ค้นหาบทความ:

สนใจทัวร์เกาหลี คลิก


ประวัติศาสตร์เกาหลี เรื่องราวความเป็นมาในแต่ละยุคของเกาหลี

 เกาหลี

คาบสมุทรเกาหลีเป็นดินแดนที่มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน เริ่มแต่เป็นดินแดนของผู้คนหลากเผ่าพันธุ์ จนกระทั่งรวมตัวขึ้นเป็นอาณาจักรเล็กๆ ต่อมาถูกจีนยึดครอง เมื่อได้เอกราชจากจีน คาบสมุทรเกาหลีประกอบด้วยสามอาณาจักสำคัญก่อนจะรวมตัวกันเป็นอาณาจักรเดียวปกครองด้วยราชวงศ์ 2 ราชวงศ์ จนถูกญี่ปุ่นยึดครองเป็นอาณานิคมจนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่2 ตามมาด้วยสงครามเกาหลีที่ทำให้ต้องแบ่งเป็น 2 ประเทศในปัจจุบันคือเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ มีความพยายามที่จะรวมประเทศทั้งสองแต่ยังไม่สำเร็จ

ยุคเผ่า

ในยุคแรกดินแดนบนคาบสมุทรเกาหลีประกอบด้วยผู้คนหลายเผ่าพันธุ์ เผ่าแรกที่ปรากฏคือเผ่าโชซอนโบราณ ตั้งถิ่นฐานอยู่ทางภาคเหนือ เรืองอำนาจในช่วงพ.ศ. 143 – 243 ส่วนเผ่าอื่นได้แก่เผ่าพูยอ อยู่บริเวณปากแม่น้ำซุงคารีทางแมนจูเรียเหนือ เผ่าโกคูรยออยู่ระหว่างแม่น้ำพมาก และแม่น้ำอัมนูก เผ่าโอกจออยู่บริเวณมณฑลฮัมกยองเผ่าทงเยอยู่บริเวณมณฑลคังวอน และเผ่าสามฮั่นคือ มาฮั่น ชินฮั่น และพยอนฮั่น ที่อยู่บริเวณแม่น้ำฮั่นและแม่น้ำนักดงทางภาคใต้ของคาบสมุทรเกาหลี

พระมหากษัตริย์ในตำนาน

ตำนานที่เป็นที่แพร่หลายในประเทศเกาหลีเล่าถึงกำเนิดของชนชาติตนว่า เจ้าชายฮวางวุง โอรสของเทพสูงสุดบนสวรรค์ลงมาสร้างเมืองที่ภูเขาแตแบกซาน ได้แต่งงานกับหญิงที่มีกำเนิดจากหมี มีโอรสชื่อตันกุน ต่อมาเป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรโชซอนโบราณ เมื่อ 1790 ปีก่อนพุทธศักราช

ดินแดนคาบสมุทรเกาหลีตกเป็นเมืองขึ้นจีนเมื่อ พ.ศ. 434 เมื่อจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ หรือ กวนอู่ตี้ แห่งราชวงศ์ฮั่น ยกทัพเข้ายึดครองดินแดนของอาณาจักรโชซอนโบราณ และแบ่งเกาหลีเป็น 4 มณฑล คืออาณาจักรนังนัง ชินบอน อิมดุน และฮยอนโท อย่างไรก็ตาม จีนปกครองมณฑลนังนังอย่างจริงจังเพียงมณฑลเดียว มณฑลอื่นๆจึงค่อยๆแยกตัวเป็นเอกราช จน พ.ศ. 856 ชนเผ่าโคกุรยอเข้ายึดครองมณฑลนังนัง ขับไล่จีนออกไปได้สำเร็จ การตกเป็นเมืองขึ้นของจีนทำให้เกาหลีได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากจีนมาก เช่น ตัวอักษรและศาสนา (พุทธและขงจื้อ)

ยุคสามก๊ก ราชอาณาจักรทั้ง 3 ของเกาหลี

เมื่อเป็นเอกราชจากจีน ดินแดนเกาหลีในขณะนั้นแบ่งเป็น 3 อาณาจักรด้วยกันคือ

อาณาจักรโกคูรยอ ทางภาคเหนือ เผ่าโคกุรยอเริ่มเข้มแข็งมากขึ้นเมื่อราชวงศ์ฮั่นของจีนล่มสลาย และสามารถขยายอำนาจเข้ายึดครองมณฑลนังนังจากจีนได้เมื่อ พ.ศ. 856

