เที่ยวสิงคโปร์วันเดียวก็เที่ยวได้นะ..รู้ยัง ??
Singapore 1 Day trip
สิงคโปร์ ประเทศเล็กๆแต่มีแลนด์มาร์คที่เป็นเอกลักษณ์ และอยู่ใกล้เดินทางเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น
ถ้ามีเวลาว่างเพียง 1 วันจะเที่ยวสิงคโปร์ยังไงดีนะ ไปดูกันเลย ...
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับการเดินทางจากไทยไปยังสิงคโปร์กันก่อน ใช้เส้นทางที่ประหยัดเวลาที่สุดนั่นก็คือ .. “เครื่องบิน” นั่นเอง เราใช้เวลาเดินทางมายังสิงคโปร์แค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่ต่างอะไรจากบินภายในประเทศเลย ลงเครื่องปุ๊ปตื่นตาตื่นใจไปกับ สนามบินชางกี สิงคโปร์ ที่เพิ่งจะเปิดตัวอาคารแห่งใหม่ภายในสนามบินฯ ที่มีชื่อว่า Jewel Changi Airport เป็นอาคารที่ได้รับการออกแบบให้มีความทันสมัยและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น สะดุดตาอีกด้วย
การเดินทางในสิงคโปร์ที่ครอบคลุมพื้นที่ในสิงคโปร์ที่สุด ก็น่าจะเป็นรถไฟฟ้า sMRT (Singapore Mass Rapid Transit) เพราะสะดวก รวดเร็ว และราคาไม่สูง จึงเป็นที่นิยมอย่างยิ่ง และการเดินทางจะสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ด้วย “บัตร EZ-Link” ซึ่งเป็นบัตรที่สามารถใช้ขึ้นได้ทั้งรถไฟฟ้า MRT และ รถบัส ไม่ต้องเสียเวลารอต่อคิวซื้อบัตรที่ตู้ทุกสถานี สามารถหาซื้อบัตรนี้ได้ตามเคาน์เตอร์ในสถานี MRT ทั่วไป
- สายสีแดง (North-Sounth Line : NS) ให้บริการตั้งแต่สถานี Jurong East ไปสิ้นสุดที่สถานี Marina Bay
- สายสีม่วง (North-East Line : NE) ให้บริการตั้งแต่สถานี Punggol ไปสิ้นสุดที่สถานี Harbour Front
- สายสีส้ม (Circle Line) ให้บริการเดินรถไฟเชื่อมระหว่างรถไฟฟ้าทั้ง 3 สาย
- สายสีน้ำเงิน (Downtown Line) ให้บริการตั้งแต่สถานี Bukit Panjang ไปสิ้นสุดที่สถานี Chinatown
1. รูปปั้นและสวนเมอร์ไลอ้อน Merlion Park
สัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ ตั้งอยู่ริมอ่าวมาริน่า ตั้งอยู่ภายในสวนเมอร์ไลอ้อน(Merlion Park) ย่านมาริน่าเบย์ (Marina Bay) เป็นที่ๆใครมาเที่ยวสิงคโปร์ก็ต้องแวะมาถ่ายรูปด้วย ตั้งตระหง่านพ่นน้ำ
การเดินทาง: MRT สถานี Raffles Places : ทางออก G
2. การ์เด้น บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay)
สวนสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ที่ทันสมัย และมีชื่อเสียงมากที่สุดของสิงคโปร์ มีทั้งหมด 3 โซน คือ Bay Center Garden, Bay East Garden และ Bay South Garden
การเดินทาง: MRT สถานี Bayfront ทางออก B
3. ถนนสายศิลปะ ฮาจิเลน
ถนนเล็กๆ ในสิงคโปร์ ที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่น บรรยากาศเต็มไปด้วย ร้านค้า ร้านขายของ ร้านอาหาร ที่สวยงาม โดดเด่น และสะดุดตาด้วยการแต่งแต้มเป็นลวดลายสีสันสดใส พร้อมทั้งมีมุมชิคๆ เก๋ๆ อาร์ตๆ ให้ทุกคนได้ถ่ายรูปกันอย่างจุใจอีกด้วย
การเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้า MRT (สายสีเขียว) มาลงที่สถานี Bugis ทางออก B
4. สะพาน เฮนเดอร์สัน เวฟ บริดจ์ (Henderson Wave Bridge)
สะพานที่ดีไซน์สวยแปลกตา มีความสูงกว่า 36 เมตร หรือประมาณตึก 10 ชั้น สะพานนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นทางเดินชมป่าใจกลางเมืองสิงคโปร์ โดยคุณจะได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ของต้นไม้ และเมือง ผู้คนนิยมมาออกกำลังกายและชมพระอาทิตย์ตกกันที่นี่
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้า MRT (สายสีม่วง) ลงที่สถานี Habour front ทางออกห้าง Vevo city แล้วเดินมาขึ้นรถเมล์ที่หน้าห้าง ป้าย14141 รถเมล์สาย 145 นั่งไปลงที่ป้าย B14051
5. น้ำพุแห่งโชคลาภที่ตึกซันเทค (Fountain of Wealth Suntec city)
ตั้งอยู่ตรงกลางของกลุ่มอาคารซันเทค ซิตี้(Suntec city) อาคารทั้ง 5 คล้ายกับเป็นนิ้วมือตามหลักฮวงจุ้ย จนผู้ที่ศรัทธาเชื่อว่าถ้าได้สัมผัสกับละอองน้ำพุนี้จะทำให้มีโชคลาภและเป็นสิริมงคลต่อตัวเอง เคยได้รับการบันทึกลงในกินเนสบุ๊ค(Guinness)ในปี 1998 ด้วยว่าเป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้า MRT ลงที่สถานี Promenade Station โดยจะมีอยู่ 2 สายที่ผ่านคือ Circle Line สีเหลืองเข้ม และ Donwtown Line สีน้ำเงิน ทางออก C
หากเหลือเวลาสัก2-3 ชั่วโมงก่อนเดินทางกลับ ที่สนามบินชางกี สิงคโปร์แห่งนี้ เป็นสนามบินที่มีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก ไม่มีเบื่อแน่นอน เพราะไม่ว่าจะอยู่ จะเดินเล่นช้อปปิ้งห้าง Jewel อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของสิงคโปร์ก็ทำได้สบายมาก หรือจะถ่ายรูปมุมเด็ดๆกับน้ำตก Rain Vortex ที่ไหลลงมาแบบเพลินๆ และกิจกรรมต่างๆในโซนนี้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านขายสินค้าให้ท่านได้ช้อปปิ้งจุใจกันไป อย่าลืมเผื่อเวลาเดินทางไปที่ประตูทางออกขึ้นเครื่องบินด้วยนะจ๊ะ เดี๋ยวจะตกเครื่องบิน ไม่รู้ด้วยนะ
แพลนง่ายๆ แต่เต็มไปด้วยแลนด์มาร์คของสิงคโปร์ ที่เมื่อได้ไปเยือนแล้วไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เที่ยวสิงคโปร์วันเดียวก็เที่ยวได้นะ รู้ยัง?
ปักหมุด 9 วัดในสิงคโปร์ สายมูต้องไป!!
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้