ค้นหาบทความ:

BOI คืออะไร? เหตุใดนักลงทุนชาวไทยและชาวต่างชาติจึงสนใจทำธุรกิจใน BOI?

BOI นักลงทุน

มีนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่ให้ความสนใจกับการทำธุรกิจในประเทศไทยมากกว่าประเทศอื่น เนื่องจากประเทศไทยเรามีข้อได้เปรียบอยู่หลายประการไม่ว่าจะเป็นด้านทรัพยากร ภูมิอากาศ ภูมิประเทศ ที่ตั้งเหมาะกับการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน โดยเฉพาะการขนส่งและการคมนาคมทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ มีแรงงานทักษะฝีมือคุณภาพจำนวนมาก มีวัตถุดิบทางการเกษตรที่มีศักยภาพทั้งปริมาณและคุณภาพ มีผลผลิตทางการเกษตรที่หลากหลาย เช่น ข้าว ยางพารา อ้อย ผักและผลไม้สด ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพียงพอที่จะสร้างกำไรและผลตอบแทนหลายๆ อย่างให้กับนักลงทุนที่มาลงทุนในประเทศไทยแล้ว

ดังนั้น ทางรัฐบาลจึงได้จัดตั้งโครงการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ขึ้นมา เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้กับนักลงทุนที่ต้องการทำธุรกิจในประเทศไทย และเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนมากขึ้นไปอีก

BOI คืออะไร??

BOI ย่อมาจาก Board of Investment คือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน

เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือและส่งเสริมการลงทุนให้กับกิจการที่อยู่ใน BOI เพื่อเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศไทย โดยการช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเริ่มต้นในการลงทุนและเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน ช่วยให้คำปรึกษาและบริการในการลงทุน เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้มาลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งบริษัทที่จะเข้าร่วม BOI ได้ต้องผ่านหลักเกณฑ์และตรงตามเงื่อนไขของ BOI เท่านั้น

ศึกษาหลักเกณฑ์การส่งเสริมการลงทุนได้ที่ https://bit.ly/3dAWDdt

บริการหลักของ BOI

  1. ให้คำปรึกษาแนะนำ ข้อมูลด้านการลงทุน และขอรับส่งเสริมการลงทุน
  2. ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน
  3. เชื่อมโยงและจัดหาผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ
  4. การจัดหาผู้ร่วมทุน
  5. แนะนำและรับรองผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยศูนย์บุคลากรทักษะสูง (Strategic Talent Center: STC)
  6. แนะนำการลงทุนของคนไทยในต่างประเทศ และจัดอบรมหลักสูตรการลงทุนของคนไทยในต่างประเทศ

ประเภทกิจการที่ BOI ให้การส่งเสริมการลงทุน มี 8 หมวด ดังนี้

หมวด ประเภทกิจการ ตัวอย่างกิจการ
1 เกษตรกรรมและผลิตผลจากการเกษตร การผลิตแป้งแปรรูป การผลิตอาหารทางการแพทย์
2 แร่ เซรามิกส์ และโลหะขั้นพื้นฐาน กิจการสำรวจแร่ กิจการผลิตแก้ว เซรามิกส์ ท่อเหล็ก วัสดุก่อสร้าง
3 อุตสาหกรรมเบา การผลิตเครื่องมือแพทย์หรือชิ้นส่วน การผลิตของเล่น การผลิตสิ่งทอ
4 ผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง การผลิตเครื่องจักร อุปกรณ์และชิ้นส่วน การผลิตเครื่องยนต์
5 อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ การผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า กิจการซอฟต์แวร์ กิจการออกแบบทางอิเล็กทรอนิกส์
6 เคมีภัณฑ์ พลาสติก และกระดาษ กิจการผลิตยา กิจการผลิตสิ่งพิมพ์ กิจการผลิตผลิตภัณฑ์จากกระดาษ
7 กิจการบริการและสาธารณูปโภค กิจการสาธารณูปโภคและบริการพื้นฐาน กิจการขนส่งมวลชน การบริการทางการแพทย์ กิจการเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว
8 การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม กิจการพัฒนา Biotechnology, Nanotechnology, Advanced Material Technology, Digital Technology

