สรุปการเดินทาง

เลือกโรงแรม

*หมายเหตุ : อัตราค่าบริการนี้ ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน และไม่สามารถใช้ในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ กรุณาเช็คกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง

*หมายเหตุ : อัตราค่าบริการนี้ ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน และไม่สามารถใช้ในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ กรุณาเช็คกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง

พาเที่ยวและเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เฉพาะครอบครัว หรือ แก๊งค์เพื่อน

เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว 4-5 คนก็ไปได้ โดยรถ TOYOTA ALPHARD

เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว 6-10 คนก็ไปได้ โดยรถ TOYOTA HIACE

แพลนการเดินทาง (แพคเกจไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)

วันแรก : กรุงเทพฯ – มัณฑะเลย์ – วัดชเวนันดอร์ – พระราชวังมัณฑะเลย์ – ชมวิวยอดเขามัณฑะเลย์

• ออกเดินทางสู่ เมืองมัณฑะเลย์ โดยสายการบินที่ท่านเลือก 
• เดินทางถึงสนามบินนานาชาติมัณฑะเลย์ เมืองมัณฑะเลย์ ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร 
• นำท่านชม วัดชเวนันดอร์ ชมอาคารไม้สักทองสลักเสลาด้วยลวดลายที่งามวิจิตร อาคารนี้เคยเป็นพระตำหนักที่ประทับของพระเจ้า มินดง เมื่อสิ้นพระชนม์ลงแล้ว พระเจ้าทีบอ (กษัตริย์องค์สุดท้ายของพม่า) ได้รื้อมาถวายวัดภายในอาคารยังตกแต่งด้วยไม้แกะสลักเล่าเรื่องมหาชาดก 10 ชาติ ที่ยังคงความสมบูรณ์มากที่สุด 

• นำท่านชม พระราชวังมัณฑะเลย์ พระราชวังที่ส่วนใหญ่ก่อสร้างด้วยไม้สักที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียในสมัยสงครามมหา-เอเชียบูรพา หรือสงครามโลกครั้งที่ 2 วันที่ 20 มีนาคม 2488 เครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรโดยกองทัพอังกฤษได้ทิ้งระเบิดจำนวนมากมายถล่มพระราชวัง-มัณฑะเลย์ของพม่าด้วยเหตุผลว่าพระราชวังนี้เป็นแหล่งซ่องสุมกำลังของกองทัพญี่ปุ่นพระราชวังมัณฑะเลย์ซึ่งเป็นพระราชวังไม้สักก็ถูกไฟไหม้ เผาราบเป็นหน้ากลองหลงเหลือก็แต่ป้อมปราการและคูน้ำรอบพระราชวัง ที่ยังเป็นของดั้งเดิมอยู่ปัจจุบันพระราชวังที่เห็นอยู่เป็นพระราชวังที่รัฐบาลพม่าได้จำลองรูปแบบของพระราชวังของเก่าขึ้นมา

• นำท่านเดินทางสู่เขา Mandalay Hill ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวัง เขาลูกนี้สูง 240 เมตรซึ่งเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของเมืองมัณฑะเลย์

• รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
• ที่พักตามที่ท่านเลือก

วันสอง : มัณฑะเลย์ - วัดกุโสดอร์ - วัดมหากันดายงค์ - สะพานไม้อูเบ็ง – เจดีย์มิงกุน - มัณฑะเลย์

• รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• นำท่านสักการะ วัดกุโสดอร์ เป็นวัดที่พระเจ้ามินดง สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 4 และพระองค์ทรงให้จารึกพระไตรปิฎก 84,000 พระธรรมขันธ์ ลงบนหินอ่อน 729 แผ่น

• รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
• จากนั้นชม สะพานไม้อูเบ็ง สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก เสาของสะพานใช้ไม้สักถึง 1,086 ต้น มีความยาวกว่า 1.2 กิโลเมตร ทอดข้ามทะเลสาบตองตามัน นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกยามเย็นแล้ว ยังเป็นสถานที่ใช้สัญจรไปมาในชีวิตประจำวันของชาวเมียนมาร์อีกด้วย

• จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ท่าเรือริมน้ำ อิระวดี ข้ามฟากสู่ราชธานีเก่าของพระเจ้าปดุง จะเป็นเส้นทางสู่ มหาเจดีย์ยักษ์ "มิงกุน" ชมซากเจดีย์ขนาดใหญ่ ร่องรอยแห่งความทะเยอทยานของพระเจ้าปดุง ที่ใช้แรงงานทาส และนักโทษจำนวนนับพันคนในการสร้าง โดยตั้งพระทัยว่าจะสร้างให้สูงใหญ่กว่าพระปฐมเจดีย์แห่งสยาม และให้พระองค์สามารถทอดพระเนตร ได้จากเมืองอังวะที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำอิรวดี แต่ด้วยงบประมาณที่บานปลาย ประกอบกับปัญหาขาดแคลนแรงงาน จึงทำให้การก่อสร้างล่าช้า ในที่สุดพระองค์ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน ในปี พ.ศ.2362 หลังพ่ายแพ้ไทยในสงคราม 9 ทัพ เจดีย์องค์นี้ จึงสร้างได้แค่ฐาน หลังจากนั้นองค์เจดีย์จึงถูกทิ้งร้างเรื่อยมา แต่เพียงฐานก็นับว่าใหญ่โตมาก หากสร้างเสร็จจะมีขนาดใหญ่และสูงที่สุดในโลก และยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ใหญ่ระดับโลกของมิงกุน คือ ระฆังยักษ์มิงกุน นี้ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2351 โดยพระเจ้าปดุง สร้างถวายแด่เจดีย์มิงกุน มีน้ำหนัก 90 ตัน สูง 4 เมตร ปากระฆังกว้าง 5 เมตร เป็นระฆังที่ตีดัง เดิมทีถูกแขวนไว้ที่องค์เจดีย์ปอนดอว์ ใกล้ๆ กับเจดีย์มิงกุน แต่หลังจากแผ่นดินไหว ทำให้ฐานพระเจดีย์พังลงมา ระฆังยักษ์มิงกุนจึงถูกย้ายมาแขวนยังจุดที่ตั้ง ณ ปัจจุบันครับ ในอดีตระฆังองค์นี้ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากระฆังแห่งพระราชวังเครมลิน ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย แต่ระฆังเครมลินแตกไปแล้ว ปัจจุบันระฆังยักษ์มิงกุน จึงเป็นระฆังที่มีสภาพสมบูรณ์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก 
• จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมัณฑะเลย์
• รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
• ที่พักตามที่ท่านเลือก

วันที่สาม : ร่วมพิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุณี – สนามบินมัณฑะเลย์ - กรุงเทพฯ

• เช้าตรู่ นำท่าน ร่วมพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ในพิธีกรรมล้างหน้าพระพักตร์พระมหามัยมุนี และร่วมกันถวายผ้าจีวรแด่พระมหามัยมุนี(1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า)ถือเป็นต้นแบบพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ทรงเครื่องกษัตริย์ที่ได้รับการขนานนามว่า “พระพุทธรูปทองคำเนื้อนิ่ม” ที่พระเจ้ากรุงยะไข่ทรงหล่อขึ้นที่เมืองธรรมวดี เมื่อปี พ.ศ. 689 สูง 12 ฟุต 7 นิ้ว หุ้มด้วยทองคำเปลวหนา 2 นิ้ว ทรงเครื่องประดับทอง ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 9 ฟุต ในปี พ.ศ.2327 พระเจ้าปดุงได้สร้างวัดมหามุนี หรือวัดยะไข่ (วัดอาระกัน หรือวัดพยาจี) เพื่อประดิษฐานพระมหามัยมุนี และในปี พ.ศ.2422 สมัยพระเจ้าสีปอ ก่อนจะเสียเมืองพม่าให้อังกฤษได้เกิดไฟไหม้วัดทองคำ จึงทำให้ทองคำเปลวที่ปิดพระละลาย เก็บเนื้อทองได้น้ำหนักถึง 700 บาท ต่อมาในปี พ.ศ.2426 ชาวพม่าได้เรี่ยไรเงินเพื่อบูรณะวัดขึ้นใหม่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมโดยการออกแบบของช่างชาวอิตาลีจึงนับได้ว่าเป็นวัดที่สร้างใหม่ที่สุดแต่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ที่สุดในเมืองพม่า โดยรอบๆ ระเบียงเจดีย์ยังมีโบราณวัตถุที่นำไปจากกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งกรุงแตกครั้งที่ 1

• รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ สนามบินมัณฑะเลย์
• เดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดยสายการบินที่ท่านเลือก
• เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ…..พร้อมความประทับใจและความเป็นสิริมงคล

หากต้องการซื้อตั๋วเครื่องบินเพิ่ม แนะนำสายการบิน