อาหารญี่ปุ่น ที่ต้องกินให้ได้ในชีวิต
1. ราเม็ง
ราเม็ง เป็นอาหารญี่ปุ่นที่หาชิมได้ทั่วทั้งญี่ปุ่น มีหลากหลายชนิดแตกต่างกันตามภูมิภาค โดยชนิดของราเม็งจะแบ่งตาม เส้นก๋วยเตียว เนื้อ และน้ำซุป สามอย่างนี้เป็นหลัก การจะทำราเม็งให้อร่อยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องใช้เวลาเคี่ยวน้ำซุปจากกระดูกเป็นเวลาหลายชั่วโมง หรือบางแห่งอาจนานถึง 8 ชม. เลยทีเดียว เพราะรสชาติหลักของราเม็งนั้นจะแตกต่างกันก็ตรงน้ำซุปนี่แหละ เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าน้ำซุปของราเม็งนั้นจะอร่อย หวาน กลมกล่อมแค่ไหน
เราสามารถจำแนกราเมง ได้ 4 แบบด้วยกัน คือ
- shio ramen : น้ำซุปที่เกลือเป็นส่วนผสม
- shoyu ramen : น้ำซุปที่ใช้ซอสถั่วเหลืองเป็นส่วนผสม สีออกน้ำตาล หรือใส
- tonkotsu ramen : น้ำซุปที่ทำจาก กระดูกหมู ซุปจะมีสีขาวเหมือนน้ำนม
- miso ramen : น้ำซุปที่เคี่ยวจากเต้าเจี๊ยว ซุปนั้นจะได้น้ำซุปสีออกน้ำตาลมีกลิ่นหอมของเต้าเจี๊ยว บางแห่งน้ำซุปจะใส
ราเม็งในเมนูตามร้านนั้นมักจะตั้งชื่อตามหน้าราเม็ง เช่น
- Chashumen : เป็นราเม็งที่จะมีเนื้อหมูที่ผ่านการหมักและย่างมาแล้ว มีรสชาติดีและมีกลิ่นหอม หั่นเป็นแผ่นบางๆ
- Tanmen : ราเม็งสารพัดผักไม่ว่าจะเป็น ต้นหอม หน่อไม้ สาหร่าย
- Wonton ramen: ราเม็งที่มีหน้าเป็นเกี๊ยวไส้ต่างๆ
- Champonmen : ราเม็งหน้ารวม
- Hiyashichuka : ราเม็งเย็น
- Tonkatsu ramen : ราเม็งหน้าหมูทอด
- Tongarashimiso ramen : ราเม็งต้มยำพริกญี่ปุ่น
Cr. en.wikipedia.org
2.ซูชิ
ซูชิ คือ ข้าวปั้นมีหน้า เป็นการรวมกันระหว่างปลากับข้าวที่มีวิวัฒนาการมาเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว ซึ่งเกิดจากความต้องการถนอมอาหารของคนญี่ปุ่น เป็นอาหารญี่ปุ่น ที่ข้าวมีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู และกินคู่กับปลา เนื้อ หรือ ของคาวชนิดต่างๆ
ประเภทของซูชิ
- นิงิริซูชิ (Nigiri Sushi) มีลักษณะข้าวเป็นก้อนรูปวงรีแล้ววางเนื้อปลาดิบ ปลาหมึก ฯลฯ ไว้ข้างบน อาจจะใส่วาซาบิเล็กน้อย หรือตกแต่งด้วยสาหร่ายทะเลก็ได้ ซูชิแบบนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด
- มากิซูชิ (Maki Sushi) มีวิธีทำ 3 แบบด้วยกัน (1) ม้วนข้าวไว้ด้านในสาหร่ายทะเลอยู่ด้านนอก (2) ม้วนสลับกับแบบแรกโดยที่สาหร่ายอยู่ด้านในส่วนข้าวอยู่ด้านนอก (3) ห่อเป็นรูปกรวย เรียกว่า แคลิฟอร์เนียเทมากิ
- ชิราชิซูชิ (Chirashi Sushi) เป็นการจัดปลาดิบ ปลาหมึก กุ้ง ผัก ฯลฯ ที่หั่นเป็นชิ้นๆ วางเรียงบนข้าวที่ใส่อยู่ในกล่อง