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3gZRLAX

กลุ่มอุตสาหกรรมประเภทกิจการที่ BOI ให้การส่งเสริมการลงทุน แบ่งเป็น 5 กลุ่มอุตสาหกรรม คือ

หมวด กลุ่มอุตสาหกรรม ประเภทกิจการ
1 กลุ่มการเกษตร เทคโนโลยีชีวภาพ และการแพทย์

อุตสาหกรรมเกษตรและแปรรูปอาหาร         
อุตสาหกรรมการแพทย์                                                            
อุตสาหกรรมชีวภาพ

2 กลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
อุตสาหกรรมเครื่่องจักรกล
อุตสาหกรรมยานยนต์
อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

3 กลุ่มอุตสาหกรรมพื้นฐานและอุตสาหกรรมสนับสนุน
อุตสาหกรรมแร่ โลหะ และวัสดุ
อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์และปิโตรเคมี
อุตสาหกรรมกระดาษ
อุตสาหกรรมพลังงาน สาธารณูปโภค และสิ่งแวดล้อม

4 กลุ่มดิจิทัล สร้างสรรค์ และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง  
อุตสาหกรรมสร้างสรรค์
อุตสาหกรรมดิจิทัล
การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ
อุตสาหกรรมโลจิสติกส์
อุตสาหกรรมบริการเฉพาะทาง
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
อุตสาหกรรมบริการอื่นๆ

5 กลุ่มวิจัยและพัฒนา และการพัฒนาเทคโนโลยีเป้าหมาย  กิจการวิจัยและพัฒนา
พัฒนาเทคโนโลยีเป้าหมาย ประกอบด้วย
กิจการพัฒนาเทคโนโลยีเป้าหมา

การขอรับ BOI มี 8 ขั้นตอน

1. ศึกษาข้อมูล

  • ผู้ขอรับ BOI ศึกษาข้อมูลผ่านทาง www.boi.go.th หรือ BOI ส่วนกลาง ภูมิภาค สำนักงานต่างประเทศ

2. ยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุน (ยื่น Online เท่านั้น)

  • ผู้ขอรับ BOI ยื่นคำขอผ่านระบบ e-Investment Promotion ทาง www.boi.go.th

3. ชี้แจงโครงการ

  • ผู้ขอรับ BOI นัดหมายเจ้าหน้าที่ BOI ผู้รับผิดชอบโครงการ เพื่อชี้แจงโครงการ ภายใน 10 วันทำการ นับตั้งแต่วันยื่นคำขอ

4. วิเคราะห์โครงการ

  • เจ้าหน้าที่ BOI ดำเนินการวิเคราะห์โครงการ โดยใช้ระยะเวลาการพิจารณาตามขนาดการลงทุน

5. แจ้งผลการพิจารณา

  • เจ้าหน้าที่ BOI ดำเนินการแจ้งผลพิจารณา ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่รับรองรายงานการประชุม

6. ตอบรับมติการส่งเสริมการลงทุน

  • ผู้ขอรับ BOI ตอบรับมติการส่งเสริมการลงทุน ภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่ได้รับหนังสือแจ้งมติ ได้ 2 ช่องทาง คือ ผ่านระบบ e-Investment Promotion หรือยื่นแบบตอบรับมติ BOI (แบบฟอร์ม F GA CT 07)

7. ขอรับบัตรส่งเสริม

  • ผู้ได้รับ BOI ยื่นขอรับ "บัตรส่งเสริม" พร้อมหลักฐานประกอบการพิจารณา ภายใน 6 เดือน ได้ 2 ช่องทาง คือ กรอกแบบฟอร์มผ่านระบบ e-Investment Promotion ทาง www.boi.go.th หรือกรอกแบบประกอบการขอรับบัตรส่งเสริม (แบบฟอร์มF GA CT 08) พร้อมยื่นเอกสารหลักฐานประกอบการออกบัตร

