สรุปการเดินทาง

อัตราค่าบริการ

*หมายเหตุ : กรุณาเช็คที่นั่งว่างกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง

สายการบิน Royal Brunei Airlines (รอยัล บรูไน แอร์ไลน์)

แพลนการเดินทาง 

วันแรก :: ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - ท่าอากาศยานบรูไน - พิเศษ ! City Tour Brunei : มัสยิด OMAR ALI SAIFFUDDIEN - มัสยิด JAME ASR HASSANIL BOLKIAH - ท่าอากาศยานบรูไน

• 10.30 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์ W สายการบินรอยัลบรูไนแอร์ไลน์ (Royal Brunei Airlines) (กรุณาตรวจสอบเคาน์เตอร์สายการบินอีกครั้งก่อนออกเดินทาง) 
• 13.30 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานบรูไน โดย สายการบินรอยัลบรูไนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ BI514
• 17.15 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานบรูไน ประเทศบรูไน เวลาที่ประเทศบรูไนเร็วกว่าที่ประเทศไทย 1 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่น

	รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
	มัสยิด OMAR ALI SAIFFUDDIEN (ถ่ายรูปด้านนอก)

พิเศษ!! : ซิตี้ทัวร์สำหรับทุกท่าน มีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นรอรับและนำท่านสัมผัสบรรยากาศวิถีชีวิตของชาวบรูไน

เที่ยวชมบรูไนยามค่ำคืน แวะถ่ายรูปด้านนอก มัสยิด OMAR ALI SAIFFUDDIEN หนึ่งในมัสยิดที่สวยที่สุดของโลก!! ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บันดาร์เสรีเบกาวัน และยังเป็นสถานที่เสกสมรสสุดอลังการยิ่งใหญ่แห่งบรูไน ของเจ้าชาย “อับดุล มาทีน” และพระชายา “อนิชา” เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

โดยมัสยิดแห่งนี้เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบอิสลามกับสถาปัตยกรรมอิตาลี ได้รับการขนานนามว่า มินิ ทัชมาฮาล บริเวณด้านหน้าของมัสยิดเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ มีการจำลองเรือพระราชพิธีมาประดับ ภายนอกแวดล้อมด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิดซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงดินแดนแห่งสรวงสวรรค์

	มัสยิด JAME ASR HASSANIL BOLKIAH (ถ่ายรูปด้านนอก)

เที่ยวชมและถ่ายรูปด้านนอก มัสยิด JAME ASR HASSANIL BOLKIAH เป็นมัสยิดประจำชาติและเป็นมัสยิดประจำสุลต่านองค์ที่ 29 แห่งบรูไน ได้รับการขนานนามว่า “มัสยิดทองคำ” ที่มีสถาปัตยกรรมที่ความสวยงามอลังการที่สุดในบรูไน โดดเด่นด้วยโดมสีทองและหลังคาสีฟ้าน้ำทะเล ด้านหน้ามีสระน้ำ ด้านบนมีโดมทองคำมากถึง 29 หลัง

ได้เวลาเดินทาง กลับสู่สนามบินบันดาสรีเบกาวัน ท่าอากาศยานนานาชาติบรูไน เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศญี่ปุ่น

วันที่สอง :: ท่าอากาศยานบรูไน - ท่าอากาศยานนาริตะ - ชมอุโมงค์ซากุระนิกโก้ไคโดะ - ชมมรดกโลก ศาลเจ้านิกโก้โทโชกุ - คินูกาว่าออนเซ็น - แช่ออนเซ็น

• 00.35 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น โดย สายการบินรอยัลบรูไนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ BI695 
• 07.30 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น เวลาที่ประเทศญี่ปุ่นเร็วกว่าที่ประเทศบรูไน 1 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่น

อุโมงค์ซากุระเส้นทางนิกโกะไคโดะ เป็นถนนสายที่ติดอันดับสถานที่ชมดอกซากุระที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น กิ่งก้านของต้นไม้ที่ปลูกขนาบถนนอย่างติดชิดกันโน้มเข้าหากันเป็นอุโมงค์สีชมพู ดอกซากุระในโทชิงิมักจะบานช้ากว่าในโตเกียวเล็กน้อย โดยจะบานเต็มที่ช่วงกลางเดือนเมษายน (การบานของซากุระขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ)

ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) ศาลเจ้าที่สร้างเพื่อเป็นสถานที่ฝังศพโชกุนโทกุงาว่า ที่เก่าแก่นับ 4 ศตวรรษ อาคารแต่ละหลังสร้างจากไม้ลงลายสีทอง มีสถาปัตยกรรมไม้แกะสลักที่วิจิตรตระการตาทั้งสวยงามในแง่ของศิลปะและที่แฝงแง่มุมทางปรัชญา ทางเข้าจะเป็นซุ้มประตูโยเมมง (Yomeimon) เป็นซุ้มประตูที่สวยงาม มีขนาดใหญ่ ด้านในเป็นอาคารไม้ มีรูปลิงแกะสลัก 3 ตัว อยู่ในท่า ปิดหู ปิดปาก ปิดตา หมายถึง การไม่ดู ไม่ฟัง ไม่พูดในสิ่งไม่ดี ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางวัฒนธรรม

คินุกาวะออนเซ็น ตั้งอยู่ทางต้นน้ำของแม่น้ำคินุกาวะซึ่งไหลผ่านเมืองนิกโก้ จังหวัดโทจิกิ เต็มไปด้วยออนเซ็นเท้า ออนเซ็นกลางแจ้ง ที่สามารถเพลิดเพลินกับทั้งวิวแม่น้ำคินุกาวะและหุบเขาลึกได้มากมาย ไฮไลท์เด็ดของคินุกาวะออนเซ็นอยู่ที่ทัศนียภาพอันงดงามของหุบเขาลึกที่ผันแปรไปตามฤดูกาลทั้ง 4 ไม่ว่าจะเป็นซากุระในฤดูใบไม้ผลิ, ป่าไม้อันเขียวขจีในฤดูร้อน และใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง

อาบน้ำแร่ธรรมชาติ เพื่อสุขภาพ น้ำแร่ในสไตล์ญี่ปุ่นให้ท่านได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม น้ำแร่ธรรมชาตินี้มีส่วนช่วยเรื่อง โรคภัยไข้เจ็บและผิวพรรณเปล่งปลั่ง

วันที่สาม :: จังหวัดฟุกุชิมะ - เมืองโบราณโออุจิจูกุ - เมืองไอสึวากามัตสึ - วัดเอนโซจิ - ปราสาทสึรุกะ - อะชิโนะมากิออนเซ็น - แช่ออนเซ็น

หมู่บ้านโบราณโออุจิ จูคุ เป็นหมู่บ้านโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยเอโดะ เพื่อใช้เป็นหมู่บ้านพักแรมที่เชื่อมต่อระหว่างแคว้นไอซึ ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่าของชาติ โดยรวมมีบ้านโบราณประมาณ 40-50 หลัง สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของหมู่บ้านแห่งนี้คือบ้านชาวนาญี่ปุ่นโบราณที่มุงหลังคาด้วยหญ้าคาหนาๆ ให้ท่านได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม สามารถเข้าชมภายในบ้านที่มีการจัดแสดงวิถีชีวิตต่างๆ เช่น เตาอิโระริ (Irori) สมัยเก่า และของใช้ในบ้านในยุคนั้น

วัดเอ็นโซจิ หรือ “วัดวัวแดง” ต้นกำเนิดของวัวแดงอากะเบโกะ ย้อนไปเมื่อ 1,200 ปีก่อน เกิดแผ่นดินไหวจนอุโบสถเสียหาย จำเป็นต้องทำการซ่อมแซม แต่การขนย้ายเสาเพื่อการซ่อมแซมเป็นไปอย่างยากลำบากแต่แล้วอยู่ๆ ก็มีวัวขนแดงปรากฎตัวขึ้นจึงนำมาช่วยขนย้ายเสาและวัสดุก่อสร้างต่างๆ ทำให้การซ่อมแซมนั้นสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี จึงได้มีการสร้างรูปปั้นวัวขึ้นมาด้านหน้าพระอุโบสถ อีกทั้งภายในอุโบสถยังเป็นที่ประดิษฐานพระอักโษภยพุทธะองค์ใหญ่ ผู้คนเดินทางมาสักการะอย่างเนืองแน่น ด้วยศรัทธาที่เต็มเปี่ยม เพื่อนำความสุขมาสู่ทุกคน บริเวณวัดยังถือเป็นจุดชมซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่สวยงามอีกด้วย

ปราสาทสึรุกะ หรือ “ปราสาทไอซุวาคามัตสึ” เป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่มีหลังคากระเบื้องสีแดงโดดเด่น ได้ชื่อว่าเป็นปราสาทไร้พ่ายที่ผ่านมาทั้งแผ่นดินไหวและสงครามมากมาย มีทั้งหมด 5 ชั้น เด่นด้วยผนังสีขาวตัวกับสีหลังคากระเบื้องสีแดง ซึ่งเป็นปราสาทเพียงแห่งเดียวของญี่ปุ่นที่มีหลังคากระเบื้องสีแดง ภายในอาคารเป็นพิพิธภัณฑ์ พื้นบ้านจัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของปราสาทสึรุกะ

อะชิโนะมากิออนเซ็น น้ำพุร้อนที่นี่เปิดให้บริการเมื่อประมาณ 1,000 กว่าปีก่อน ว่ากันว่าเป็นน้ำพุร้อนคลอไรด์ (น้ำพุร้อนที่มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ ) มีส่วนผสมของแร่ธาตุต่างๆ อาทิ โซเดียม แคลเซียม และซัลเฟต ซึ่งช่วยในเรื่องอาการปวดเส้นประสาท, ปวดกล้ามเนื้อ, ข้อต่อ,โรคทางเดินอาหารเรื้อรัง, ฟื้นฟูความเมื่อยล้า เป็นต้น