- โอชิซูชิ (Oshi Sushi) หรือรูปแบบคันไซจากเมืองโอซาก้า เอาข้าวมาอัดลงในแม่พิมพ์รูปสี่เหลี่ยมตามยาวหั่นขนาดพอดีให้รับประทานเป็นคำๆ แล้ววางเนื้อปลาไว้ด้านบน
- อินะริซูชิ (Inari Sushi) ซูชิที่นำเนื้อมาใส่ในเต้าหู้ที่มีลักษณะเป็นถุง
- สุงะตะซูชิ (sugata sushi) ซูชิที่ใช้ปลาทั้งตัวมาหั่นแล้วนำเนื้อมาวางบนข้าว
- นาเระซูชิ (naresushi) ซูชิที่มีลักษณะคล้ายกับปลาส้ม
Cr. cooljapanfestival
3. ทาโกยากิ
ทาโกยากิ หรือ ขนมครกญี่ปุ่น เป็นอาหารว่างลูกกลมๆ ทำจากแป้ง น้ำ นม และไข่ผสมกัน ใส่ไส้เป็นหมึกตัวเล็กทั้งตัวหรือหั่นเต๋า ปิ้งในกะทะหลุม ราดด้วยซอสทาโกยากิและมายองเนส โรยด้วยสาหร่าย และปลาแห้ง
Cr. punipunijapan
4. เครื่องดื่ม
ในประเทศญี่ปุ่นจะมีเครื่องดื่มอยู่ 2 ประเภทที่เป็นเครื่องดื่มหลัก คือ
- นิฮงชุ (日本酒 - Nihon-shu) หรือ สาเก (酒 - Sake)
- นิฮงฉะ (日本茶 - Nihon-cha) หรือ ชาญี่ปุ่น
เครื่องดื่มทั้งสองประเภทนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานนับหลายพันปี และแทรกซึมอยู่ในวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง เรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่นเลยทีเดียว จนได้รับการยกย่องให้เป็นเครื่องดื่มประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น
ทั้งสาเกและชาญี่ปุ่นต่างก็มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง และใช้ในโอกาสต่างๆ กันหลายประการ เช่น นิฮงชุหรือสาเก เป็นเครื่องดื่มที่มักถูกใช้ในงานเทศกาลและงานสำคัญต่างๆ ของศาสนาชินโต เนื่องจากเชื่อกันว่า การดื่มสาเกเป็นวิธีการหนึ่งในการติดต่อสื่อสารระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้า
ส่วนในเรื่องของค่านิยมทางสังคม คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ถือกันว่า ผู้ที่ชื่นชอบและสามารถดื่มสาเกได้ในปริมาณมากๆ ถือเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจากสังคมว่ามีลักษณะแข็งแกร่งตามแบบฉบับของชายชาตรี ในขณะที่ผู้ที่ชื่นชอบการดื่มชาหรือผู้ที่ชอบเครื่องดื่มที่มีรสหวาน จะถูกมองว่ามีลักษณะบอบบางและอ่อนหวาน เหมือนกับลักษณะของสตรี
สาเก
เหล้าสาเกบูชิโด คือ เหล้าของคนกล้า ที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า ซามูไร แค่ชื่อก็ทำให้ทราบถึงรสชาติ อย่างนี้ต้องลองลิ้มรสเหล้าสาเกบูชิโดกันบ้างแล้ว
เหล้าบ๊วยลูกใหญ่ของญี่ปุ่น กลายมาเป็นเหล้าบ๊วยที่มีรสชาติหวานกลมกล่อมของญี่ปุ่น