8. ออกบัตรส่งเสริม

  • เจ้าหน้าที่ BOI ดำเนินการออก "บัตรส่งเสริม" ภายใน 10 วันทำการ นับจากวันที่สำนักงานได้รับแบบฟอร์มขอรับบัตรส่งเสริมและหลักฐานครบถ้วน

ข้อมูลอื่นๆ

  • ขั้นตอนการขอรับการส่งเสริมการลงทุน https://bit.ly/2XXJKUc
  • ยื่นผ่านระบบสนับสนุนการลงทุน (e-Investment Promotion) https://bit.ly/3gV6nBi
  • แบบตอบรับมติการส่งเสริมการลงทุน F GA CT 07  https://bit.ly/3ctfSUR
  • แบบประกอบการขอรับบัตรส่งเสริม F GA CT 08  https://bit.ly/303lzqa

กิจการใน BOI ได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง??

1. สิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากร

  • ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สูงสุด 13 ปี (ขึ้นอยู่กับประเภทกิจการและเงื่อนไข)
  • ลดหย่อนภาษีเงินได้ 50% อีก 5 ปี (เฉพาะเขตส่งเสริมการลงทุนเท่านั้น)
  • ยกเว้น/ลดหย่อน อากรขาเข้าเครื่องจักร
  • ยกเว้น/ลดหย่อน อากรขาเข้าวัตถุดิบ
  • ยกเว้น อากรของนำเข้าเพื่อวิจัยและพัฒนา

2. สิทธิประโยชน์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาษีอากร

  • อนุญาตให้ชาวต่างชาติถือหุ้นได้ 100% (ยกเว้นกิจการที่มีกฎหมายอื่นกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ)
  • อนุญาตให้ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน
  • อนุญาตให้ชาวต่างชาติที่เป็นช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการเข้ามาทำงานในไทยได้
  • อนุญาตให้ครอบครัวติดตามพนักงานต่างชาติเข้ามาไทยได้ (พ่อแม่ คู่สมรส ลูก)
  • อนุญาตให้ชาวต่างชาติส่งเงินหรือโอนเงินไปต่างประเทศได้

การอนุมัติโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุน มีหลักเกณฑ์อะไรบ้าง?

  1. การพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ
  2. การป้องกันผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม
  3. มีเงินลงทุนขั้นต่ำและความเป็นไปได้ของโครงการ

ทั้งนี้ การนำบริษัทเข้า BOI นั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะต้องอาศัยความละเอียดรอบคอบในการจัดเตรียมเอกสาร การตรวจสอบเงื่อนไขว่ากิจการตรงตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ทาง BOI กำหนดหรือไม่ หากตรงตามที่ BOI กำหนด และเอกสารครบถ้วนก็สามารถยื่นคำขอได้เลย การขอรับการสนับสนุนจาก BOI จะได้ช่วยให้ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมายที่ดีต่อธุรกิจแน่นอน 

ตรวจสอบการยื่นคำขอรับการส่งเสริม ได้ที่่ https://bit.ly/36Y6CXS


หลักเกณฑ์การอนุมัติโครงการ พ.ศ. 2563

1. โครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนต้องมีคุณสมบัติดังนี้

1.1 ต้องมีมูลค่าเพิ่มไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของรายได้ ยกเว้นกิจการเกษตรกรรมและผลิตผลจากการเกษตร กิจการอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน และกิจการตัดโลหะ ต้องมีมูลค่าเพิ่มไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของรายได้
1.2 ต้องมีกรรมวิธีการผลิตที่ทันสมัย
1.3 ต้องใช้เครื่องจักรใหม่ กรณีใช้เครื่องจักรจากต่างประเทศจะมีหลักเกณฑ์การพิจารณาแบ่งเป็น 3 กรณี คือ กรณีทั่วไป กรณีย้ายฐานการผลิต และกรณีอื่นๆ
**** หมายเหตุ