อาณาจักรแพกเจ ชนเผ่าแพกเจซึ่งเป็นเผ่าย่อยของเผ่าพูยอที่อพยพลงใต้ เข้ายึดครองอาณาจักรอื่นรวมทั้งอาณาจักรเดิมของเผ่าฮั่น ตังเป็นอาณาจักรเมื่อ พ.ศ. 777

อาณาจักรชิลลา อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของคาบสมุทรเกาหลี พัฒนาขึ้นจากเผ่าซาโร แต่อาณาจักรนี้ไม่เข้มแข็งมากนักในช่วงแรก ดำเนินนโยบายเป็นมิตรกับอาณาจักรโคกุรยอตลอดจนกระทั่งหลังสงครามระหว่างอาณาจักรโคกุรยอกับแพกเจ อาณาจักรชิลลาจึงเข้มแข็งขึ้นเป็นลำดับ จนสามารถยึดครองลุ่มแม่น้ำฮั่นและลุ่มแม่น้ำนักดงจากอาณาจักรแพกเจได้

ยุคอาณาจักรเอกภาพ อาณาจักรซิลลา

เมื่ออาณาจักรชิลลาเข้มแข็งขึ้น อาณาจักแพกเจจึงหันไปผูกมิตรกับอาณาจักรโกคูรยอส่วนอาณาจักรชิลลาหันไปผูกมิตรกับราชวงศ์สุยและราชวงศ์ถังของจีน กองกำลังผสมระหวางจีนและชิลลายึดครองอาณาจักรแพกเจได้เมื่อ พ.ศ.1203 และยึดครองอาณาจักรโกคูรยอได้ใน พ.ศ.1211 โดนจีนเข้ามาปกครองอาณาจักรโกคูรยอในช่วงแรก ต่อมาอาณาจักรชิลลากับราชวงศ์ถังเกิดขัดแย้งกันอาณาจักรชิลลาจึงเข้ายึดอาณาจักรโกคูรยอจากจีนและเข้าปกครองคายสมุทรเกาหลีอย่างเด็ดขาดเมื่อ พ.ศ.1278

อาณาจักรชิลลาเจริญสูงสุดในยุคกษัตริย์คยองตอก หลังจากนั้นได้เสื่อมลงโดยสาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งในหมู่เชื้อพระวงศ์และเกิดการปฏิวัติบ่อยครั้ง กลุ่มชาวนาและกลุ่มอำนาจท้องถิ่นที่รู้สึกว่าถูกกดขี่ได้รวมกำลังกันต่อต้านอำนาจรัฐ วังกอน ผู้นำกลุ่มต่อต้านคนหนึ่ง เข้ายึดอำนาจและสถาปนาราชวงศ์โครยอขึ้นเมื่อ พ.ศ.1478

ยุคอาณาจักรเหนือใต้

เมื่ออาณาจักรโกคูรยอและอาณาจักรแพกเจถูกอาณาจักรชิลลาตีจนแตกพ่ายไปนั้น มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งรวบรวมชาวบ้านที่เป็นชาวโกคูรยอที่ถูกทัพชิลลาโจมตีแล้วอพยพขึ้นเหนือ แล้วก่อตั้งอาณาจักรใหม่มีชื่อว่า อาณาจักรบัลแฮ แล้วทางใต้ก็มีอาณาจักรชิลลาที่รวมแผ่นดินของอาณาจักรโกคูรยอ อาณาจักรแพกเจ และอาณาจักรชิลลาเดิมเข้าด้วยกันแล้วเรียกว่า อาณาจักรชิลลา ในยุคนี้จึงมีสองอาณาจักรที่อยู่ทางเหนือคืออาณาจักรบัลแฮที่สืบต่อจากอาณาจักรโกคูรยอเดิม และทางใต้มีอาณาจักรชิลลาที่รวมอาณาจักรโกคูรยอเดิมอาณาจักรแพกเจเดิมและอาณาจักรชิลลาเดิมเข้าเป็นอาณาจักรเดียว จึงเรียกยุคนี้ว่า ยุคอาณาจักรเหนือใต้

ยุคสามอาณาจักรหลัง

หลังจากอาณาจักรบัลแฮถูกราชวงศ์เหลียวตีจนแตกนั้นประชาชนพากันอพยพลงใต้มาบริเวณอาณาจักรโกคูรยอเดิม แล้วเชื้อพระวงศ์ของอาณาจักรบัลแฮ ก็สถาปนาอาณาจักรใหม่บริเวณอาณาจักรโกคูรยอเดิม แล้วให้ชื่อว่า อาณาจักรโกคูรยอ แล้วสถาปนาตนเองป็นกษัตริย์พระนามว่าพระเจ้ากุงแย ส่วนชาวแพกเจที่อยู่อาณาจักรชิลลาก็ได้ก่อกบฏต่ออาณาจักรรวมชิลลามีหัวหน้าคือ คยอน ฮวอน แล้วไปตั้งถิ่นฐานที่บริเวณอาณาจักรแพกเจเดิมแล้วให้ชื่อว่า อาณาจักรแพกเจ แล้วสถาปนาตนเองเป็นกษัตริย์พระนามว่า พระเจ้าคยอน ฮวอน แล้วทำการก่อกบฏต่ออาณาจักรรวมชิลลาทำให้ชิลลาเกิดความระส่ำระส่าย จึงถือเป็นยุคสามอาณาจักรยุคหลัง

