มิลาน(Milan) เมืองแห่งอดีตและอนาคต
“ มิลาน (Milan) ” หรือที่คนอิตาเลียนเรียกว่า “ มิลาโน่ (Milano) ”เป็นเมืองหลวงทางแฟชันของโลกแข่งกับปารีสในประเทศฝรั่งเศส เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจของอิตาลี
นอกจากนั้นยังมีภาพวาดเฟรสโก้ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และโรงละครโอเปร่าอันลือชื่อ วันนี้เราจะพาไปเดินเล่นรอบเมืองมิลานกัน
จุดแรกสุดที่ต้องแวะชมก่อนคือมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน หรือที่เรียกว่า “ ดูโอโม (Duomo) ” ชื่อนี้ไว้ใช้เรียกมหาวิหารประจำเมือง แทบจะมีดูโอโม่ทุกเมืองที่สำคัญ ๆ เลย น่าจะเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของคนในเมือง ดูโอโม่ที่เมืองนี้สร้างในสถาปัตยกรรมแบบโกธิก เป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอับดับสองรองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงวาติกัน
มหาวิหารแห่งนี้เริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1386 แต่มาแล้วเสร็จ 400 กว่าปีหลังจากนั้น คือในปี ค.ศ.1813 ด้านนอกเป็นยอดแหลม 135 ยอด จึงมีชื่อเล่นว่า “ มหาวิหารเม่น ” มีรูปสลักหินอ่อนจากยุคต่าง ๆ ประดับอยู่กว่าสามพันรูป
ยอดที่สูงที่สุดประดับด้วยรูปสลักพระแม่มาเรียสูง 4 เมตร หุ้มด้วยทองคำทั้งองค์ มีชื่อเรียกว่า “ มาดอนนิน่า (Madonnina) ”
ภายในมหาวิหารดูเรียบง่าย แต่โอ่อ่ากว้างขวาง ตามแบบโกธิก ด้านหน้ามหาวิหารจะเป็นลานกว้าง เรียกว่า “ ปิอาซซ่า เดล ดูโอโม (Piazza del Doumo) ” เป็นศูนย์กลาง เป็นแหล่งชุมนุมของผู้คนมาทุกยุคสมัย
ด้านข้างของจตุรัสหน้าดูโอโมทางทิศเหนือ จะเห็นทางเข้า “ กัลเลเรีย วิตโตรีโอ เอมานูเอล ” ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าที่หรูหราอลังการแห่งเมืองมิลาน ภายในห้างเป็นโดมแก้ว มีห้างร้านต่าง ๆ มากมาย คล้ายกับอีกแห่งที่เมืองเนเปิลส
ทะลุออกมาอีกด้านจะเจอโรงอุปรากรชื่อก้องโลก “ ลา สกาล่า (Teatro alla Scala) ” แห่งเมืองมิลาน สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1776-1778 ฝันอยากได้ไปดูอุปรากรที่โรงนี้ซักหนในชีวิต จะมีโอกาสป่าวน้อ
ข้างนอกดูงั้น ๆ แต่ข้างในสุดแสนจะเลิศหรูอลังการ ..
ใครรู้จักบุคคลในภาพบ้าง ถ้ารู้จักหมดแสดงว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ดนตรีคลาสสิกคนหนึ่งเลย
ด้านหน้าลา สกาล่า เป็นลานอีกแล้ว เรียกว่า “ ปิอาซซ่า เดลลา สกาลา ” มีรูปปั้นของศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดังคนหนึ่งของโลก คือ “ ลีโอนาร์โด ดาวินชี (Leonardo da Vinci) ”
ในยุคนั้น เจ้าผู้ปกครองเมืองมิลานได้ว่าจ้างลีโอนาร์โดชาวเมืองฟลอเรนซ์ ให้มาผลิตผลงานที่เมืองมิลานแทน อยู่ฟลอเรนซ์ลำบาก ศิลปินดัง ๆ เยอะแยะอย่างเช่นมิเคลันเจโล หลบมาอยู่มิลานดีกว่า ไม่ค่อยมีคู่แข่ง ผลงานชิ้นสำคัญก้องโลกคือภาพวาดปูนเปียกที่ชื่อว่า “ The Last Supper ” อยู่ในเมืองมิลานนี่เอง ที่ “ โบสถ์ซานตา มาเรีย เดลเล กราเซีย (Santa Maria delle Grazie) ” ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ เป็นแห่งเดียวในมิลานที่ถูกกำหนดให้เป็นมรดโลก
จุดสำคัญแห่งหนึ่งในเมืองมิลานคือ “ ปราสาทสฟอร์เซสโก้ (Castello Sforzesco) ” เคยเป็นป้อมปราการของพวกตระกูลวิสคอนติ (Visconti) ต่อมาเป็นที่พำนักของผู้นำเผด็จการในช่วงศตวรรษที่ 15 คือตระกูลสฟอร์ซา (Sforza)
ปัจจุบัน สถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่สำคัญ
จริง ๆ แล้ว มิลานไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว แต่เป็นเมืองธุรกิจมากกว่า คนที่มาเมืองนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจหรือนักช้อปตัวยงมากกว่า “ ตึกพิเรลลี่ (Pirelli Tower) ” เป็นตึกที่สูงที่สุดในมิลานและเคยสูงที่สุดในอิตาลีด้วย
แฟนฟุตบอลอิตาลีอาจจะอยากชมสนามบอลซานซิโร ซึ่งเป็นสนามเหย้าของทั้งทีมเอซีมิลานและอินเตอร์มิลาน แต่ต้องนั่งรถออกไปจากตัวเมืองนะครับถ้าจะไปชมสนามหรือชมการแข่งขันที่สนามนี้
5 เหตุผลที่คุณควรไปเที่ยวยุโรปสักครั้งในชีวิต
ทัวร์ยุโรปกับ Wonderfulpackage ได้ที่ "ทัวร์ยุโรป"
แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบเดินทางร่วมกันกับผู้อื่นเราขอแนะนำประสบการณ์ในการเดินทางแบบใหม่เรียกว่าการเดินทางแบบเที่ยวส่วนตัวหรือว่า "Group and Go" นั่นเองค่ะ
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้