สาเกญี่ปุ่นขวดรูปทรงตุ๊กตาโคเคชิที่ไม่เหมือนใครนี้ เป็นสิ่งดึงดูดใจนักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศญี่ปุ่นให้ต้องซื้อกลับมาเป็นของฝากที่ถูกอกถูกใจผู้รับเป็นอย่างยิ่ง ลักษณะพิเศษของสาเกขวดรูปทรงตุ๊กตาโคเคชิ คือ ขวดทรงตุ๊กตาโคเคชิที่มีการตกแต่งอย่างสวยงามตามแบบศิลปะญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีต้องมีของฝากจากญี่ปุ่นถึงจะได้ชื่อว่าไปเที่ยวญี่ปุ่น
Cr. Uwajimaya
ชา
ในด้านชา ญี่ปุ่นกลับมีสถานะเป็นเครื่องดื่มสำคัญที่ถูกนำมาใช้ในพิธีชงชา ซึ่งมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับระเบียบแบบแผนทางความคิดของศาสนาพุทธแบบญี่ปุ่นการชงชาแบบญี่ปุ่นจะนิยมใช้ในงานสำคัญต่างๆ เช่นวันเกิด หรือวันเปลี่ยนฤดูกาล และมักมีเรื่องราวเกี่ยวกับประเพณีเข้ามาเกี่ยวข้อง พิธีชงชาของญี่ปุ่นมีชื่อเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “ชาโนยุ” ผู้ที่จะเข้าใจศิลปะการชงชาแบบญี่ปุ่นจะต้องเข้าใจปรัชญาพื้นฐา นของพิธีชงชาของญี่ปุ่นก่อนนั่นก็คือ
1. ความสมดุลระหว่างคนกับธรรมชาติ
2. ความเคารพซึ่งกันและกัน
3. ความบริสุทธิ์ทั้งความคิดและจิตใจ
4. ความสงบทั้งกายและใจ
ในพิธีชงชาของญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับหลักปรัชญาพื้นฐานทั้ง 4 มากกว่ารสชาติของน้ำชา พิธีการชงชาแบบของญี่ปุ่นมีวิธีการชงชาที่เป็นทางการที่ยาวนานมาก อากัปกริยาของผู้ชงชาสวยงาม
ลักษณะของอุปกรณ์ชงชา
ชาวญี่ปุ่นนิยมชงชาในถ้วยแบบมัจจะสำหรับชาผง แต่ถ้าเป็นกรีนทีหรือชามัจจะจะใช้กาชง ถ้วยหนา ถ้วยจะใหญ่กว่าถ้วยชาจีน นิยมใช้กาชงดินเผา แบบการชงคล้ายของจีน แต่แตกต่างกันที่รูปทรง หรือหน้าตา ของอุปกรณ์ชงชานั้นๆถึงแม้เครื่องดื่มทั้งสองชนิดนี้จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของรสชาติ คุณสมบัติ และหน้าที่ในบริบททางสังคมหลายๆ อย่าง แต่ทั้งสาเกและชาญี่ปุ่นต่างก็มีความสำคัญและมีบทบาทเฉพาะของตัวเองในสังคมและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เช่น ประเพณีการนำชาญี่ปุ่นไปใช้เป็นเครื่องดื่มในงานศพ ในขณะที่นำสาเกไปเป็นของกำนัลหรือใช้เป็นเครื่องดื่มในงานแต่งงาน เนื่องจากชาวญี่ปุ่นนิยมจัดพิธีแต่งงานแบบชินโตและจัดพิธีศพแบบพุทธนั่นเอง
Cr. en.wikipedia.org
จองตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่น ในราคาถูกง่ายๆ ได้ที่นี่
แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบเดินทางร่วมกันกับผู้อื่นเราขอแนะนำประสบการณ์ในการเดินทางแบบใหม่เรียกว่าการเดินทางแบบเที่ยวส่วนตัวหรือว่า "Group and Go" นั่นเองค่ะ
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้