  1. คำว่า “ย้ายฐานการผลิต” หมายถึง การย้ายสายการผลิตบางส่วนหรือทั้งหมดมาจากต่างประเทศ เครื่องจักรจะต้องเป็นของบริษัทในเครือหรือบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกัน
    1. ใบรับรองประสิทธิภาพเครื่องจักร หมายถึง ใบรับรองจากสถาบันที่เชื่อถือได้ในการรับรองประสิทธิภาพเครื่องจักร ต้องระบุรายละเอียด 6 ประการคือ
      1) รายละเอียดของการปรับปรุงซ่อมแซมและผลการวิเคราะห์อายุการใช้งานที่เหลืออยู่
      2) ปีที่ผลิต
      3) ผลของการทดสอบเดินเครื่อง
      4) รายงานการตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มาตรฐานความปลอดภัย และการใช้พลังงาน
      5) การประเมินราคาที่เหมาะสม
      6) รายงานการตรวจสอบ วันที่ และสถานที่ที่ทำการตรวจสอบ * เครื่องบินในกิจการขนส่งทางอากาศจะต้องมีอายุไม่เกิน 14 ปี

1.4 โครงการที่มีเงินลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) ตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ต้องมีรับใบรับรองระบบคุณภาพตามมาตรฐาน ISO 9000 หรือ ISO 14000 หรือมาตรฐานสากลอื่นที่เทียบเท่า ภายใน 2 ปี นับแต่วันครบเปิดดำเนินการ  **หากไม่จะถูกเพิกถอนสิทธิและประโยชน์การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 1 ปี

1.5 สำหรับกิจการที่ได้รับสัมปทาน และกิจการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการจะใช้แนวทางการพิจารณาดังนี้
      1) โครงการลงทุนของรัฐวิสาหกิจตามพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 จะไม่อยู่ในข่ายที่ จะได้รับการส่งเสริม
      2) โครงการที่ได้รับสัมปทานที่เอกชนดำเนินการ โดยจะต้องโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่รัฐ (Build Transfer Operate หรือ Build Operate Transfer) หน่วยงานของรัฐที่เป็นเจ้าของโครงการดังกล่าว ต้องเสนอโครงการให้คณะกรรมการพิจารณาก่อนออกประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมประมูล และในขั้นการประมูลต้องมีประกาศระบุโดยชัดเจนว่าเอกชนจะได้รับสิทธิและประโยชน์ใดบ้าง คณะกรรมการจะไม่ให้การส่งเสริมกรณีเอกชนต้องจ่ายผลตอบแทนให้แก่รัฐในการรับสัมปทาน เว้นแต่เป็นผลตอบแทนที่สมเหตุสมผลกับการลงทุนที่รัฐใช้ไปในโครงการนั้้น
      3) โครงการของรัฐที่ให้เอกชนลงทุนและเป็นเจ้าของ (Build Own Operate) รวมทั้งให้เอกชนเช่าหรือบริหาร โดยจ่ายผลตอบแทนให้รัฐในลักษณะค่าเช่า คณะกรรมการจะพิจารณาให้การส่งเสริม ตามหลักเกณฑ์ทั่วไป
      4) การแปรรูปจากรัฐวิสาหกิจเป็นบริษัทจำกัด จะขอรับการส่งเสริมได้เฉพาะส่วนที่ลงทุนเพิ่ม โดยจะได้รับสิทธิและประโยชน์ตามหลักเกณฑ์ทั่วไป

2. การป้องกันผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม

2.1 ต้องมีแนวทางและมาตรการในการป้องกันและลดผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่เพียงพอและมี ประสิทธิภาพ
2.2 กรณีกิจการใดที่มีรายละเอียดโครงการหรือกิจกรรมต่อเนื่อง ที่อยู่ในข่ายตามประเภทและขนาดโครงการที่ต้องทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยสิ่งแวดล้อม
2.3 โครงการที่ตั้งในจังหวัดระยอง ต้องปฏิบัติตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เรื่อง นโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดระยอง

         3. เงินลงทุนขั้นต่ำและความเป็นไปได้ของโครงการ
3.1 ต้องมีเงินลงทุนขั้นต่ำของแต่ละโครงการไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน)
*** เว้นแต่กรณีในบัญชีประเภทกิจการที่ให้การส่งเสริมการลงทุนท้ายประกาศ สำหรับกลุ่มธุรกิจบริการที่ใช้ฐานความรู้เป็นปัจจัยหลักในการดำเนินธุรกิจ ให้พิจารณาเงินลงทุนขั้นต่ำจากเงินเดือนบุคลากรต่อปี
3.2 ต้องมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนจดทะเบียนไม่เกิน 3 ต่อ 1 สำหรับโครงการริเริ่ม ส่วนโครงการขยายจะพิจารณาตามความเหมาะสมเป็นรายกรณี
3.3 โครงการที่มีเงินลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) มากกว่า 750 ล้านบาท ต้องเสนอรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ

หลักเกณฑ์การถือหุ้นของต่างชาติสำหรับโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุน ดังนี้

  1. โครงการลงทุนในกิจการตามที่ปรากฏในท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ต้องมีผู้มีสัญชาติไทยถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 ของทุนจดทะเบียน
  2. โครงการลงทุนในกิจการตามที่ปรากฏในบัญชีสอง และบัญชีสาม ท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 อนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นข้างมากหรือทั้งหมดได้** เว้นแต่กรณีที่มีกฎหมายอื่นกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ
  3. เมื่อมีเหตุผลอันสมควร คณะกรรมการอาจกำหนดสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติเป็นการเฉพาะ

ขอบคุณข้อมูลจาก

  • BOI
  • Pro Ind Solutions
  • สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) :https://www.boi.go.th/index.php?page=guides

บริการ Work Permit & VISA


What is BOI?  Why are Thai and foreign investors interested in doing business in the BOI?

BOI是什么?为何泰国和外国投资者想在BOI 开展业务?

แชร์ บทความนี้

พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้

เนื้อหา ที่เกี่ยวข้อง

ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ใบขออนุญาตทำงานใกล้หมดอายุแล้ว แต่ผู้ขอยื่นยังอยู่ต่างประเทศต้องทำอย่างไร

จากเหตุการณ์ปิดประเทศทั่วโลกเพราะโควิด-19 ระบาด รวมถึงประเทศไทยด้วย ชาวต่างชาติที่ต้องการต่ออายุ Work Permit และ Non-B Visa เพราะใกล้หมดอายุ แต่ตอนนี้ยังอยู่ต่างประเทศไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้จะทำอย่างไรดี?

The World's Best Airports of 2022 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก จาก SKYTRAX

แพลนเดินทางกันล่วงหน้า เช็ครายชื่อสนามบินกันก่อน เป็นการจัดลำดับเป็นประจำทุกปีจาก SKYTRAX ที่จะมาบอกว่าสนามบินใดเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลก โดยได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งในปี 2022 นี้จะมีอันดับปรับเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง มาดูกัน

Q&A ถาม-ตอบ เกี่ยวกับใบอนุญาตทำงาน (Work permit)

สำหรับใครที่กำลังสงสัยเกี่ยวกับใบอนุญาตทำงาน (Work permit) ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรของการยื่นขอใบอนุญาตทำงาน ต่ออายุวีซ่าทำงาน เปลี่ยนประเภทวีซ่าทำงาน ในประเทศไทยสำหรับคนต่างชาติ