ยุคอาณาจักรโครยอ

วังฮูมาสถาปนาตนเองเป็นกษัตริย์แทโจแห่งราชวงศ์โคเรียวเมื่อ พ.ศ. 1486 อาณาจักรนี้เจริญสูงสุดในสมัยกษัตริย์มุนจง ยุคนี้เป็นยุคที่ส่งเสริมพระพุทธศาสนามีการทำสงครามกับพวกญี่ปุ่นและมองโกล ถูกจีนควบคุมในสมัยราชวงศ์หยวน จนเมื่ออำนาจของราชวงศ์หยวนอ่อนแอลง อาณาจักรโครยอต้องพบกับปัญหาโจรสลัดญี่ปุ่นและการรุกรานของราชวงศ์หมิง ในที่สุดทำให้ฝ่ายทหารมีอำนาจมากขึ้นจนนำไปสู่การยึดอำนาจของนายพล อีซองกเย และสถาปนาราชวงศ์ใหม่ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1935

ยุคราชวงศ์โชซอน

นายพล ลี ซองเกสถาปนาตนเองเป็นกษัตริย์แทโจแห่งราชวงศ์โชซอน ในสมัยนี้ส่งเสริมลัทธิขงจื้อให้เป็นลัทธิประจำชาติและเริ่มลดอิทธิพลของพุทธศาสนา สมัยกษัตริย์เซจงมหาราช ทรงประดิษฐ์อักษรฮันกึลขึ้นใช้แทนอักษรจีน

เกาหลีมีความขัดแย้งกับชาติตะวันตกโดยเฉพาะเรื่องคริสต์ศาสนาและความแตกแยกในหมู่ขุนนางทำให้ราชวงศ์นี้เสื่อมลง จนถูกญี่ปุ่นยึดครองและล้มล้างระบอบกษัตริย์ไปในที่สุด

เที่ยวเกาหลี เที่ยวเองก็ได้กับแพคเกจโดนๆ


สนใจไปทัวร์เกาหลีกับ Wonderfulpackage คลิกที่นี่

แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบเดินทางร่วมกันกับผู้อื่นเราขอแนะนำประสบการณ์ในการเดินทางแบบใหม่เรียกว่าการเดินทางแบบเที่ยวส่วนตัวหรือว่า "Group and Go" นั่นเองค่ะ

แชร์ บทความนี้

พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้

เนื้อหา ที่เกี่ยวข้อง

ถนนสายโรแมนติกถ็อกซูกุง (Deoksugung Stone-wall Road)

เกาหลีใต้ ประเทศที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกที่หลายๆ คู่อยากจะชวนกันไปเดินจูงมือสักครั้ง ซึ่งถนนสายโรแมนติกก็มีอยู่หลายจุดด้วยกัน และหนึ่งจุดที่น่าพากันไปเดินเล่นก็คือ ถนนสายโรแมนติกถ็อกซูกุง (Deoksugung Stone-wall Road)

UNESCO World Heritage in KOREA ย้อนยุคสู่อดีต เยือนที่สุดเมืองมรดกโลก เกาหลีใต้

พาย้อนเวลาสู่ยุครุ่งเรืองในอดีตของเกาหลีใต้ กับแหล่งมรดกโลกเกาหลีใต้สวยงามยิ่งใหญ่อลังการ พร้อมด้วยอีกหลายแห่งที่เป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์อันน่าค้นหา และสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ โดยมีหลายแห่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ควรค่าแก่การเยือน

เข้าเกาหลีง่ายนิดเดียวด้วย K-ETA ระบบอนุมัติการเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้

สิ้นสุดการรอคอย สำหรับใครที่กำลังรอที่จะเดินทางท่องเที่ยวเกาหลี ตอนนี้เกาหลีเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้ว สำหรับประเทศที่สามารถเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า นั่นหมายความว่าเราสามารถเดินทางเข้าเกาหลีได้แล้ว เพียงแค่กรอกข้อมูลในระบบ K-ETA

