รวม 5 ที่เที่ยวลาว(Laos) ยอดฮิต2023

เปิดประเทศให้เที่ยวกันมาสักพักแล้ว เรามาแนะนำ 5 จุดเช็คอินเที่ยว ลาว(Laos) ในปี2023 ต้องบอกเลยว่า ลาว(Laos) ก็นับได้ว่าเป็นที่แรกๆ ที่ชาวไทยไปเที่ยวกันค่ะ เพราะด้วยภาษา ค่าเงิน และใช้เวลาเดินทางไม่นานนัก จึงทำให้มีคนไปเที่ยวเยอะมากพอสมควร มนต์เสน่ของลาวนั้นมีมาก ไม่ว่าจะเป็น ธรรมชาติที่เขียวชะอุ่ม น้ำตก วัดวาอารม ที่สวยงามมากเลยละคะ เราไปดูกันดีกว่าว่ามีที่ไหนกันบ้าง

 1. ประตูชัย หรือ ปะตูไซ (Patuxay Monument)

เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญอีกแห่งของเวียงจันทน์ค่ะ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2500-2511 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานสดุดีวีรชนผู้ร่วมรบเพื่อประกาศเอกราชจากประเทศฝรั่งเศสค่ะ   ปะตูไซ เป็นคำประสมมาจากคำว่า "ปะตู" หมายถึง "ประตู" และ "ไซ" มาจากภาษาสันสกฤตคำว่า "ชยะ" หมายถึง "ชนะ" นั่นเองค่ะ

จะเห็นได้ว่าประตูชัยมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เป็นศิลปะแบบล้านช้าง ผสมผสานอิทธิพลที่ได้รับมาจากประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ออกแบบโดยนายทำ ไซยะสิทธเสนา สถาปนิกชาวลาว บริเวณรอบๆ ประตูชัยจะถูกล้อมรอบด้วยสวนสวย ดอกไม้ และน้ำพุ ซึ่งในเวลาค่ำ จะมีการเปิดไฟสวยงาม และมีการโชว์น้ำพุเต้นระบำอีกด้วย 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/Mz1wjPeREBDSKCtN8

2. จุดชมวิวผาหนามไซ (Nam Xay Viewpoint)

ทางเดินขึ้นสุดโหดแต่วิวหลักล้านนนน…..มองเห็นทิวทัศน์ของทุ่งนาที่เขียวชะอุ่ม แถมได้เห็นความสวยงามของภูเขาเมืองวังเวียงได้ครบ 360 องศา เป็นอีกหนึ่งจุดที่มาวังเวียงแล้วไม่ควรพลาดเลยจิงๆ ผาหนามไซจะอยู่ห่างจากตัวเมืองวังเวียงไปไม่ไกลเท่าไหร่ประมาณ 9 Km สามารถเช่ารถมอเตอร์ไซด์แล้วขับไปยังผาหนามไซได้ หรือ จะนั่งสามล้อ รถรับจ้าง จากตัวเมืองไปยังผาหนามไซได้เช่นกัน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินป่า สายเที่ยวแบบลุยๆที่ชอบความท้าทายคงจะตื่นเต้นน่าดูเพราะเส้นทางที่ขึ้นค่อนข้างลำบากไม่ใช่พื้นถนนราบต้องปีนไต่ขึ้นไป ส่วนมากจะมีแต่โขดหินที่ขรุขระและแหลมคม ให้ฟิลผจญภัยสุดไปเลยค่ะ 

จุดไฮไลท์ ของผาหนามไซก็คือ มอเตอร์ไซด์และธงชาติลาว ให้เพื่อนๆได้ถ่ายรูปเท่ๆ

• การเดินทางง่าย : ขับรถไปทางเดียวกันกับบลูลากูน1 ค่าข้ามสะพานข้ามแม่น้ำชอง 5,000กีบ-10,000กีบ แล้วแต่รถเล็กรถใหญ่นะคะ ผาหนามไซจะเลี้ยวซ้ายแยกออกไปอีกทางหนึ่งไปตามป้ายบอกทางได้เลยค่ะ

• พิกัด : https://goo.gl/maps/9GAXDYqyP5qZe3C77

3. พระธาตุหลวงเวียงจันทน์ (Pha That Luang)

หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี เป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดในลาว เป็นปูชนียสถานสำคัญมากๆ แห่งเวียงจันทน์ เรียกได้ว่าใครมาเวียงจันทน์แล้ว ไม่ได้มาไหว้พระธาตุหลวง แทบเรียกได้ว่า มาไม่ถึงเวียงจันทน์เลยทีเดียว เพราะตามประวัติศาสตร์ของลาวนั้น พระธาตุหลวงถูกสร้างขึ้นพร้อมๆ กับการสร้างเมืองเวียงจันทน์ โดย พระเจ้าจันทบุรีประสิทธิศักดิ์ เจ้าเหนือหัวผู้ครองนครเวียงจันทน์พระองค์แรกนั่นเอง พร้อมกับพระอรหันต์ 5 องค์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ อีกทั้งตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกันพระธาตุพนมในประเทศไทย 

องค์พระธาตุมีความสูง 45 เมตร รูปลักษณะคล้ายดอกบัวตูม อันหมายถึงสัญลักษณ์คำสอนของพระพุทธเจ้า รูปชั้นล่างสุดเป็นฐานพระธาตุ 4 เหลี่ยม ทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกยาวด้านละ 69 เมตร  ด้านล่างมีใบเสมารอบ 4 ด้าน มีทั้งหมด 323 ใบ มีหอไหว้ทั้ง 4 ด้าน มีบันไดขึ้นหอไหว้ทุกหอ นอกบริเวณทางทิศเหนือ และทางทิศใต้ มีวัดสำหรับพระภิกษุสามเณรอ เรียกว่า วัดธาตุหลวงเหนือ และวัดธาตุหลวงใต้ ค่ะ

• พิกัด : https://goo.gl/maps/zZkkDAzAoryAemYJ7

4.น้ำตกตาดกวางสี (Kuang Si Waterfall) 

หลวงพระบาง  ที่เที่ยวลาว เป็น เมืองมรดกโลก อันเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของศิลปวัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะ น้ำตกตาดกวางสี (Kuang Si Waterfall) บอกเลยว่าสวยงามอลังการมากๆ สายน้ำที่ไหลลดหลั่นลงมาตามผาหินปูน รวมกันจนกลายเป็นแอ่งน้ำสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ด้านล่างทำให้เกิดเป็นทัศนียภาพที่งดงามจนถูกขนาดนามว่าเป็น “น้ำตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง” ไม่ได้เกินจริงไปเลยค่ะ อีกทั้งความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้ใบหญ้ารอบด้านยังเสริมให้สภาพแวดล้อมของน้ำตกแห่งนี้ดูร่มรื่นและเย็นสบายมากเลยละค่ะ

• พิกัด : https://goo.gl/maps/J7yD9dEi8sN24fE5A 

• เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.

• ค่าเข้าชม : 25,000 กีบ

5. ประสาทหินวัดพู (Vat Phou)

โบราณสถานเก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศลาวทางตอนใต้ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวลาวและชาวต่างชาติคือ ปราสาทหินวัดพู ปราสาทขอมโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 3 สมัยคือ สมัยอาณาจักรเจนละ สมัยอาณาจักรขอมก่อนเมืองพระนคร และสมัยอาณาจักรล้านช้าง ซึ่งในยุคสมัยสุดท้ายนี้ก็คือประเทศลาวในปัจจุบันนั่นเอง

ปราสาทหินแห่งนี้จึงนับว่าเป็นศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ที่แสดงถึงอารยธรรมโบราณในอดีต มีการค้นพบศิลาจารึกที่บันทึกไว้ว่าในช่วงศตวรรษที่ 6 - 8 ว่าที่ตั้งของปราสาทแห่งนี้คือสถานที่ประกอบพิธีบูชายันต์ ต่อมาในศตวรรษที่ 9 มีการใช้พื้นที่นี้สร้างเป็นปราสาทหินเพื่อเป็นเทวาลัยในศาสนาฮินดู และสุดท้ายเมื่อเข้าสู่สมัยอาณาจักรล้านช้าง ปราสาทหินวัดพูจึงถูกเปลี่ยนจากเทวาลัยเป็นวัดในพุทธศาสนานิกายเถรวาท และด้วยความเก่าแก่ทั้งเรื่องราวและสถานที่จึงทำให้ปราสาทแห่งนี้ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

• พิกัด : https://goo.gl/maps/DCkt8Wr9zcDfFpX28

• เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.

• ค่าเข้าชม : 50,000 กีบ

แชร์ บทความนี้

พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้