อาบน้ำแร่ธรรมชาติ เพื่อสุขภาพ น้ำแร่ในสไตล์ญี่ปุ่นให้ท่านได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม น้ำแร่ธรรมชาตินี้มีส่วนช่วยเรื่อง โรคภัยไข้เจ็บและผิวพรรณเปล่งปลั่ง

วันที่สี่ :: นั่งรถไฟด่วนชินคันเซ็นสายโทโฮคุ สถานีโคริยามะ สู่ สถานีอุเอโนะ (โตเกียว) - ช้อปปิ้งย่านอุเอโนะ - วัดอาซากุสะ - ถนนนาคามิเสะ - นาริตะ

นั่งรถไฟชินคันเซ็น สายโทโฮคุ ที่เชื่อมต่อระหว่าง จังหวัดอาโอโมริ กับ โตเกียว โดยจะจอดแค่บางสถานีใหญ่ๆเท่านั้น ให้ท่านได้สัมผัสความสะดวกรวดเร็วและความทันสมัยของการเดินทาง จากสถานีโคริยามะ สู่สถานีอุเอโนะ (โตเกียว) ระยะทางประมาณ 227 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาทีเท่านั้น (หากเดินทางโดยรถยนต์จะใช้เวลา 3 ชั่วโมงกว่า ซึ่งย่นระยะเวลาการเดินทางได้มาก)

เดินชม ตลาดอะเมะโยโกะ ถนนสายช้อปปิ้งยอดฮิตแห่งย่านอุเอะโนะ ทอดตัวยาวใต้แนวรางรถไฟ ตั้งแต่สถานี JR UENO ไปจนถึงสถานี JR OKACHIMACHI เต็มไปด้วยร้านรวงสารพัดชนิดกว่า 400 ร้านค้า มีตั้งแต่ตลาดขายของแห้ง ของสด ร้านของกินหลากหลาย แหล่งช้อปปิ้งแฟชั่น ร้านแบรนด์เนมมือสอง ร้านขายขนมของฝาก และอีกมากมาย

	อิสระรับประทานอาหารกลางวัน (ไม่รวมในรายการทัวร์)
	วัดอาซากุสะ (Sensoji Temple)

วัดอาซากุสะ วัดดังอันเก่าแก่แห่งญี่ปุ่น เข้าไปกราบสักการะขอพรจากองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำที่เป็นทองสัมฤทธิ์ มีขนาดเล็กเพียง 5.5 เซนติเมตร แนะนำการ ขอพร 5 เยน เพราะญี่ปุ่นเชื่อว่า 5 เยน นั้น เป็นเหรียญที่มีรูตรงกลาง สิ่งเลวร้าย สิ่งที่ไม่ดี จะลอดผ่านจากรูนี้ออกไป หากขอพรกับเจ้าแม่กวนอิมเสร็จให้โยนเหรียญ 5 เยน ลงจุดโยนเหรียญ เชื่อว่าพรที่ขอไปจะสมหวังทุกประการ แล้วถ่ายรูปกับ คามินาริมง (ประตูฟ้าคำรณ) กับสัญลักษณ์โคมแดงยักษ์ใหญ่ ที่ใครๆ มาเที่ยวญี่ปุ่น ต้องไม่พลาด

	ถนนนาคามิเซ

ถนนนาคามิเซ อีกหนึ่งไฮไลท์ของวัดอาซากุสะ ถนนช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกมากมาย ใครอยากช้อปปิ้งของฝากที่เป็นแบบญี่ปุ่๊น ญี่ปุ่น Made In Japan แท้ๆ ก็สามารถเลือกซื้อกันได้ที่นี่ หากมีเวลา สามารถเดินไปถ่ายรูปคู่กับวิวของหอคอย โตเกียวสกายทรี (Tokyo Sky tree) แลนด์มาร์กของมหานครโตเกียว ซึ่งอยู่ไม่ไกลวัดอาซากุซะ

วันที่ห้า :: เดินทางสู่ท่าอากาศยานนาริตะ (โดยรถ Shuttle Bus ของโรงแรม) ท่าอากาศยานนาริตะ - ท่าอากาศยานบรูไน - ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

• เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนาริตะโดย Hotel Shuttle Bus เพื่อตรวจเช็คเอกสารการเดินทางและสัมภาระเตรียมตัวเดินทางกลับ
• 11.45 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานบรูไน โดย สายการบินรอยัลบรูไนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ BI696 
• 16.45 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานบรูไน ประเทศบรูไน 
• 18.20 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดย สายการบินรอยัลบรูไนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ BI519
• 20.05 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