ไปร่ายเวทมนตร์เสกคาถา Harry Potter 943 King's Cross Cafe @Korea

สาวก Harry Potter ห้ามพลาด! 943 King's Cross Cafe คาเฟ่ในเกาหลีที่มาในธีมพ่อมดน้อยแฮร์รี่พอตเตอร์ ไปพักผ่อนจิบเครื่องดื่มและขนมเก๋ๆ พร้อมหลุดเข้ามาในโลกแฟนตาซี ตามไปร่ายเวทมนตร์เสกคาถาพร้อมๆ กันเลย

Beautiful Korea Park สวนสวย สุดโรแมนติก ในเกาหลี

ได้เวลาของความโรแมนติกแห่งเกาหลีกันแล้ว สำหรับใครที่กำลังรอคอยเพื่อจะไปเที่ยวชมบรรยากาศสวยๆ สุดโรแมนติก ตามรอยซีรีย์ดังในหลายๆ เรื่อง บอกเลยว่าที่เกาหลีมีสวนสาธารณะสวยๆ ให้เราเที่ยวชมเยอะมาก คัดมาแล้วเน้นๆ สวนสวยในเกาหลีที่สายโรแมนติกไม่ควรพลาด!

ไปใส่ฮันบก เที่ยวเกาหลีแบบย้อนยุค หมู่บ้านบุกชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village)

อยากใส่ชุดฮันบกสวยๆ แล้วไปถ่ายรูปให้ได้ฟีลซีรีย์เกาหลีกันไหม แนะนำไปเดินเล่นแบบย้อนยุคพร้อมเช็คอินเก๋ๆ ที่หมู่บ้านบุกชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village) ได้ฟีลเกาหลีในยุคโบราณ แถมพอได้ใส่ชุดฮันบกมาถ่ายรูปด้วยแล้ว ยิ่งเข้ากันเป็นที่สุด

Garosu-gil (신사동 가로수길) กาโรซูกิล ถนนสายแฟชั่นสุดฮิปในเกาหลี

สายฮิป สายแฟชั่น ต้องไม่พลาดไปช้อปปิ้งในถนนสุดฮิต กาโรซูกิล (Garosu-gil) ซึ่งอยู่ในกรุงโซล เกาหลีใต้ ที่ที่เต็มไปด้วยตึกดีไซน์เก๋ๆ คาเฟ่ ร้านอาหารน่านั่ง ของช้อปปิ้งแฟชั่นสวยๆ กับบรรยากาศที่มีต้นไม้เรียงเป็นแนวตลอดสองข้างทาง ไปเที่ยวเกาหลีแนะนำให้ไปเดินเล่นถนนเส้นนี้กันดูค่ะ

ตามรอยซีรีย์ดัง สุดโรแมนติก เกาะนามิ เกาหลี

เกาะนามิ เป็นเกาะสวยสุดโรแมนติกแห่งหนึ่งของเกาหลี ด้วยความโด่งดังจากซีรีย์เกาหลีที่มีเกาะนามิเป็นฉากหลัง และเรื่องราวความรักสุดโรแมนติก ยิ่งทำให้เกาะเล็กๆ แห่งนี้มีเสน่ห์เย้ายวนชวนให้ใครต่อใครอยากมาเที่ยวตามรอยสักครั้ง

Laveniche March Avenue (라베니체 마치에비뉴) เวนิสแห่งเกาหลี

ไปเกาหลีครั้งนี้ ต้องไม่พลาด แลนด์มาร์กใหม่ของเกาหลีที่คยองกิโด Laveniche March Avenue เป็นเวนิสแห่งเกาหลี ที่ตั้งอยู่ในเมืองกิมโป แหล่งช้อปปิ้งกลางแจ้งที่ไม่ธรรมดา เพราะได้เนรมิตสถานที่แห่งนี้ให้ได้บรรยากาศคล้ายกับคลองเวนิส ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากคลองเวนิสที่ประเทศอิตาลีนั่นเอง

เตรียมเปิดแล้ว เกาะเจจู คนไทยเข้าได้ ไม่ใช้วีซ่า ไม่ต้องขอ K-ETA เริ่ม 1 มิถุนายน 2565 นี้

เกาหลีใต้ จะอนุญาตให้เดินทางโดยไม่มีวีซ่าไปยังเกาะเจจู และ สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มไปยังหยางหยาง สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสำหรับนักโต้คลื่น เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน เนื่องจากประเทศกลับมาเป็นปกติในชีวิตประจำวันและข้ามพรมแดน

บทความที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ลงทะเบียนรับข่าวสาร WonderfulPackage วันนี้!

รับสิทธิพิเศษและส่วนลดมากมาย เหนือกว่าใคร!