ญี่ปุ่น ประกาศเปิดประเทศ 1 มี.ค. นี้ พร้อมต้อนรับชาวต่างชาติ หลังปิดมานานเกือบ 2 ปี

เมื่อวันที่ 20 ก.พ.65 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีฟูมิโอ คิชิดะ ประเทศญี่ปุ่น ประกาศเตรียมผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากใช้มาตรการควบคุมที่เข้มข้นที่สุด ในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 7 ชาติ (G7) โดยญี่ปุ่นห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศ ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2563 จนปัจจุบันนานเกือบ 2 ปี
JR Kansai Wide Pass ต่างชาติอยู่ในญี่ปุ่น ใช้ได้ 10,000 เยน 3 วัน
ญี่ปุ่น ลดกักตัว เหลือ 7-10 วัน เลือก หยุดเชื้อโควิด แต่ไม่หยุดสังคม
และข่าวดี นายกรัฐมนตรี ประเทศญี่ปุ่น ประกาศผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศของ ชาวต่างชาติ เพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่จากการท่องเที่ยว ซึ่งจะได้รับอนุญาตภายใต้แนวทางปฏิบัติ และ การตรวจสอบดูแลจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 นี้เป็นต้นไป โดยญี่ปุ่น จะเริ่มอนุญาตให้เฉพาะ ผู้เดินทางด้านธุรกิจ นักเรียน นักศึกษา แล ะผู้ฝึกงานด้านเทคนิค เดินทางเข้าประเทศได้
และสำหรับคนที่มาจากประเทศเสี่ยงสูง กักตัวจะยังคงอยู่ที่ 7 วัน จะยังคงต้องใช้เวลาพำนักอยู่ที่โรงแรมที่ทางรัฐบาลจัดหาไว้ให้ แต่สำหรับนักเดินทาง ที่มีหลักฐานผลตรวจไวรัสเป็นลบ และ เข้าเงื่อนไขอื่น ๆ ก็สามารถลดเวลาในการกักตัวเหลือเพียง 3 วันได้ ส่วนคนที่มาจากประเทศที่ไม่มีความเสี่ยงและได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิแล้ว (วัคซีนเข็ม 3) สามารถข้ามกฎเกณฑ์นี้ไปได้เลย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ให้คำมั่นว่า จะลดความซับซ้อนของขั้นตอนสำหรับบริษัทต่าง ๆ ในการนำคนงานเข้ามาทำงานในญี่ปุ่น แต่บรรดานักธุรกิจในชุมชนธุรกิจจำนวนมาก ซึ่งทาง CEO ของหอการค้าและอุตสาหกรรมเยอรมนีในประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า การผ่อนคลายก็เป็นขั้นตอนหนึ่งที่มาถูกทางแล้ว แต่ยังคงไม่เพียงพอ
จากข้อมูลเมื่อช่วงต้นเดือน มกราคมที่ผ่านมา มีชาวต่างชาติประมาณ 400,000 คน รอเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งทางญี่ปุ่นจะเพิ่มจำนวนผู้เข้าประเทศจาก 3,500 คน เป็น 5,000 คนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ชาวญี่ปุ่น ส่วนใหญ่สนับสนุนมาตรการคุมเข้มพรมแดน ร้อยละ 57 ที่ว่า การห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศครั้งใหม่ ควรจะยังคงใช้ต่อไป และ ร้อยละ 32 เท่านั้นที่บอกว่า ควรผ่อนคลาย ซึ่งทำให้รัฐบาลกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ฐานล่าช้าในการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิ โดยมีประชาชนเพียงร้อยละ 12 เท่านั้นที่ได้ฉีดวัคซีน 3 เข็ม
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้