เที่ยวญี่ปุ่น โตเกียว - โอซาก้า
เที่ยวญี่ปุ่น หลากหลายสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ชวนคุณมาสัมผัส แวะโตเกียว เที่ยวโอซาก้า
1. วัดเซ็นโซจิ (SENSOJI) หรือที่เรียกกันว่าวัดอาซากุสะ (ASAKUSA TEMPLE)
วัดเซ็นโซจิ หรือวัดอาซากุสะ เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงโตเกียว ที่มาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วถ้าไม่ไปถือว่ายังมาไม่ถึงญี่ปุ่น สิ่งที่เป็นจุดเด่นของวัดนี้ก็คือ โคมไฟสีแดงขนาดยักษ์ ที่แขวนอยู่หน้าประตู และมีโคมไฟเล็กสีขาวมากมายเรียงรายกันอย่างสวยงามบริเวณหน้าวัด เมื่อเข้ามาข้างในจะเห็นกระถางธูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่ โดยเชื่อว่าถ้าได้รับควันจากกระถางธูปนี้ติดตัวมาจะมีความโชคดี เราจะเห็นคนมากมายไปยืนกวักเอาควันธูปเข้าตัวกันเต็มไปหมด และมีบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่มีเชื่อกันว่าตั้งไว้สำหรับให้ผู้คนไว้ล้างชำระสิ่งสกปรก เสร็จแล้วก็เข้าไปสักการะขอพรเจ้าแม่กวนอิม ที่เป็นทองสัมฤทธิ์ ขนาดเล็กเพียง 5.5 เซนติเมตร และที่ขาดไม่ได้ก็คือ การทำบุญไหว้พระ ด้วยการโยนเหรียญลงในกล่อง แล้วตบมือ 2 แปะ อธิษฐาน และการเสี่ยงเซียมซี เป็นอันจบพิธีไหว้พระแบบญี่ปุ่น ส่วนรอบๆ บริเวณวัดนั้นจะมีขายเครื่องรางของขลัง ของที่ระลึกที่เป็นแบบเฉพาะของญี่ปุ่น เช่น ตุ๊กตาแมวกวัก พวงกุญแจ ดาบซามูไร ร่มญี่ปุ่น ชุดกิโมโน ขนมญี่ปุ่นต่างๆ เป็นต้น ที่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นไม่ควรพลาด
2. พิพิธภัณฑ์ราเมน (Ramen Museum) โยโกฮาม่า
Cr. tokyoexcess.blogspot.com
อีกหนึ่งเมนูที่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นไม่ควรพลาดคือ "ราเมน" มาเที่ยวญี่ปุ่นที่พิพิธภัณฑ์ราเมนที่เดียว ก็ได้ลิ้มรสราเมนจากเมืองดังๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน ที่แต่ละร้านได้คัดสรรเมนูเด็ดไว้คอยบริการลูกค้า อิ่มหนำกับราเมนแสนอร่อย เสร็จแล้วเดินขึ้นไปดูพิพิธภัณฑ์ที่ชั้นบน เป็นเมืองจำลองโตเกียว การแสดงทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์เกี่ยวกับราเมนอีกด้วย อีกทั้งยังมีร้านขายของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นต้องนำติดไม้ติดมือไปเป็นของฝาก
3. ภูเขาไฟฟูจิ
ภูเขาไฟฟูจิ ถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นที่โด่งดังไปทั่วโลก เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นและสวยที่สุดในโลกอีกแห่งหนึ่ง วันไหนที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง จะสามารถมองเห็นได้ทั้งจากโตเกียวและโยโกฮาม่า นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นต่างพากันเดินทางเพื่อมาชื่นชมความงามกันไม่ขาดสาย ตลอดทุกฤดูกาล รอบๆ ภูเขาไฟฟูจิ เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์งดงาม เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีทะเลสาบถึง 5 แห่ง ที่ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นจะต้องมาสัมผัสให้ได้ [Tokyo 1 Day Tour - วันเดียวเที่ยวฟูจิ]
4. อาบน้ำแร่ออนเซน (Onsen)
เที่ยวญี่ปุ่นชมเมืองมาหลายที่แล้ว มาพักผ่อนหย่อนใจ แช่น้ำแร่ให้ผ่อนคลาย กับน้ำแร่ธรรมชาติ หรือ ออนเซ็น ซึ่งเป็นน้ำร้อนที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดิน โดยประเทศญี่ปุ่นมีภูเขาไฟที่ยังไม่ดับอยู่หลายลูกทำให้น้ำร้อนที่ผุดขึ้นมาส่วนใหญ่เกิดจากภูเขาไฟนั่นเอง ชาวญี่ปุ่นมีธรรมเนียมในการไปแช่ออนเซนมามาเนิ่นนาน เพราะเชื่อกันว่าน้ำร้อนเหล่านี้มีคุณสมบัติพิเศษ ช่วยในการรักษาสุขภาพ รักษาโรค ระบบหมุนเวียนโลหิต และทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มาเที่ยวญี่ปุ่นต้องลองแช่น้ำแร่ออนเซน ที่มีอยู่หลายแห่งทั่วญี่ปุ่น
5. วนอุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ – ล่องเรือโจรสลัดทะเลสาบอาชิ
มุ่งสู่ วนอุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ ล่องเรือโจรสลัดทะเลสาบอาชิ มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที่ต้องลองนั่งเรือโจรสลัดสักครั้ง ที่ถูกตกแต่งให้เป็นเรือโจรสลัดย้อนยุคถึง 3 แบบด้วยกันคือ โรไวยัล2 วิคทอรี่ และเบอร์ธา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ระหว่างนี้ท่านจะได้สัมผัสกับความงามตามธรรมชาติของทะเลสาบอาชิ ที่ได้ชื่อว่า เป็นทะเลสาบ ที่สวยที่สุด 1 ใน ทะเลสสาบ 5 แห่ง ที่ล้อมรอบ ภูเขาไฟฟูจิ ที่เกิดจากการก่อตัวของลาวาภูเขาไฟฟูจิ หากทัศนวิสัยดีๆ ไม่มีเมฆหมอก ก็จะเห็นภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังให้ได้ชื่นชมความงามกันอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นตำนานของ วัดฮาโกเน่ ซึ่งปัจจุบันจมอยู่ภายใต้ท้องทะเลสาบ คงเหลือให้เห็นเพียงเสาประตูวัดเท่านั้น
6. แวะชิมไข่ดำ ที่หุบเขาโอวาคุดานิ (Owakudani )
Cr. www.slate.com
เดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นกันต่อ ไปที่หุบเขาโอวาคุดานิ ซึ่งตั้งอยู่ตรงปากปล่องภูเขาไฟโบราณฮาโกเน่ ถึงจะไม่มีการระเบิดอีกแล้วแต่ใต้พื้นผิวยังคงความร้อนอยู่จึงทำให้มีน้ำพวยพุ่งหรือระเหยกลายเป็นไอออกมาข้างบนตลอดเวลา และมีแร่กำมะถันอยู่มาก ซึ่งบ่อน้ำแร่กำมะถันนี้สามารถต้มไข่ให้สุกได้ เป็นที่ขึ้นชื่อลือชาว่ามาเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว ต้องมาลองชิมไข่ดำที่นี่ให้ได้ โดยชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าหากได้ทานไข่ดำหนึ่งฟองจะสามารถทำให้อายุของท่านยืนยาวขึ้นอีกถึง 7 ปี ซึ่งไข่ดำนั้นดำแต่เปลือกนอกเท่านั้น เนื้อข้างในยังขาวใสเหมือนไข่ต้มทั่วไป นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากกำมะถันมากมายที่ล้วนแล้วแต่เป็นสีดำทั้งสิ้นที่นักเที่ยวญี่ปุ่นต้องไม่พลาดนำไปเป็นของฝาก เช่น สบู่ดำ แชมพูดำ โฟมล้างหน้าดำ ที่คนญี่ปุ่นเชื่อว่าบำรุงผิวพรรณและเส้นผมให้มีสุขภาพดีอีกด้วย ขนมของฝากก็ไม่ธรรมดา ทั้งโมจิ ขนมไข่ ช็อกโกแลต และของที่ระลึกต่างๆ อีกมาก
7. วัดคิโยมิสึ
วัดคิโยมิสึ หรือ วัดน้ำใส มีอายุเก่าแก่ยาวนานกว่า 1,500 ปี ร้างขึ้นมาก่อนที่เกียวโตจะเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น สาเหตุที่เรียกว่า \"วัดน้ำใส\" ก็เนื่องมาจากมีน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำ 3 สาย ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติไหลมาจากเทือกเขา เราจึงเห็นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น เข้าคิวดื่มน้ำจากแม่น้ำสามสาย โดยมีความเชื่อว่า น้ำสายที่ 1 ถ้าใครได้ดื่มจะประสบความสำเร็จด้านการศึกษา น้ำสายที่ 2 จะสมหวังในความรัก น้ำสายที่ 3 จะมีสุขภาพแข็งแรง จุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของวัดคือห้องโถงใหญ่ ที่สร้างยื่นออกจากหน้าผา มีเสาไม้ขนาดใหญ่ 139 ต้น ค้ำยันโดยไม่ได้ใช้ตะปูเลย องค์การยูเนสโกจึงได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก บนระเบียงแห่งนี้ยังมีความเชื่อที่ว่าถ้าใครมีความปรารถนาอะไร แล้วโดดลงจากระเบียงที่วัดคิโยมิสึ และยังรอดชีวิตกลับมาได้ ความปรารถนานั้นจะเป็นจริง แต่ในปัจจุบัน ทางวัดไม่ให้กระโดดแล้ว จากนั้นช้อปปิ้งกันต่อที่ ถนนสายกาน้ำชา เนื่องจากในอดีตเคยมีร้านขายถ้วยชาเครื่องปั้นดินเผาเรียงรายตลอดสองข้างทาง ปัจจุบันมีร้านขายของที่ระลึกต่างๆ ตกแต่งย้อนยุคเลียนแบบสมัยเฮอัน ซึ่งมีสินค้าพื้นเมืองนานาชนิด เช่น รองเท้าโซริ (รองเท้าเกี๊ยะแบบญี่ปุ่น) ชุดยูกะตะ ตุ๊กตานางระบำญี่ปุ่น ของที่ระลึกแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม เป็นต้น
8. ปราสาททองคินคะคุจิ
ปราสาททองคินคะคุจิ เดิมเป็นสถานตากอากาศของ โชกุนโยชิมิสึ ที่เราคุ้นเคยกันจากการ์ตูนเรื่อง เณรน้อยเจ้าปัญญาอิคคิวซังนั่นเอง ปราสาทเดิมได้ถูกไฟไหม้ไปหลายครั้ง และสร้างขึ้นใหม่ตามรูปแบบเดิม ปิดด้วยทองคำเปลวเหลืองอร่าม จุดเด่นอีกแห่งก็คือรูปหล่อนกฟีนิกซ์บนยอดปราสาท มีสระกระจก ที่สะท้อนภาพศาลาทองอร่ามชัดเจน สระกระจก ถูกออกแบบให้เป็นสระน้ำบนสรวงสวรรค์ ภาย ในสระมีดอกบัว และยังมีเกาะเล็กๆและก้อนหินโผล่พ้นขึ้น มาเหนือน้ำ ซึ่งก็เปรียบเป็นมหาสมุทร 8 แห่ง และภูเขา 9 ลูก ในตำนานของเซน
9. วัดโทไดจิ เมืองนารา
วัดโทไดจิ ตั้งอยู่ที่เมืองนารา เมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่น เป็นวัดที่มีความเกี่ยวข้องทางประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่าง มาก มีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงใหญ่ๆในญี่ปุ่น 4 เรื่องที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวัดโทไดจิ คือ การเปลี่ยนแปลงทางการปกครอง การจัดการนิกายทางพุทธศาสนา การจัดระเบียบวัด และทางศิลปะ วัดโทไดจิเป็นวัดพุทธที่ได้รับการบันทึกว่าเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไดบุทสึขนาดใหญ่หล่อจากบรอนซ์ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในทะเบียนเดียวกับวัด ศาลเจ้า และสถานที่สำคัญอื่นๆอีก 7 แห่งในเมืองนารา นอกจากนี้ เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ใครมาเที่ยวญี่ปุ่น วัดโทไดจิ จะได้พบกับกวางแสนเชื่องจำนวนมากมาย ให้นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นให้อาหารกวางได้
10. ปราสาทโอซาก้า
ปราสาทโอซาก้า เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองโอซาก้า ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกสำคัญของประเทศญี่ปุ่น มีความสูงถึง 8 ชั้น บนกำแพงตัวปราสาทประดับด้วยภาพเสือ และลงสีทองอร่ามสวยงาม บนหอคอยชั้น 8 สามารถมองเห็นทิวทัศน์รอบเมืองโอซาก้าได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ภายในตัวปราสาท ยังมีนิทรรศการแสดงหลักฐาน ภาพเขียน เครื่องแต่งกายโบราณ ที่เกี่ยวข้องกับประสาทและตระกูล Toyotomi อยู่ บริเวณรอบๆ ปราสาท เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีดอกไม้สีสันสวยงามผลัดกันออกดอกบานสะพรั่งตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงที่มีดอกซากุระบาน จะมีผู้คนแห่กันมาชมความสวยงามกันมากมาย
สนใจโปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่นออกใหม่ คลิก แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบเดินทางร่วมกันกับผู้อื่นเราขอแนะนำประสบการณ์ในการเดินทางแบบใหม่เรียกว่าการเดินทางแบบเที่ยวส่วนตัวหรือว่า Group and Go นั่นเองค่ะ
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้