วิธีขอพรไอ้ไข่วัดเจดีย์ นครศรีธรรมราช

นาทีนี้ไม่ต้องพูดถึงเสียงร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์และความแม่นในการให้โชคลาภของไอ้ไข่วัดเจดีย์ ทั้งเรื่องขอหวย หรือขอให้ค้าขายร่ำรวย รวมไปถึงการเช่าไปบูชาไปอีก วันนี้เราเลยจะมาแนะวิธีขอพรไอ้ไข่วัดเจดีย์ นครศรีธรรมราช ว่าเขาทำกันอย่างไร จะได้ทำได้อย่างถูกต้อง

ชาวต่างชาติมีเฮ! ใบอนุญาตทำงาน ที่ไทย และ วีซ่าธุรกิจ มีคนช่วยทำแล้ว

ชาวต่างชาติมีเฮ! ใบอนุญาตทำงาน ที่ไทย และ วีซ่าธุรกิจ มีคนช่วยทำแล้ว ทำ Work Permit & Visa Non-B ของประเทศไทยยากไหม? Wonderful Package มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำและมีบริการ บริษัทรับทำ Work Permit & Visa Non-B ให้กับทุกท่าน

มารู้จัก ภงด.90 และ ภงด.91 กันดีกว่า

ผู้ที่ต้องชำระภาษี จะต้องมีการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อเป็นการแสดงหลักฐานการเสียภาษีตามกฎหมาย สำหรับแบบยื่นภาษีนั้น เราจะเรียกว่า "ภ.ง.ด." ย่อมาจาก ภาษีเงินได้ ซึ่งการยื่นแบบภาษีแต่ละชนิด จะมีรูปแบบที่แตกต่างกัน

ชมวิวทะเล อิงแอบธรรมชาติ Soneva Kiri เกาะกูด

ความหรูหรามีระดับกับการพักผ่อนแนบชิดธรรมชาติแบบขั้นสุด บินสู่ที่พักด้วยเครื่องบินส่วนตัว ที่ Soneva Kiri รีสอร์ทหรูสุด Luxury ที่เกาะกูด จังหวัดตราด รีสอร์ทที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์ สูดอากาศสดชื่นให้เต็มปอดในทั่วทุกอณูที่อยู่ที่นี่

เกร็ดความรู้กับการต่ออายุใบอนุญาตทำงาน หรือ Work Permit

ใครที่มีปัญหาข้อสงสัยเกี่ยวกับการต่อใบอนุญาต เช่น ดำเนินการต่อภายในกี่วัน ระหว่างรอผลอนุญาตจะทำงานได้ไหม จะได้รับใบอนุญาตกี่ปี เป็นต้น Wonderful Package มีเกร็ดความรู้มาบอกต่อค่ะ!!

จะขอ Visa Non-B และ Work Permit ต้องใช้แบบฟอร์มอะไรบ้าง?

เคยไหม.. อยากได้ Visa Non-B และ Work Permit แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี หากูเกิ้ลก็แล้ว พันทิปก็แล้ว มีหลายแบบฟอร์มให้เลือกกรอกเยอะแยะมากมาย..ดูจนตาลาย ไม่รู้จะใช้แบบฟอร์มถูกไหม เชิญทางนี้ค่ะ Wonderful Package ได้รวบรวมข้อมูลและสรุปเป็นตารางมาให้ทุกท่านเลือกใช้

มารู้จักชื่อเรียกต่างๆ ที่เกี่ยวกับ Passport, Visa, Work Permit กันดีกว่า..

หลายคนเคยสงสัยและสับสนกับวิธีเรียกชื่อประเภทต่างๆ ของ Passport, Visa, Work Permit ไม่ว่าจะเป็นทั้งชาวต่างชาติหรือคนไทย ซึ่งรู้ไหมว่าแต่ละตัวมีหลายประเภทมากเลย ใช้งานก็แตกต่างกัน แถมยังมีหลายชื่อเรียกอีกต่างหาก แล้วชาวต่างชาติที่อยากเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทยจะต้องใช้วีซ่าประเภทไหน

บทความที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ลงทะเบียนรับข่าวสาร WonderfulPackage วันนี้!

รับสิทธิพิเศษและส่วนลดมากมาย เหนือกว่าใคร!