย็นชื่นใจ
ไก่เบตง
ไก่เบตง เห็นหน้าตาธรรมดาๆ แบบนี้ ใครกินเป็นต้องติดใจ ไปเมื่อไหร่ก็ต้องสั่งเมื่อนั้น ด้วยเนื้อไก่นุ่มละมุนที่ผ่านกระบวนการทำตามสูตรของเบตง ไปเบตงแล้วไม่ได้กินได่เบตงถือว่าพลาดมาก
ชมวิวทะเลหมอก ขึ้น Sky walk อัยเยอร์เวง เบตง ยะลา
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้